While legend traces this statue to

While legend traces this statue to India, its rich historical records dates its finding in Cambodia in the 15th century, moved to Laos in the 16th century and then to Vientiane where it remained for 215 years, and finally to Thailand in the 18th century. Considering the long history and Nagasena's (a Brahmin who became a Buddhist sage and lived about 150 BC) prophesy that the Emerald Buddha would bring "prosperity and pre-eminence to each country

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะที่ตำนานร่องรอยของรูปปั้นนี้ไปยังประเทศอินเดียบันทึกที่หลากหลายในประวัติศาสตร์วันที่ค้นพบในประเทศกัมพูชาในศตวรรษที่ 15 ย้ายไปอยู่ที่ประเทศลาวในสมัย​​ศตวรรษที่ 16 แล้วไปเวียงจันทน์ที่มันยังคงใช้เวลา 215 ปีและในที่สุดก็ถึงประเทศไทยในศตวรรษที่ 18พิจารณาประวัติศาสตร์อันยาวนานและ Nagasena ของ (พราหมณ์ซึ่งกลายมาเป็นปราชญ์ทางพุทธศาสนาและอาศัยอยู่ประมาณ 150 BC) เผยพระวจนะที่พระศรีรัตนศาสดารามจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง "และความเด่นแต่ละประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่ตำนานการสืบค้นกลับนี้รูปปั้นอินเดีย ระเบียนของประวัติศาสตร์ที่อุดมไปด้วยวันนั้นหาในกัมพูชาในศตวรรษ 15 ย้าย ไปลาวในศตวรรษ 16 และเวียงจันทน์ซึ่งมันยังคงสำหรับ 215 ปี และในที่สุดในประเทศไทยในศตวรรษที่ 18 พิจารณาประวัติศาสตร์ยาวนานและ Nagasena ของ (พราหมณ์ผู้เป็น ปราชญ์พุทธ และอาศัยอยู่ประมาณ 150 BC) prophesy ที่ พระจะนำมาซึ่ง "ความเจริญรุ่งเรืองและเนินก่อนแต่ละประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในขณะที่ตำนานลายวงจรขาด Statue แห่งนี้เพื่อไปยังประเทศอินเดียบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของพื้นที่ย้อนเวลาหาของในประเทศกัมพูชาในช่วงศตวรรษที่ 15 ที่ถูกย้ายไปยังประเทศลาวในช่วงศตวรรษที่ 16 และจากนั้นจึงไปยังเมืองเวียงจันทน์ซึ่งก็ยังคงอยู่ใน 215 ปีและในประเทศไทยในช่วงศตวรรษที่ 18เมื่อพิจารณาถึงประวัติความเป็นมาอันยาวนานและ nagasena ของ(พราหมณีที่กลายเป็นคนฉลาดพุทธมามกะและมีชีวิตอยู่ 150 BC )การทำนายว่าพระแก้วมรกตที่จะนำ"ความรุ่งเรืองและก่อนที่สูงในแต่ละประเทศ