What are the causes and effect of s

What are the causes and effect of short circuit
A short circuit (sometimes abbreviated to short or s/c) is an accidental low-resistance connection between two nodes of an electrical circuit that are meant to be at different voltages. This results in an excessive electric current limited only by the internal impedance of the current source and potentially causes circuit damage, overheating, fire or explosion. Although usually the result of a fault, there are cases where short circuits are caused intentionally, for example, for the purpose of [voltage-sensing crowbar circuit protectors.

The electrical opposite of a short circuit is an open circuit, which is infinite resistance between two nodes. It is common to misuse "short circuit" to describe any electrical malfunction, regardless of the actual problem.
A short circuit (sometimes abbreviated to short or s/c) is an accidental low-resistance connection between two nodes of an electrical circuit that are meant to be at different voltages. This results in an excessive electric current limited only by the internal impedance of the current source and potentially causes circuit damage, overheating, fire or explosion. Although usually the result of a fault, there are cases where short circuits are caused intentionally, for example, for the purpose of [voltage-sensing crowbar circuit protectors.

The electrical opposite of a short circuit is an open circuit, which is infinite resistance between two nodes. It is common to misuse "short circuit" to describe any electrical malfunction, regardless of the actual problem.

A short circuit is to connect the positive and negative terminals of a battery together with a low-resistance conductor, like a wire. With low resistance in the connection, a high current flows, causing the cell to deliver a large amount of energy in a short time. (See also: Ohm's law, power).

In electrical devices, unintentional short circuits are usually caused when a wire's insulation breaks down, or when another conducting material (such as water) is introduced, allowing charge to flow along a different path than the one intended.

A large current through a battery (also called a cell) can cause the rapid buildup of heat, potentially resulting in an explosion or the release of hydrogen gas and electrolyte, which can burn tissue and may be either an acid or a base. Overloaded wires can also overheat, sometimes causing damage to the wire's insulation, or a fire. High current conditions may also occur with electric motor loads under stalled conditions, such as when the impeller of an electrically driven pump is jammed by debris.

Damage from short circuits can be reduced or prevented by employing fuses, circuit breakers, or other overload protection, which disconnect the power in reaction to excessive current. Overload protection must be chosen according to the maximum prospective short circuit current in a circuit. For example, large home appliances (such as clothes dryers) typically draw 10 to 20 amperes, so it is common for them to be protected by 20 - 30 ampere circuit breakers, whereas lighting circuits typically draw less than 10 amperes and are protected by 10 - 15 ampere breakers. Wire sizes are specified in building and electrical codes, and must be carefully chosen for their specific application to ensure safe operation in conjunction with the overload protection.

In mains circuits, short circuits are most likely to occur between two phases, between a phase and neutral or between a phase and earth (ground). Such short circuits are likely to result in a very high current flowing and therefore quickly trigger an overcurrent protection device. However, it is possible for short circuits to arise between neutral and earth conductors, and between two conductors of the same phase. Such short circuits can be dangerous, particularly as they may not immediately result in a large current flowing and are therefore less likely to be detected. Possible effects include unexpected energisation of a circuit presumed to be isolated

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สาเหตุและผลของไฟฟ้าลัดวงจรคืออะไรลัดวงจร (บางครั้งย่อให้สั้นหรือ s/c) เป็นการเชื่อมความต้านทานต่ำโดยไม่ตั้งใจระหว่างสองโหนดของวงจรไฟฟ้าที่จะหมายถึงการที่แรงดันแตกต่างกัน ซึ่งผล โดยความต้านทานภายในของแหล่งที่มาปัจจุบันจำกัดปัจจุบันไฟฟ้ามากเกินไป และอาจทำให้เกิดความเสียหายของวงจร ร้อน ไฟไหม้ หรือระเบิด แม้ว่าโดยปกติแล้วผลของความผิดพลาด มีกรณีที่ลัดวงจรเกิดขึ้นโดยเจตนา เช่น เพื่อ [ตรวจแรงดัน crowbar วงจรป้องกัน อยู่ตรงข้ามการไฟฟ้าลัดวงจรคือ เป็นวงจรเปิด ซึ่งเป็นอนันต์ต้านทานระหว่างสองโหนด ไปผิด "ช็อต" เพื่ออธิบายใด ๆ ผิดปกติไฟฟ้า โดยไม่คำนึงถึงปัญหาแท้จริงได้ลัดวงจร (บางครั้งย่อให้สั้นหรือ s/c) เป็นการเชื่อมความต้านทานต่ำโดยไม่ตั้งใจระหว่างสองโหนดของวงจรไฟฟ้าที่จะหมายถึงการที่แรงดันแตกต่างกัน ซึ่งผล โดยความต้านทานภายในของแหล่งที่มาปัจจุบันจำกัดปัจจุบันไฟฟ้ามากเกินไป และอาจทำให้เกิดความเสียหายของวงจร ร้อน ไฟไหม้ หรือระเบิด แม้ว่าโดยปกติแล้วผลของความผิดพลาด มีกรณีที่ลัดวงจรเกิดขึ้นโดยเจตนา เช่น เพื่อ [ตรวจแรงดัน crowbar วงจรป้องกัน อยู่ตรงข้ามการไฟฟ้าลัดวงจรคือ เป็นวงจรเปิด ซึ่งเป็นอนันต์ต้านทานระหว่างสองโหนด ไปผิด "ช็อต" เพื่ออธิบายใด ๆ ผิดปกติไฟฟ้า โดยไม่คำนึงถึงปัญหาแท้จริงได้ ลัดวงจรขั้วบวก และลบของแบตเตอรี่กับการนำความต้านทานต่ำ เช่นลวดเชื่อมต่อได้ มีความต้านทานต่ำสุดในการเชื่อมต่อ กระแสสูงไหล เซลล์ส่งพลังงานขนาดใหญ่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทำให้เกิดการ (ดู: กฎของโอห์ม พลังงาน) ในอุปกรณ์ไฟฟ้า ตั้งใจลัดวงจรมักจะเกิดขึ้น เมื่อแบ่งฉนวนของลวด หรือวัสดุอื่นทำ (เช่นน้ำ) เป็นการนำมาใช้ การให้ค่าการไหลไปตามเส้นทางแตกต่างกันมากกว่าหนึ่งวัตถุประสงค์ ปัจจุบันขนาดใหญ่ผ่าน (เรียกว่าเซลล์) สามารถทำให้รู้อย่างรวดเร็วของความร้อน อาจเกิดการระเบิดหรือการปล่อยก๊าซไฮโดรเจนและอิเล็กโทร ซึ่งสามารถเขียนเนื้อเยื่อ และอาจจะเป็นกรดหรือความ สายไฟโอเวอร์โหลดสามารถยังร้อน บางครั้งก่อให้เกิดความเสียหายของฉนวนของลวด หรือไฟ สภาพสูงยังอาจเกิดขึ้นกับมอเตอร์ไฟฟ้าโหลดสภาวะหยุดทำงาน เช่นเมื่อ jammed ผลักของปั๊มขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยเศษ ความเสียหายจากการลัดวงจรสามารถลด หรือป้องกัน โดยใช้ฟิวส์ เบรก หรืออื่น ๆ การ ป้องกันโอเวอร์โหลด การถอดสายไฟเกิดการมากเกินไป ป้องกันโอเวอร์โหลดต้องเลือกตามสูงสุดอนาคตไฟฟ้าลัดวงจรในวงจรปัจจุบัน ตัวอย่าง เครื่องใช้ในบ้านขนาดใหญ่ (เช่นเครื่องอบผ้า) มักจะวาด amperes 10-20 ดังนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาจะถูกป้องกัน ด้วย 20-30 แอมแปร์เบรคเกอร์ ใน ขณะที่วงจรแสงสว่างปกติวาดน้อยกว่า 10 amperes ป้องกัน โดยแบ่ง 10-15 แอมแปร์ ขนาดลวดระบุไว้ในอาคาร และไฟฟ้ารหัส และต้องระมัดระวังเลือกสำหรับโปรแกรมประยุกต์เฉพาะของพวกเขาให้ปลอดภัยการดำเนินการร่วมกับป้องกันโอเวอร์โหลด ในวงจรไฟ วงจรสั้นมักจะเกิดขึ้นระหว่างสองระยะ ระ หว่างเฟส และเป็นกลาง หรือ ระหว่างระยะและโลก (ล่าง) ลัดวงจรดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำการวางไหลปัจจุบันสูงมาก และดังนั้น ทริกเกอร์เป็นอุปกรณ์ป้องกัน overcurrent อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เป็นการลัดวงจรจะเกิดขึ้นระหว่างกลาง และเป็นตัว นำของโลก และเป็นตัวนำสองระยะเดียวกันของการ ลัดวงจรดังกล่าวสามารถอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นพวกเขาอาจไม่ทันทีวางไหลปัจจุบันมีขนาดใหญ่ และมีดังนั้นแนวโน้มการพบ ผลเป็นไปได้รวมถึง energisation ที่ไม่คาดคิดของ presumed จะแยกวงจร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อะไรคือสาเหตุและผลกระทบของการลัดวงจร
ไฟฟ้าลัดวงจร (บางครั้งยากที่จะสั้นหรือ s / c) คือการเชื่อมต่อความต้านทานต่ำอุบัติเหตุระหว่างสองโหนดของวงจรไฟฟ้าที่มีความหมายที่จะเป็นที่แรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้กระแสไฟฟ้ามากเกินไป จำกัด ด้วยความต้านทานภายในของแหล่งที่มาในปัจจุบันและอาจทำให้เกิดความเสียหายวงจรร้อนไฟไหม้หรือการระเบิด แม้ว่ามักจะเกิดจากความผิดที่มีกรณีที่การลัดวงจรที่เกิดเจตนาเช่นสำหรับวัตถุประสงค์ของ [ป้องกันวงจรชะแลงแรงดันตรวจจับ. ตรงข้ามไฟฟ้าลัดวงจรเป็นวงจรเปิดซึ่งเป็นต้านทานระหว่างที่ไม่มีที่สิ้นสุด สองโหนด มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะผิด "ไฟฟ้าลัดวงจร" เพื่ออธิบายความผิดปกติใด ๆ ไฟฟ้าโดยไม่คำนึงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริง. ลัดวงจร (บางครั้งยากที่จะสั้นหรือ s / c) คือการเชื่อมต่อความต้านทานต่ำอุบัติเหตุระหว่างสองโหนดของวงจรไฟฟ้าที่มี หมายถึงการเป็นที่แรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้กระแสไฟฟ้ามากเกินไป จำกัด ด้วยความต้านทานภายในของแหล่งที่มาในปัจจุบันและอาจทำให้เกิดความเสียหายวงจรร้อนไฟไหม้หรือการระเบิด แม้ว่ามักจะเกิดจากความผิดที่มีกรณีที่การลัดวงจรที่เกิดเจตนาเช่นสำหรับวัตถุประสงค์ของ [ป้องกันวงจรชะแลงแรงดันตรวจจับ. ตรงข้ามไฟฟ้าลัดวงจรเป็นวงจรเปิดซึ่งเป็นต้านทานระหว่างที่ไม่มีที่สิ้นสุด สองโหนด มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะผิด "ไฟฟ้าลัดวงจร" เพื่ออธิบายความผิดปกติใด ๆ ไฟฟ้าโดยไม่คำนึงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริง. ลัดวงจรคือการเชื่อมต่อขั้วบวกและลบของแบตเตอรี่ร่วมกับตัวนำต้านทานต่ำเช่นลวด ที่มีความต้านทานต่ำในการเชื่อมต่อการไหลของกระแสสูงทำให้เซลล์ในการส่งมอบจำนวนมากของการใช้พลังงานในระยะเวลาอันสั้น (ดูเพิ่มเติม: กฎของโอห์มพลังงาน). ในอุปกรณ์ไฟฟ้าลัดวงจรโดยไม่ได้ตั้งใจมักจะเกิดขึ้นเมื่อฉนวนสายของแบ่งลงหรือเมื่ออีกวัสดุการดำเนินการ (เช่นน้ำ) เป็นที่รู้จักช่วยให้ค่าใช้จ่ายที่จะไหลไปตามเส้นทางที่แตกต่างกันมากกว่า หนึ่งตั้งใจ. ในปัจจุบันมีขนาดใหญ่ผ่านแบตเตอรี่ (ที่เรียกว่าเซลล์) สามารถก่อให้เกิดการสะสมของความร้อนอย่างรวดเร็วอาจส่งผลให้เกิดการระเบิดหรือการเปิดตัวของก๊าซไฮโดรเจนและอิเล็กโทรไลซึ่งสามารถเผาผลาญของเนื้อเยื่อและอาจเป็นได้ทั้งกรดหรือฐาน . สายเกินไปยังสามารถร้อนมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อฉนวนสายของหรือไฟไหม้ สภาพปัจจุบันสูงนอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นกับโหลดมอเตอร์ไฟฟ้าภายใต้เงื่อนไขที่จนตรอกเช่นเมื่อใบพัดของเครื่องสูบน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าติดโดยเศษ. ความเสียหายที่เกิดจากการลัดวงจรสามารถลดหรือป้องกันได้โดยการใช้ฟิวส์, เบรกเกอร์วงจรหรือป้องกันการโอเวอร์โหลดอื่น ๆ ซึ่งถอดสายไฟในการตอบสนองต่อกระแสมากเกินไป ป้องกันการโอเวอร์โหลดจะต้องเลือกตามลัดวงจรสูงสุดที่คาดหวังในปัจจุบันวงจร ตัวอย่างเช่นเครื่องใช้ภายในบ้านที่มีขนาดใหญ่ (เช่นเครื่องเป่าเสื้อผ้า) มักจะวาด 10-20 แอมแปร์ดังนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองโดย 20-30 เบรกเกอร์วงจรแอมป์ในขณะที่แสงวงจรมักจะวาดน้อยกว่า 10 แอมแปร์และได้รับความคุ้มครอง 10 - 15 แอมป์เบรกเกอร์ ขนาดลวดที่ระบุไว้ในการสร้างรหัสและไฟฟ้าและจะต้องเลือกอย่างระมัดระวังสำหรับการใช้งานเฉพาะของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานที่ปลอดภัยร่วมกับการป้องกันการโอเวอร์โหลด. ในวงจรไฟลัดวงจรมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองขั้นตอนระหว่างเฟสและเป็นกลาง หรือระหว่างขั้นตอนและแผ่นดิน (ล่าง) ลัดวงจรดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะส่งผลในการไหลสูงมากในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็วและดังนั้นจึงเรียกอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน แต่ก็เป็นไปได้สำหรับการลัดวงจรเกิดขึ้นระหว่างตัวนำที่เป็นกลางและแผ่นดินและระหว่างสองตัวนำเฟสเดียวกัน ลัดวงจรดังกล่าวอาจเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาอาจจะไม่ได้ทันทีส่งผลให้เกิดการไหลขนาดใหญ่ในปัจจุบันและจึงมีโอกาสน้อยที่จะได้รับการตรวจพบ รวมถึงผลกระทบที่อาจ energisation ที่ไม่คาดคิดของวงจรสันนิษฐานว่าเป็นที่แยก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือสาเหตุ และผลของการลัดวงจร
ลัดวงจร ( บางครั้งย่อให้สั้นหรือ S / C ) เป็นอุบัติเหตุต่ำต้านทานเชื่อมระหว่างสองจุดของวงจรไฟฟ้าที่ควรจะเป็นที่แรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์มากเกินไป กระแสไฟฟ้า จำกัด เท่านั้น โดยค่าภายในของแหล่งที่มาปัจจุบันและอาจทำให้วงจรเสียหาย เครื่องร้อนเกินไปไฟไหม้หรือระเบิด . ถึงแม้ว่าโดยปกติผลของความผิดมีกรณีที่การลัดวงจรเกิดขึ้นโดยเจตนาตัวอย่างเช่นเพื่อป้องกันวงจร [ ชะแลงตรวจจับแรงดันไฟฟ้า

ตรงข้ามไฟฟ้าลัดวงจรเป็นแบบเปิด ซึ่งมีความต้านทานไม่มีที่สิ้นสุดระหว่างสองโหนด โดยทั่วไปจะใช้ " วงจร " สั้น ๆเพื่ออธิบายใด ๆไฟฟ้าผิดปกติไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจริง การลัดวงจร ( บางครั้งย่อให้สั้นหรือ S / C ) เป็นอุบัติเหตุต่ำต้านทานเชื่อมระหว่างสองจุดของวงจรไฟฟ้าที่ควรจะเป็นที่แรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์มากเกินไป กระแสไฟฟ้า จำกัด เท่านั้น โดยค่าภายในของแหล่งที่มาปัจจุบันและอาจทำให้วงจรเสียหาย , ร้อน , ไฟไหม้หรือระเบิดถึงแม้ว่าโดยปกติผลของความผิดมีกรณีที่การลัดวงจรเกิดขึ้นโดยเจตนาตัวอย่างเช่นเพื่อป้องกันวงจร [ ชะแลงตรวจจับแรงดันไฟฟ้า

ตรงข้ามไฟฟ้าลัดวงจรเป็นแบบเปิด ซึ่งมีความต้านทานไม่มีที่สิ้นสุดระหว่างสองโหนด โดยทั่วไปจะใช้ " วงจร " สั้น ๆเพื่ออธิบายใด ๆไฟฟ้าผิดปกติไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

เป็นวงจรเพื่อเชื่อมต่อกับขั้วบวก และลบ ของแบตเตอรี่ พร้อมกับตัวนำความต้านทานต่ำ เช่น สายไฟ ที่มีความต้านทานต่ำในการเชื่อมต่อปัจจุบันกระแสสูง ทำให้เซลล์ที่ให้พลังงานเป็นจำนวนมหาศาลในเวลาอันสั้น ( ดู : กฎหมาย , พลังโอห์ม )

ในอุปกรณ์ไฟฟ้าวงจรสั้นโดยไม่ทราบสาเหตุมักจะเกิดขึ้นเมื่อฉนวนของสายไฟพัง หรือเมื่อดำเนินการวัสดุอื่น ( เช่นน้ำ ) จะแนะนำให้เพิ่มการไหลตามเส้นทางที่แตกต่างกันมากกว่าหนึ่งวัตถุประสงค์

ปัจจุบันขนาดใหญ่ผ่านแบตเตอรี่ ( ยังเรียกว่าเซลล์ ) อาจทำให้เกิด buildup อย่างรวดเร็วของความร้อนอาจส่งผลให้เกิดการระเบิด หรือการปล่อยก๊าซไฮโดรเจนและอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งสามารถเผาเนื้อเยื่อและอาจเป็นกรดหรือเบส ใช้สายไฟยังร้อนเกินไป บางครั้งก่อให้เกิดความเสียหายของฉนวนของสายไฟ หรือไฟ สภาพปัจจุบันสูงยังอาจเกิดขึ้นกับมอเตอร์ไฟฟ้าโหลดได้ที่จนตรอก เงื่อนไขเช่น เมื่อใบพัดของปั๊มขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าติดจากเศษ

ได้รับความเสียหายจากสั้นวงจร สามารถลด หรือป้องกันโดยการใช้ฟิวส์ , เบรกเกอร์วงจร , หรืออื่น ๆการป้องกันการโอเวอร์โหลด ซึ่งปลดพลังในปฏิกิริยาที่มากเกินไปในปัจจุบัน การป้องกันการโอเวอร์โหลดต้องเลือกตามกระแสลัดวงจรสูงสุดที่คาดหวังในวงจร ตัวอย่างเช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ เช่น เครื่องอบผ้า ) มักจะวาด 10 ถึง 20 แอมแปร์ ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่จะได้รับความคุ้มครองโดย 20 - 30 แอมแปร์เบรกเกอร์วงจรวงจรแสงและมักจะวาดน้อยกว่า 10 แอมแปร์ และมีการป้องกันโดยแบ่ง 10 - 15 แอมแปร์ ขนาดลวดที่ระบุไว้ในอาคารและรหัสไฟฟ้าและต้องเลือกอย่างระมัดระวังเพื่องานเฉพาะของตนเพื่อให้แน่ใจว่าการผ่าตัดปลอดภัยควบคู่กับการป้องกันเกินพิกัด

ในไฟวงจร วงจรสั้นมักจะเกิดขึ้นระหว่างสองเฟส คือ เฟส และเป็นกลางระหว่างหรือระหว่างเฟสและโลก ( ดิน )วงจรสั้นดังกล่าวจะส่งผลให้กระแสไหลสูงมากจึงรีบเรียกอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน . อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปได้สำหรับการลัดวงจรเกิดขึ้นระหว่างตัวนำและเป็นกลางโลก และระหว่างสองตัวนำเฟสเดียวกัน วงจรสั้นดังกล่าวสามารถเป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พวกเขาอาจจะไม่ ทันที ส่งผลให้กระแสไหลมากและดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยมากที่จะตรวจพบ รวม energisation ผลกระทบที่ไม่คาดคิดของวงจร สันนิษฐานว่าเป็นแยก