What about buildings?Many buildings

What about buildings?
Many buildings and monuments are made of stone, and many buildings use stone for decorative trim. Granite is now the most widely used stone for buildings, monuments, and bridges. Limestone is the second most used building stone. It was widely used before Portland cement became available in the early 19th century because of its uniform color and texture and because it could be easily carved. Sandstone from local sources was commonly used in the Northeastern United States, especially before 1900. Nationwide, marble is used much less often than the other stone types, but it has been used for many buildings and monuments of historical significance. Because of their composition, some stones are more likely to be damaged by acidic deposition than others. Granite is primarily composed of silicate minerals, like feldspar and quartz, which are resistant to acid attack. Sandstone is also primarily composed of silica and is thus resistant. A few sandstones are less resistant because they contain a carbonate cement that dissolves readily in weak acid. Limestone and marble are primarily composed of the mineral calcite (calcium carbonate), which dissolves readily in weak acid; in fact, this characteristic is often used to identify the mineral calcite.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาคารอะไรบ้างอาคารและอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่ทำจากหิน และอาคารหลายแห่งใช้หินตกแต่งตกแต่ง ตอนนี้ที่ใช้หิน สำหรับอาคาร อนุสาวรีย์ สะพานคือหินแกรนิต หินปูนเป็นส่วนใหญ่ที่สองใช้อาคารหิน มันถูกใช้ ก่อนที่ปูนกลายเป็นใช้ในศตวรรษที่ 19 ต้นสีสม่ำเสมอและเนื้อของ และเนื่อง จากมันไม่ได้สลัก หินทรายจากแหล่งภายในโดยทั่วไปใช้ในตะวันออกเฉียงเหนือสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อน 1900 ทั่วประเทศ หินอ่อนจะใช้มากน้อยบ่อยครั้งมากกว่าหินชนิดอื่น ๆ แต่มีการใช้อาคารและอนุสาวรีย์ของสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เนื่องจากองค์ประกอบของพวกเขา บางหินมีแนวโน้มที่จะเสียหาย โดยการสะสมกรดอื่น ๆ หินแกรนิตส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ซิลิเก เช่นเฟลด์สปาร์และควอตซ์ ซึ่งมีความทนทานต่อกรดโจมตี หินทรายเป็นส่วนใหญ่ประกอบด้วยซิลิกา และจึงทน Sandstones กี่มีทนน้อยเนื่องจากประกอบด้วยปูนคาร์บอเนตที่พร้อมละลายในกรดอ่อน หินปูนและหินอ่อนเป็นหลักประกอบในแร่แคลไซต์ (แคลเซียมคาร์บอเนต), ที่พร้อมละลายในกรดอ่อน ในความเป็นจริง ลักษณะนี้มักจะใช้เพื่อระบุแคลไซต์แร่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่เกี่ยวกับอาคาร?
อาคารหลายหลังและอนุสาวรีย์ที่ทำจากหินและอาคารจำนวนมากใช้หินประดับตกแต่ง หินแกรนิตเป็นหินตอนนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับอาคารที่อนุเสาวรีย์, และสะพาน หินปูนเป็นหินอาคารที่ใช้มากที่สุดเป็นอันดับสอง มันถูกใช้กันอย่างแพร่หลายก่อนที่จะกลายเป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ใช้ได้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพราะสีสม่ำเสมอและมีพื้นผิวและเพราะมันอาจจะแกะสลักได้อย่างง่ายดาย หินทรายจากแหล่งท้องถิ่นที่ใช้กันทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่จะปี 1900 ทั่วประเทศหินอ่อนมักจะถูกนำมาใช้มากน้อยกว่าชนิดหินอื่น ๆ แต่ก็มีการใช้อาคารจำนวนมากและอนุสาวรีย์ของความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะองค์ประกอบของพวกเขาหินบางส่วนมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายจากการทับถมเป็นกรดกว่าคนอื่น ๆ หินแกรนิตประกอบด้วยหลักของแร่ธาตุซิลิเกตเช่นเฟลด์สปาร์และควอทซ์ซึ่งมีความทนทานต่อการโจมตีกรด หินทรายนอกจากนี้ยังประกอบด้วยหลักของซิลิกาและสามารถทนจึง หนุมานไม่กี่มีความทนทานน้อยเพราะพวกเขามีซีเมนต์คาร์บอเนตที่ละลายได้ง่ายในกรดอ่อน หินปูนและหินอ่อนที่มีองค์ประกอบหลักของแร่แคลไซต์ (แคลเซียมคาร์บอเนต) ซึ่งละลายได้ง่ายในกรดอ่อน; ในความเป็นจริงลักษณะนี้มักจะถูกใช้ในการระบุแร่แคลไซต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่เกี่ยวกับอาคาร
หลายอาคารและอนุสาวรีย์ถูกสร้างของหินและหินหลายอาคารใช้สำหรับประดับตกแต่ง หินแกรนิตคือตอนนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายหินสำหรับอาคาร , อนุสาวรีย์ , และสะพาน หินปูนคือที่สอง ส่วนใหญ่ใช้อาคารหินมันถูกใช้กันอย่างแพร่หลายมาก่อน ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ กลายเป็นใช้ได้ในศตวรรษที่ 19 ก่อน เพราะสีและพื้นผิวของมันเหมือนกัน และเพราะมันอาจจะง่ายที่แกะสลักไว้ หินทรายจากแหล่งชุมชนที่ใช้กันทั่วไปในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อน 1900 ทั่วประเทศ หินอ่อนที่ใช้มากน้อยบ่อยกว่าชนิดอื่น ๆ หินแต่มันถูกใช้สำหรับหลายอาคารและอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ เพราะองค์ประกอบของมัน บางหินมีโอกาสที่จะได้รับความเสียหายจากการสะสมกรดมากกว่าคนอื่น ๆ หินแกรนิต ประกอบด้วย แร่ซิลิเกต เป็นหลัก เช่น เฟลด์สปาร์และควอทซ์ ซึ่งทนต่อกรดโจมตี หินทรายเป็นหลักประกอบด้วยซิลิกาและจึงป้องกันไม่กี่หินทรายมีความทนทานน้อยลงเพราะพวกเขาประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตปูนที่ละลายอย่างรวดเร็วในกรดอ่อน หินปูนและหินอ่อนเป็นหลักประกอบด้วยแร่แคลไซต์ ( แคลเซียมคาร์บอเนต ) ซึ่งละลายในกรดอ่อนพร้อม ; ในความเป็นจริง , ลักษณะนี้มักใช้เพื่อระบุแร่แคลไซต์