This technique, which gained popula

This technique, which gained popularity during the First World War for making banners and printing flags can be traced back to the beginning of the 19th century. The printing technique creates a sharp-edged image using a porous fabric and a stencil. The screen, a piece of porous, finely woven fabric including silk, polyester or nylon is stretched over a wooden or aluminum frame, is placed on top of a piece of paper or fabric. Areas of the screen are blocked off with a non-permeable material (a stencil). Ink is placed on top of the screen, and it is further spread evenly across the screen with a rubber blade. The ink passes through the open spaces in the screen onto the paper or fabric below; the screen is then lifted off and can be re-used after cleaning. For multiple colour screen printing on the same surface, the ink is allowed to dry and then the entire process is repeated with another screen and different color of ink.
Application: Screen-printing technique finds versatile applications used in different industries, from clothing to product labels, fabric labels to circuit board printing and others due to its compatibility with a variety of materials, including textiles, ceramics, metal, wood, paper, glass, and plastic.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคนิคนี้ ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงสงครามโลกสำหรับทำป้าย และพิมพ์ธง สามารถย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 19 เทคนิคการพิมพ์การสร้างภาพขอบคมโดยใช้ผ้าที่มีรูพรุนและลายฉลุ หน้าจอ ผ้าชิ้นส่วนของ porous ทออย่างประณีตรวมทั้งผ้าไหม โพลีเอสเตอร์หรือไนล่อนขึงบนกรอบไม้หรืออลูมิเนียม มาวางบนกระดาษหรือผ้า พื้นที่ของหน้าจอจะถูกบล็อกปิด ด้วยวัสดุไม่ซึมเข้าไปได้ (ลายฉลุ) หมึกวางอยู่ด้านบนของหน้าจอ และมันคือการกระจายผ่านหน้าจอกับใบมีดยาง หมึกผ่านพื้นที่เปิดในหน้าจอลงบนกระดาษหรือผ้าด้านล่าง หน้าจอถูกยกขึ้นปิดแล้ว และสามารถนำมาใช้ใหม่หลังจากทำความสะอาด หมึกสำหรับพิมพ์หน้าจอสีหลายระนาบ ได้รับอนุญาตให้แห้ง และจากนั้น กระบวนการทั้งหมดจะถูกทำซ้ำกับอีกหน้าจอและสีของหมึกที่แตกต่างกัน แอพลิเคชัน: Screen-printing เทคนิคการค้นหาหลากหลายที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากเสื้อผ้าฉลากผลิตภัณฑ์ ป้ายผ้าแผ่นวงจรพิมพ์และอื่น ๆ เนื่องจากการเข้ากันได้กับความหลากหลายของวัสดุ รวมทั้งสิ่งทอ เซรามิก โลหะ ไม้ กระดาษ แก้ว และพลาสติก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคนิคนี้ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสำหรับการทำป้ายและธงพิมพ์สามารถสืบย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 19 เทคนิคการพิมพ์จะสร้างภาพที่คมชัดขอบโดยใช้ผ้าที่มีรูพรุนและลายฉลุ หน้าจอ, ชิ้นส่วนของรูพรุนผ้าทออย่างประณีตรวมทั้งผ้าไหมโพลีเอสเตอร์ไนลอนหรือถูกยืดกว่าไม้หรืออลูมิเนียมกรอบที่วางอยู่ด้านบนของชิ้นส่วนของกระดาษหรือผ้า พื้นที่ของหน้าจอจะถูกบล็อกออกด้วยวัสดุที่ไม่ดูดซึม (ลายฉลุ) หมึกจะถูกวางไว้ที่ด้านบนของหน้าจอและจะมีการแพร่กระจายต่อไปอย่างสม่ำเสมอทั่วหน้าจอที่มีใบมีดยาง หมึกผ่านพื้นที่เปิดในหน้าจอลงบนกระดาษหรือผ้าดังต่อไปนี้; หน้าจอจะถูกยกขึ้นแล้วออกและสามารถนำมาใช้อีกครั้งหลังจากการทำความสะอาด สำหรับการพิมพ์หน้าจอแบบหลายสีบนพื้นผิวเดียวกันหมึกได้รับอนุญาตให้แห้งแล้วกระบวนการทั้งหมดจะถูกทำซ้ำที่มีหน้าจออื่นและสีที่แตกต่างของหมึก.
การประยุกต์ใช้: เทคนิคการพิมพ์หน้าจอพบว่าการใช้งานที่หลากหลายที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างจากเครื่องแต่งกายให้กับผลิตภัณฑ์ ป้าย, ป้ายผ้าพิมพ์แผงวงจรและอื่น ๆ อันเนื่องมาจากการทำงานร่วมกันของความหลากหลายของวัสดุรวมทั้งสิ่งทอ, เซรามิก, โลหะ, ไม้, กระดาษ, แก้วและพลาสติกที่มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคนิคนี้ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสำหรับทำป้ายและธงพิมพ์สามารถ traced กลับไปที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 19 เทคนิคการพิมพ์สร้างคมขอบภาพโดยใช้ผ้ารูพรุนและลายฉลุ หน้าจอ , ชิ้นส่วนของรูพรุนละเอียด ผ้าทอ รวมทั้งผ้าไหมโพลีเอสเตอร์ หรือ ไนลอนยืดเหนือกรอบไม้หรืออลูมิเนียม วางลงบนกระดาษหรือผ้า พื้นที่ของหน้าจอจะปิดด้วยวัสดุที่ไม่ซึม ( ลายฉลุ ) หมึกถูกวางไว้ที่ด้านบนของหน้าจอ และมันช่วยกระจายไปทั่วจอ กับยางใบมีด หมึกผ่านช่องเปิดในหน้าจอลงบนกระดาษหรือผ้าด้านล่าง หน้าจอ แล้วยกออก และสามารถจะใช้หลังจากทำความสะอาด สำหรับหลาย ๆสี หน้าจอการพิมพ์บนพื้นผิวเดียวกัน หมึกจะได้รับอนุญาตให้แห้ง แล้วกระบวนการทั้งหมดจะซ้ำกับหน้าจออื่น และสีที่แตกต่างกันของหมึกการประยุกต์ใช้เทคนิคการพิมพ์หน้าจอ พบว่าการใช้งานเอนกประสงค์ ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากเสื้อผ้าฉลากผลิตภัณฑ์ ผ้าป้ายเพื่อวงจรพิมพ์และอื่น ๆเนื่องจากความเข้ากันได้กับความหลากหลายของวัสดุ ได้แก่ สิ่งทอ เซรามิก โลหะ ไม้ กระดาษ แก้ว และพลาสติก