In 2012 China’s total spending on r

In 2012 China’s total spending on research and development was one trillion yuan ($164 billion), just under 2% of its gross domestic product. The same year, the U.S. spent $447 billion, or 2.8% of its GDP. But as China’s economy continues to grow rapidly, so does its R&D spending — and it’s projected to overtake that of the United States by 2022. Scientific advances contributed 51.7% to China’s economic growth in 2011, and the country is betting that technical innovations can help it address many challenges, including the need to upgrade its industrial base, reduce air pollution and address growing inequality.

The Chinese government unveiled its “indigenous innovation” campaign in 2006, with a goal of turning the country into a “science powerhouse” by 2020 through an emphasis on human capital. Approximately 7 million Chinese citizens will graduate from college in 2014, up from just 1.1 million in 2001, and the country wants to lure back Chinese-origin scientists working abroad. China’s increasing number of academics have pushed China up in global rankings of published science and engineering papers: The country was 14th in 1995 and by 2007 was second only to the United States.

- See more at: http://journalistsresource.org/studies/society/education/china-rising-science-technology-research-contributions#sthash.4YSAWP1k.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในจีน 2012 รวมค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาได้หนึ่งแสนล้านหยวน ($164 ล้าน), ต่ำเพียง 2% ของผลิตภัณฑ์ภายในประเทศรวม ปีเดียวกัน สหรัฐอเมริกาใช้เวลา $447 พันล้าน หรือ 2.8% ของ GDP ของ แต่เป็นเศรษฐกิจของจีนยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการ R & D ใช้จ่าย — และก็คาดว่าจะแซงของสหรัฐอเมริกา โดย 2022 51.7% การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2554 ส่วนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และประเทศเป็นเดิมพันว่า นวัตกรรมทางเทคนิคสามารถทำท้าทายหลาย รวมทั้งจำเป็นต้องปรับรุ่นของฐานอุตสาหกรรม ลดมลพิษในอากาศ และไม่เท่าเทียมกันมากขึ้นรัฐบาลจีนเปิดตัวแคมเปญ "นวัตกรรมพื้น" ที่ในปี 2006 มีเป้าหมายของการเปิดประเทศเป็นแบบ "โรงไฟฟ้าวิทยาศาสตร์" โดย 2020 โดยเน้นบุคลากร ประมาณ 7 ล้านชาวจีนจะศึกษาจากวิทยาลัยในปี 2014 ค่าจากเพียง 1.1 ล้านในปีค.ศ. 2001 และประเทศอยากล่อหลังจีนต้นกำเนิดนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานต่างประเทศ ของจีนเพิ่มขึ้นจำนวนนักวิชาการได้ผลักดันจีนขึ้นในอันดับโลกของการเผยแพร่วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเอกสาร: ประเทศ 14 ในปี 1995 และ โดย 2007 มีสองกับสหรัฐอเมริกาเท่านั้น-ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://journalistsresource.org/studies/society/education/china-rising-science-technology-research-contributions#sthash.4YSAWP1k.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 2012 การใช้จ่ายรวมของจีนในการวิจัยและพัฒนาเป็นหนึ่งในล้านล้านหยวน ($ 164,000,000,000) เพียงต่ำกว่า 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ในปีเดียวกันสหรัฐอเมริกาใช้เวลา $ 447,000,000,000 หรือ 2.8% ของจีดีพี แต่ในขณะที่เศรษฐกิจของจีนยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ R & D การใช้จ่ายของ - และก็คาดว่าจะแซงที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดย 2022 ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่มีส่วน 51.7% การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2011 และประเทศเป็นเดิมพันว่านวัตกรรมทางเทคนิคสามารถช่วย มันรับมือกับความท้าทายจำนวนมากรวมทั้งความจำเป็นที่จะปรับฐานอุตสาหกรรมของตนลดมลพิษทางอากาศและที่อยู่ของความไม่เท่าเทียมกันที่เพิ่มขึ้น. รัฐบาลจีนเปิดตัว "นวัตกรรมพื้นเมือง" แคมเปญในปี 2006 โดยมีเป้าหมายของการเปลี่ยนประเทศเข้าสู่ "โรงไฟฟ้าวิทยาศาสตร์" ในปี 2020 ผ่านการให้ความสำคัญกับทุนมนุษย์ ประมาณ 7 ล้านคนจีนจะจบการศึกษาจากวิทยาลัยในปี 2014 เพิ่มขึ้นจากเพียง 1.1 ล้านในปี 2001 และประเทศที่ต้องการที่จะกลับมาล่อนักวิทยาศาสตร์จีนกำเนิดทำงานในต่างประเทศ จำนวนที่เพิ่มขึ้นของจีนของนักวิชาการที่มีการผลักดันประเทศจีนในการจัดอันดับโลกของวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมการตีพิมพ์เอกสาร: เป็นประเทศที่ 14 ในปี 1995 และปี 2007 เป็นที่สองเท่านั้นที่สหรัฐอเมริกา. - ดูเพิ่มเติมได้ที่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2012 จีนของค่าใช้จ่ายโดยรวมในการวิจัยและพัฒนาเป็นหนึ่งล้านล้านหยวน ( $ 164 ล้าน ) อยู่แค่ 2 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ . ปีเดียวกัน สหรัฐใช้จ่าย $ 447 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.8% ของจีดีพี . แต่เป็นเศรษฐกิจของจีนยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงไม่&ของ R D ใช้ - และก็คาดว่าจะแซงของสหรัฐอเมริกาโดย 2022 . ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้ 517 % ในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2011 และประเทศเป็นเดิมพันว่า นวัตกรรมทางด้านเทคนิคสามารถช่วยรับมือกับความท้าทายมากมาย รวมทั้งต้องปรับฐานอุตสาหกรรม ลดมลพิษทางอากาศ และความไม่เท่าเทียมกันในการเติบโตที่อยู่

ที่รัฐบาลจีนเปิดตัว " พื้นบ้านนวัตกรรม " แคมเปญในปี 2006โดยมีเป้าหมายของการเปลี่ยนประเทศเป็น " วิทยาศาสตร์โรงไฟฟ้า " ในปี 2020 โดยเน้นทุนมนุษย์ ชาวจีนประมาณ 7 ล้านจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในปี 2014 เพิ่มขึ้นจากเพียง 1.1 ล้านในปี 2001 และประเทศต้องการล่อหลังนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่มาทำงานต่างประเทศจีนเพิ่มจำนวนของนักวิชาการได้ผลักดันจีนขึ้นในการจัดอันดับของวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมรวมทั้งเผยแพร่ทั่วโลก : ประเทศ 14 ในปี 1995 และ 2007 ที่สองสหรัฐอเมริกา

- ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http : / / journalistsresource . org / การศึกษา / สังคม / การศึกษา / จีนเพิ่มขึ้นผลงานวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี # sthash.4ysawp1k.dpuf