Erikson's Psychosocial Dilemmas Sta

Erikson's Psychosocial Dilemmas
Stage one, First year of life:Trust versus Mistrust

My little nephew has a behavior like this theory. He never cry when mother go out and it seems he know his mother will come back home surely He can utter by himself when he was 2 months. When he was months, show his reactions when his mom or anybody called him. And now he is 11 months he can call "Mama" and "Papa". He seems very happy when his mother take care of him or play with him.

Stage five, Adolescence: Identity versus Role Confusion

This theory is all about me Ithink sometimes my behavior likes this theory but sometimes am not, such as my emotions l am not upset easily or irritable a the time. Ithink I am a reasonable one. Or when Italked to my parents I always talk to them softly and never shout at them. I prefer to go out with my family than go out with my friends but it does not mean that friendships do not mean to me, I just thought my family is very important to me so much and I really love them. Sometimes I get confused and always think, in the future what will I be. try to find myself and now I still do not know what I want to do or what I need to be

Stage Eight, Late Adulthood Integrity versus Despair

My father has a behavior like this theory because he is getting older every day. Whenever he saw something mess he always mutter. 5 months ago my father got a Pancreatic Cancer just because he unhealthiness so he cannot carry a heavy things. Every time when my father has a time, he likes to go to temple and travel by himself. My father is a giver one, he is so kind especially kids and one thing that unlike this theory is my father has a good memory and certainly he never forget anything.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของ Erikson Dilemmas Psychosocial ระยะหนึ่ง ปีแรกของชีวิต: ความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ Mistrust หลานชายน้อยของฉันมีลักษณะเช่นนี้ทฤษฎี เขาไม่เคยร้องเมื่อแม่ออกไป และดูเหมือนว่าเขารู้ว่าแม่ของเขาจะมากลับบ้านแน่นอนเขาสามารถส่ง ด้วยตัวเองเมื่อ 2 เดือนได้ เมื่อเดือน แสดงปฏิกิริยาของเขาเมื่อแม่ของเขาหรือใคร ๆ ก็เรียกเขา และตอนนี้ เขาเป็นเดือน 11 เขาสามารถติดต่อ "มาม่า" และ "ปาป้า" เขาดูมีความสุขมากเมื่อแม่ของเขาดูแลเขา หรือเล่นกับเขาระยะที่ห้า วัยรุ่น: ตัวตนกับความสับสนในบทบาททฤษฎีนี้คือการฉัน Ithink บางครั้งพฤติกรรมของฉันชอบทฤษฎีนี้ แต่บางครั้งฉันไม่ เช่นอารมณ์ของฉัน l กำลังไม่เสียง่าย ๆ หรือแปรปรวนเป็นเวลา Ithink ฉันอันเหมาะสม หรือเมื่อ Italked กับพ่อฉันเสมอพูดไปเบา ๆ และตะโกนที่พวกเขาไม่ ฉันชอบไปเที่ยวกับครอบครัวมากกว่าไปเที่ยวกับเพื่อน แต่มันไม่ได้หมายความ ว่า มิตรภาพไม่ได้หมายถึง ฉัน ฉันคิดว่า ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมากกับผมมาก และผมรักพวกเขา บางครั้งได้รับความสับสน และคิดเสมอว่า ในอนาคตว่าผมจะ ลองค้นหาตัวเอง และตอนนี้ ฉันยังไม่รู้อะไรอยากจะทำหรือสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องขั้น 8 สายวุฒิสมบูรณ์เมื่อเทียบกับความสิ้นหวังMy father has a behavior like this theory because he is getting older every day. Whenever he saw something mess he always mutter. 5 months ago my father got a Pancreatic Cancer just because he unhealthiness so he cannot carry a heavy things. Every time when my father has a time, he likes to go to temple and travel by himself. My father is a giver one, he is so kind especially kids and one thing that unlike this theory is my father has a good memory and certainly he never forget anything.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อีริคสันของจิตวิกฤติขั้นหนึ่งปีแรกของชีวิต: ความไว้วางใจกับความหวาดระแวงหลานเล็กๆ น้อย ๆ ของฉันมีพฤติกรรมเช่นทฤษฎีนี้ เขาไม่เคยร้องไห้เมื่อแม่ออกไปและมันดูเหมือนว่าเขารู้ว่าแม่ของเขาจะกลับมาบ้านเขาก็สามารถพูดด้วยตัวเองเมื่อเขาอายุได้ 2 เดือน เมื่อเขาอายุได้เดือนแสดงปฏิกิริยาของเขาเมื่อแม่หรือใครเรียกเขาว่า และตอนนี้เขาเป็น 11 เดือนเขาสามารถเรียกว่า "แม่" และ "พ่อ" ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขมากเมื่อแม่ของเขาจะดูแลเขาหรือเล่นกับเขา. ขั้นที่ห้าวัยรุ่น: รหัสประจำตัวเมื่อเทียบกับความสับสนบทบาททฤษฎีนี้คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับฉันiThink บางครั้งพฤติกรรมของฉันชอบทฤษฎีนี้ แต่บางครั้งผมไม่ได้เช่นอารมณ์ของฉันลิตรผมไม่ได้ อารมณ์เสียได้ง่ายหรือระคายเคืองเวลา iThink ฉันเป็นคนหนึ่งที่เหมาะสม หรือเมื่อ Italked กับพ่อแม่ของฉันฉันมักจะพูดคุยกับพวกเขาเบา ๆ และไม่เคยร้องที่พวกเขา ฉันชอบที่จะออกไปพร้อมกับครอบครัวของฉันกว่าจะออกไปกับเพื่อนของฉัน แต่มันไม่ได้หมายความว่ามิตรภาพไม่ได้หมายถึงฉันฉันแค่คิดว่าครอบครัวของฉันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผมมากและผมรักพวกเขา บางครั้งผมก็สับสนและคิดว่าเสมอในอนาคตสิ่งที่ฉันจะเป็น พยายามที่จะหาตัวเองและตอนนี้ผมก็ยังไม่ทราบว่าสิ่งที่ฉันต้องการจะทำหรือสิ่งที่ฉันจะต้องมีขั้นตอนที่แปดซื่อสัตย์ปลายวัยเมื่อเทียบกับสิ้นหวังพ่อของฉันมีพฤติกรรมเช่นทฤษฎีนี้เพราะเขาได้รับเก่าทุกวัน เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นระเบียบสิ่งที่เขามักจะพูดพึมพำ 5 เดือนที่ผ่านมาพ่อของฉันมีโรคมะเร็งตับอ่อนเพียงเพราะเขาไม่แข็งแรงดังนั้นเขาจึงไม่สามารถดำเนินการสิ่งที่หนัก ทุกครั้งเมื่อพ่อของฉันมีเวลาที่เขาชอบที่จะไปที่วัดและการเดินทางด้วยตัวเอง พ่อของฉันเป็นคนที่มอบให้หนึ่งเขาจึงเป็นชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและสิ่งหนึ่งที่แตกต่างทฤษฎีนี้คือพ่อของฉันมีความทรงจำที่ดีและแน่นอนเขาไม่เคยลืมอะไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีริคสันเป็นจิตขัดแย้ง
เวทีหนึ่ง ปีแรกของชีวิต : ความไว้วางใจกับความไม่ไว้วางใจ

หลานชายตัวน้อยของฉันมีพฤติกรรมชอบทฤษฎีนี้ เขาไม่เคยร้องไห้เวลาแม่ออกไปข้างนอก และดูเหมือนว่า เขารู้ว่าแม่ของเขาจะกลับมาบ้านแน่นอน เขาสามารถพูดคนเดียวเมื่อเขาอายุ 2 เดือน เมื่อเขาเป็นเดือน แสดงปฏิกิริยาของเขา เมื่อแม่ของเขาหรือใครโทรหาเขาและตอนนี้เขากำลังจะ 11 เดือน เขาจะเรียก " แม่ " และ " พ่อ " เขาดูมีความสุขมาก เมื่อแม่ของเขาดูแลเขา หรือเล่นกับเขา

ห้าขั้นตอน , วัยรุ่น : เอกลักษณ์และบทบาทความสับสน

ทฤษฎีนี้คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับฉันนั่นแหละ บางครั้งพฤติกรรมของฉันชอบทฤษฎีนี้ แต่บางครั้งก็ไม่ได้ เช่น อารมณ์ผมไม่อารมณ์เสียหรือหงุดหงิดง่าย เป็นเวลา นั่นแหละผมที่เหมาะสมหนึ่งหรือเมื่อ italked กับพ่อแม่ของฉันฉันมักจะพูดกับเขาเบา ๆและไม่เคยตะโกนใส่พวกเขา ฉันชอบไปเที่ยวกับครอบครัวดีกว่า ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่มันไม่ได้หมายความ ว่า มิตรภาพไม่ได้หมายความว่าให้ฉัน ฉันก็แค่คิดว่า ครอบครัวของฉันมันสำคัญกับผมมาก และผมชอบมันจริงๆ บางครั้งผมก็สับสน และมักจะคิดว่า ในอนาคต ว่า ฉัน จะเป็นพยายามที่จะค้นหาตัวเอง และตอนนี้ ฉันก็ยังไม่ได้รู้สิ่งที่ฉันต้องการจะทำ หรือสิ่งที่ฉันต้องการ

ขั้นตอนแปดสาย ผู้ใหญ่สมบูรณ์เมื่อเทียบกับความสิ้นหวัง

พ่อฉันมีพฤติกรรมชอบทฤษฎีนี้เพราะเขาอายุมากขึ้นทุกวัน เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นบางอย่างที่ระเบียบเขามักจะบ่น 5 เดือนที่ผ่านมา พ่อผมมีมะเร็งตับอ่อน เพียงเพราะเขาไม่ดังนั้นเขาไม่สามารถแบกหนักๆทุกครั้งที่พ่อฉันมีเวลาที่เขาชอบไปวัด และเดินทางคนเดียว พ่อคือผู้ให้ เขาเป็นคนใจดี โดยเฉพาะเด็ก และสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากทฤษฎีนี้คือพ่อผมมีความจำดี และแน่นอน เขาไม่ลืมหรอก