Initial experiments were set to inv

Initial experiments were set to investigate the suitable mixture ratio of the two solvents used
(acetone and methanol) with the reflux extraction protocol, which is one of the conventional
extraction procedures of pulp samples. The acetone and methanol solvent mixture was
chosen due to the fact that polar solvents can extract a larger range of organic compounds
from pulp samples.[20] This can be explained by the fact that at higher temperatures the
polarity of polar solvents decreases (heating a polar solvent while keeping it in a liquid
state decreases dielectric constant to that of non-polar solvents), which allows it to capture
compounds ranging from semi-polar to non-polar.[23,24] Also, the chosen solvents are less
hazardous compared to chlorinated and benzene-related solvents such as dichloromethane
(DCM), chloroform, and benzene.[20] The effect of the concentration of the two solvents
in the mixture on the yield of extractives was investigated by varying the concentration of
acetone (40, 50, and 60% v/v) in methanol. At this stage, temperature was fixed at 80◦C,
extraction time at 2 h, and volume of solvent at 60 mL. It was observed that the ratio of
40:60% v/v acetone/methanol gave the highest results of extracted lipophilic extractives.
Optimal extraction time of lipophilic extractives using reflux extraction was then
determined and later compared with that of USLE. The percentage of lipophilic extractives
obtained was calculated using Equation (1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดลองครั้งแรกที่ตั้งอยู่ในการตรวจสอบอัตราการผสมที่เหมาะสมของทั้งสองตัวทำละลายที่ใช้
(อะซิโตนและเมทานอล) กับโปรโตคอลการสกัดกรดไหลย้อนซึ่งเป็นหนึ่งในการชุมนุม
ขั้นตอนการสกัดตัวอย่างเยื่อกระดาษ อะซีโตนและเมทานอลผสมตัวทำละลายที่ถูก
เลือกเนื่องจากความจริงที่ว่าตัวทำละลายที่ขั้วโลกสามารถดึงช่วงขนาดใหญ่ของสารประกอบอินทรีย์
จากตัวอย่างเยื่อ. [20] นี้สามารถอธิบายได้ด้วยความจริงที่ว่าที่อุณหภูมิสูง
ขั้วของขั้วโลกละลายลดลง (ความร้อน ขั้วโลกละลายในขณะที่เก็บไว้ในที่ที่มีสภาพคล่อง
ลดลงรัฐอิเล็กทริกคงที่ของตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว) ซึ่งช่วยให้สามารถจับ
สารประกอบตั้งแต่กึ่งขั้วโลกจะไม่มีขั้ว. [23,24] นอกจากนี้ตัวทำละลายที่เลือกมีน้อย
อันตราย เมื่อเทียบกับตัวทำละลายคลอรีนและสารเบนซีนที่เกี่ยวข้องเช่นไดคลอโรมีเทน
(DCM) คลอโรฟอร์มและเบนซิน. [20] ผลของความเข้มข้นของทั้งสองตัวทำละลาย
ในส่วนผสมที่มีต่อผลผลิตของ extractives ถูกตรวจสอบโดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
อะซิโตน (40 , 50, และ 60% v / v) ในเมทานอล ในขั้นตอนนี้อุณหภูมิคงที่80◦C,
เวลาสกัด 2 ชั่วโมงและปริมาณของตัวทำละลายที่ 60 มิลลิลิตร มันถูกตั้งข้อสังเกตว่าอัตราส่วน
40: 60% v / v อะซิโตน / เมทานอลให้ผลสูงสุดของสารแทรก lipophilic สกัด.
เวลาที่เหมาะสมของการสกัดสารแทรก lipophilic ใช้การสกัดกรดไหลย้อนจากนั้นก็
กำหนดและต่อมาเมื่อเทียบกับที่ของจำลอง USLE ร้อยละของสารแทรก lipophilic
ได้คำนวณโดยใช้สมการที่ (1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทดลองเริ่มต้นถูกตั้งค่าเพื่อตรวจสอบที่เหมาะสมผสมอัตราส่วนของตัวทำละลายที่ใช้ 2
( อะซิโตนและเมทานอล ) ด้วยการย้อนโพรโทคอลในการสกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนการสกัดแบบ
ตัวอย่างเยื่อกระดาษ อะซิโตน เมทานอล และตัวทำละลายผสมที่เลือกถูก
เนื่องจากขั้วโลกตัวทำละลายสามารถแยกขนาดใหญ่ช่วงของ
สารอินทรีย์จากตัวอย่างเยื่อกระดาษ[ 20 ] นี้สามารถอธิบายได้ด้วยความจริงที่ว่า ที่อุณหภูมิสูงกว่า
ขั้วของขั้วโลกตัวทำละลายลดลง ( ความร้อนละลายขั้วโลกในขณะที่รักษาในของเหลว
รัฐลดลงไดอิเล็กทริกคงที่ที่ตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ) ซึ่งช่วยให้จับภาพ
สารประกอบตั้งแต่กึ่งขั้วโลกจะไม่มีขั้ว [ 23,24 ] ยัง เลือกตัวทำละลายน้อยลง
อันตรายเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซินและตัวทำละลายคลอรีนที่เกี่ยวข้องเช่นไดคลอโรมีเทน
( DCM ) , คลอโรฟอร์ม และเบนซิน [ 20 ] ผลของความเข้มข้นของสารละลายผสมใน 2
ในผลผลิตของ extractives ศึกษาที่ความเข้มข้นของ
อะซิโตน ( 40 , 50 และ 60 % v / v ) ใน เมทานอล ในขั้นตอนนี้ อุณหภูมิอยู่ที่ 80 ◦ C
การสกัดเวลา 2 ชั่วโมงและปริมาณของตัวทำละลายที่ 60 มิลลิลิตร พบว่าอัตราส่วน 40 : 60 %
/ v / เมทานอลอะซีโตนได้ผลลัพธ์สูงสุดของสารสกัดลิโพฟิลิก extractives .
เวลาการสกัดที่เหมาะสม extractives ลิโพฟิลิกการสกัดย้อนแล้ว
ตั้งใจ และเมื่อเทียบกับที่ของน . เปอร์เซ็นต์ของลิโพฟิลิก extractives
ได้คำนวณได้โดยใช้สมการ ( 1 )