The research tools include 9 progra

The research tools include 9 programs of learning activity by CIPPA for the Innovation and Information Technology in Education; Four-choice objective test on learning achievement (40 questions). The item discrimination range from 0.21-0.84 and the coefficient of reliability is 0.87. The 20-question survey on student learning satisfaction has item discrimination from 0.30-0.67 and the coefficient of reliability is 0.93. The statistics used in the data analysis are percentage, mean, standard deviation and the dependent t-test is used to test the hypothesis. (1) The learning management plan for the Innovation and Information Technology in Education has an effectiveness of 89.70/83.67. (2) The effectiveness index of the learning management plan for the Innovation and Information Technology in Education is 0.7391, which indicates that the test scores of students after learning are higher than before learning by 73.91%. (3) The 3rd year students have the learning achievement scores after learning higher than before learning, which is statistically significant at 0.05 level. (4) The 3rd year students have the highest level (X[bar] = 4.54) of learning satisfaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เครื่องมือวิจัยรวม 9 โปรแกรมการเรียนรู้กิจกรรมตาม CIPPA นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษา 4 เลือกทดสอบวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้ความสำเร็จ (40 คำถาม) ช่วงแบ่งแยกสินค้าจาก 0.21-0.84 และสัมประสิทธิ์ของความน่าเชื่อถือคือ 0.87 สำรวจ 20 คำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนได้เลือกปฏิบัติสินค้าจาก 0.30-0.67 และค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อถือเป็น 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเปอร์เซ็นต์ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-ทดสอบขึ้นใช้ในการทดสอบสมมติฐาน (1 แผนการจัดการเรียนรู้)นวัตกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษามีประสิทธิภาพเป็นของ 89.70/83.67 (2) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษามีแผน 0.7391 ซึ่งบ่งชี้ว่า คะแนนสอบของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดย 73.91% (3 ปี 3)นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (4 นักศึกษาปี 3)มีระดับสูง (X [บาร์] = 4.54) ของความพึงพอใจในการเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครื่องมือการวิจัยรวมถึง 9 โปรแกรมของกิจกรรมการเรียนรู้โดยซิปปาสำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษา; การทดสอบวัตถุประสงค์สี่ทางเลือกที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (40 คำถาม) ช่วงการเลือกปฏิบัติรายการ 0.21-0.84 และค่าสัมประสิทธิ์ของความน่าเชื่อถือคือ 0.87 การสำรวจ 20 คำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนมีการเลือกปฏิบัติรายการ 0.30-0.67 และค่าสัมประสิทธิ์ของความน่าเชื่อถือคือ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและขึ้นอยู่กับ t-test จะใช้ในการทดสอบสมมติฐาน (1) แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษามีประสิทธิภาพของ 89.70 / 83.67 (2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้สำหรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษาคือ 0.7391 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคะแนนการทดสอบของนักเรียนหลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียนโดย 73.91% (3) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนรู้ซึ่งเป็นนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (4) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มีระดับสูงสุด (x [บาร์] = 4.54) ความพึงพอใจของการเรียนรู้