Many studies of delirium focused on

Many studies of delirium focused on the advantages of educated intervention, such as prevention practices, increased early detection, and proper medical management (Bergmann, Murphy, Kiely, Jones, & Marcantonio, 2005; Featherstone & Hopton, 2010; Rapp, Mentes, & Titler, 2001). Researchers also found a positive correlation between use of an educational intervention for nursing and medical professionals and positive patient outcomes such as decreased length of hospital stay (Meako, Thompson, & Cochrane, 2011; Tabet et al., 2005). Fick and co-authors (2007) found using case vignettes could evaluate nurses' knowledge of delirium in patients with dementia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาจำนวนมากของ delirium เน้นข้อดีของการศึกษาการแทรกแซง เช่นแนวทางการป้องกัน เพิ่มการตรวจหา และการจัดการทางการแพทย์ที่เหมาะสม (Bergmann เมอร์ฟี่ Kiely โจนส์ & Marcantonio, 2005 Featherstone & Hopton, 2010 สต็อค Mentes, & Titler, 2001) นักวิจัยยังพบความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการแทรกแซงการศึกษาสำหรับพยาบาล และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผลบวกผู้ป่วยเช่นการลดความยาวของโรงพยาบาล (Meako ทอมป์สัน และคอ เครน 2011 Tabet et al. 2005) Fick และผู้เขียนร่วม (2007) พบใช้กรณีสวยสามารถประเมินความรู้พยาบาลของ delirium ในผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาหลายแห่งของเพ้อมุ่งเน้นไปที่ข้อได้เปรียบของการแทรกแซงการศึกษาเช่นการปฏิบัติในการป้องกันเพิ่มขึ้น แต่เนิ่น ๆ และการจัดการทางการแพทย์ที่เหมาะสม (Bergmann เมอร์ฟี่, Kiely โจนส์และโทนี 2005; ดันและ Hopton 2010; Rapp, Mentes & Titler, 2001) นักวิจัยยังพบว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการใช้การแทรกแซงการศึกษาสำหรับพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และการรักษาผู้ป่วยในเชิงบวกเช่นความยาวลดลงของการพักในโรงพยาบาล (Meako ธ อมป์สันและ Cochrane 2011. Tabet et al, 2005) Fick และผู้เขียนร่วม (2007) พบการใช้กรณีสะเปะสะปะสามารถประเมินความรู้ของพยาบาลของเพ้อในผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาหลายแห่งการเพ้อเน้นข้อได้เปรียบของการศึกษาการแทรกแซงเช่นการปฏิบัติการป้องกัน เพิ่มการตรวจหาและการจัดการทางการแพทย์ที่เหมาะสม ( เบอร์กแมน เมอร์ฟี คีลี่ โจนส์ , และ marcantonio , 2005 ; Featherstone & ฮอพตัน , 2010 ; ราฟ mentes , และ titler , 2001 ) นักวิจัยยังพบความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการใช้ของการแทรกแซงการศึกษาการพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และผลลัพธ์ของผู้ป่วยบวก เช่น ลดความยาวของการเข้าพักที่โรงพยาบาล ( meako Thompson และ Cochrane , 2011 ; tabet et al . , 2005 ) ฟิกและร่วมเขียน ( 2550 ) พบการใช้กรณีพบพยาบาลสามารถประเมินความรู้ของการเพ้อในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม