Privacy practices in social network

Privacy practices in social network sites often appear paradoxical, as content-sharing behavior stands in conflict with the need to reduce disclosure-related harms. In this study we explore privacy in social network sites as a contextual information practice, managed by a process of boundary regulation. Drawing on a sample survey of undergraduate Facebook users, we examine a particular privacy-enhancing practice: having a friends-only Facebook profile. Particularly, we look at the association between
network composition, expectancy violations, interpersonal privacy practices and having a friends-only profile. We find that expectancy violations by weak ties and increased levels of interpersonal privacy management are positively associated with having a friends-only profile. We conclude with a discussion of how these findings may be integrated into the design of systems to facilitate interaction while enhancing individual privacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปฏิบัติที่เป็นส่วนตัวในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมมักจะปรากฏความขัดแย้งเป็นพฤติกรรมเนื้อหาร่วมกันยืนอยู่ในความขัดแย้งกับความต้องการที่จะลดอันตรายต่อการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ในการศึกษานี้เราจะสำรวจความเป็นส่วนตัวในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเป็นวิธีที่ข้อมูลบริบทการจัดการโดยกระบวนการของการควบคุมเขตแดน การวาดภาพบนการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้ Facebook ในระดับปริญญาตรีเราตรวจสอบการปฏิบัติที่เป็นส่วนตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้าง: มีเพื่อนเท่านั้นโปรไฟล์ Facebook
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามองไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของเครือข่ายการละเมิดความคาดหวังในการปฏิบัติความเป็นส่วนตัวระหว่างบุคคลและมีรายละเอียดเพื่อนเท่านั้น เราพบว่าการละเมิดความคาดหวังในความสัมพันธ์โดยที่อ่อนแอและระดับที่เพิ่มขึ้นของการจัดการความเป็นส่วนตัวระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องในเชิงบวกกับการมีรายละเอียดเพื่อนเท่านั้น เราสรุปด้วยการอภิปรายของวิธีการค้นพบเหล่านี้อาจจะถูกรวมเข้ากับการออกแบบระบบเพื่ออำนวยความสะดวกการทำงานร่วมกันในขณะที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปฏิบัติที่เป็นส่วนตัวในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมมักจะปรากฏที่ขัดแย้ง เป็นเนื้อหาที่ใช้ร่วมกันหมายถึงพฤติกรรมขัดแย้งกับความต้องการที่จะลดการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับก่อ . ในการศึกษานี้เราสำรวจความเป็นส่วนตัวในเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมเป็นการปฏิบัติข้อมูลบริบท จัดการ โดยกระบวนการของการควบคุมขอบเขต วาดในการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้ Facebook นักศึกษาระดับปริญญาตรีเราตรวจสอบเฉพาะการฝึกความเป็นส่วนตัว : มีเพื่อนเท่านั้น facebook ข้อมูล โดยเฉพาะ เราดูที่ความสัมพันธ์ระหว่าง
องค์ประกอบเครือข่ายการละเมิดด้านการปฏิบัติความเป็นส่วนตัวของบุคคล และมีเพื่อนโปรไฟล์เท่านั้นเราพบว่า ความคาดหวังในการละเมิดโดยความสัมพันธ์ที่อ่อนแอและเพิ่มระดับของการจัดการความเป็นส่วนตัวของบุคคลมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับมีเพื่อนโปรไฟล์เท่านั้น ได้ด้วยวิธีการอภิปรายผลการวิจัยเหล่านี้อาจจะรวมอยู่ในการออกแบบระบบเพื่ออำนวยความสะดวกในการโต้ตอบในขณะที่เพิ่มความเป็นส่วนตัว .