One of the modern world’s intriguin

One of the modern world’s intriguing sources of mystery has been aeroplanes vanishing in mid-flight. One of the more famous of these was the disappearance in 1937 of a pioneer woman aviator, Amelia Earhart. On the second last stage of an attempted round the world flight, she had radioed her position as she and her navigator searched desperately for their destination, a tiny island in the Pacific. The plane never arrived at Howland Island. Did it crash and sink after running out of fuel? It had been a long haul from New Guinea, a twenty hour flight covering some four thousand kilometres. Did Earhart have enough fuel to set down on some other island on her radioed course? Or did she end up somewhere else altogether? One fanciful theory had her being captured by the Japanese in the Marshall Islands and later executed as an American spy; another had her living out her days under an assumed name as a housewife in New Jersey. Seventy years after Earhart’s disappearance, ‘myth busters’ continue to search for her. She was the best-known American woman pilot in the world. People were tracking her flight with great interest when, suddenly, she vanished into thin air. Aircraft had developed rapidly in sophistication after World War One, with the 1920s and 1930s marked by an aeronautical record-setting frenzy. Conquest of the air had become a global obsession. While Earhart was making headlines with her solo flights, other aviators like high-altitude pioneer Wiley Post and industrialist Howard Hughes were grabbing some glory of their own. But only Earhart, the reserved tomboy from Kansas who disappeared three weeks shy of her 40th birthday, still grips the public imagination. Her disappearance has been the subject of at least fifty books, countless magazine and newspaper articles, and TV documentaries. It is seen by journalists as the last great American mystery. There are currently two main theories about Amelia Earhart’s fate. There were reports of distress calls from the Phoenix Islands made on Earhart’s radio frequency for days after she vanished. Some say the plane could have broadcast only if it were on land, not in the water. The Coast Guard and later the Navy, believing the distress calls were real, adjusted their searches, and newspapers at the time reported Earhart and her navigator were marooned on an island. No-one was able to trace the calls at the time, so whether Earhart was on land in the Phoenix Islands or there was a hoaxer in the Phoenix Islands using her radio remains a mystery. Others dismiss the radio calls as bogus and insist Earhart and her navigator ditched in the water. An Earhart researcher, Elgen Long, claims that Earhart’s airplane ran out of gas within fifty-two miles of the island and is sitting somewhere in a 6,000-square-mile area, at a depth of 17,000 feet. At that depth, the fuselage would still be in shiny, pristine condition if ever anyone were able to locate it. It would not even be covered in a layer of silt. Those who subscribe to this explanation claim that fuel calculations, radio calls and other considerations all show that the plane plunged into the sea somewhere off Howland Island. Whatever the explanation, the prospect of finding the remains is unsettling to many. To recover skeletal remains or personal effects would be a grisly experience and an intrusion. They want to know where Amelia Earhart is, but that’s as far as they would like to go. As one investigator has put it, “I’m convinced that the mystery is part of what keeps us interested. In part, we remember her because she’s our favourite missing person.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งของโลกสมัยใหม่แหล่งน่าของลึกลับแล้ว aeroplanes หายสาบสูญในเที่ยวบินช่วงกลาง หนึ่งที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ได้หายตัวไปในปี 1937 ของนักบินหญิงผู้บุกเบิก ฮาร์ต ในสองขั้นสุดท้ายของการพยายามปัดการบินโลก เธอมี radioed ตำแหน่งของเธอเธอ และเธอนำทางค้นหาปลายทางของพวกเขา เป็นเกาะเล็ก ๆ ในแปซิฟิกหมด เครื่องบินไม่เคยมาถึงที่เกาะฮาวแลนด์ มันไม่ได้ผิดพลาด และจมหลังจากที่หมดเชื้อเพลิง มันเคยลากยาวจากนิวกินี เที่ยวบิน 20 ชั่วโมงครอบคลุม 4 พันกิโลเมตรบาง Earhart ไม่มีน้ำมันเพียงพอตั้งค่าลงบนบางเกาะอื่น ๆ ในหลักสูตร radioed ของเธอ หรือไม่เธอเอยแฟนตาซีทั้งหมด ทฤษฎีหนึ่ง fanciful มีเธอถูกจับ โดยญี่ปุ่นในหมู่เกาะมาร์แชลล์ และดำเนินต่อมาเป็นไส้ศึกเป็นอเมริกัน ยังมีเธออยู่ออกวันของเธอภายใต้ชื่อปลอมตัวเป็นแม่บ้านในนิวเจอร์ซี่ ปีเซเว่นตี้หลังจากหายตัวไปของ Earhart 'ผู้ช่วยทำลายตำนาน' ต่อไปหาเธอ เธอเป็นนักบินหญิงชาวอเมริกันรู้จักในโลก คนได้ติดตามการบินของเธอ ด้วยความสนใจเมื่อ ทันที เธอศาสดาในอากาศบาง เครื่องบินได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในความซับซ้อนหลังจากสงครามโลกครั้งหนึ่ง 1920 และ 1930s ที่ทำเครื่องหมาย โดยเกมส์ตั้งค่าเรกคอร์ดการสาย ของอากาศได้กลายเป็น การครอบงำจิตใจสากล ขณะ Earhart มีการพาดหัวของเธอบินเดี่ยว ห้องอื่น ๆ เช่นไพโอเนียร์สูงลง Wiley และ industrialist Howard ฮิวจ์สถูกโลภบางเกียรติของตนเอง แต่เฉพาะ Earhart, tomboy จองจากแคนซัสที่หายไปสามสัปดาห์อายของวันเกิดของเธอ 40, grips ยังจินตนาการสาธารณะ หายตัวไปของเธอได้รับชื่อเรื่องของหนังสือน้อย 50 นิตยสารและหนังสือพิมพ์บทความนับไม่ถ้วน และสารคดีโทรทัศน์ จะเห็นได้ โดยผู้สื่อข่าวเป็นลึกลับอเมริกันดีล่าสุด ปัจจุบันมีทฤษฎีหลักสองเกี่ยวกับชะตากรรมของฮาร์ต มีรายงานของความทุกข์เรียกจากหมู่เกาะฟีนิกซ์ที่ทำบนคลื่นความถี่วิทยุของ Earhart วันหลังเธอศาสดา บางคนกล่าวว่า เครื่องบินไม่ได้ออกอากาศเมื่อนั้นบนบก ในน้ำไม่ ยามชายฝั่ง และภายหลังกองทัพเรือ เชื่อเรียกความทุกข์ได้จริง ปรับปรุงการค้นหา และหนังสือพิมพ์ในเวลารายงาน Earhart และนาวิเกเตอร์ของเธอถูกลอยคอบนเกาะ ไม่มีใครได้ติดตามการเรียกเวลา เพื่อว่า Earhart อยู่บนแผ่นดินในหมู่เกาะฟีนิกซ์ หรือมีที่ hoaxer ในหมู่เกาะฟีนิกซ์ใช้เธอ วิทยุยังคง ลึกลับ ยกเลิกการติดต่อทางวิทยุเป็นปลอม และยืนยัน Earhart และนำทางเธอ ditched ในน้ำ การ Earhart นักวิจัย Elgen ยาว อ้างว่า เครื่องบินของ Earhart พอก๊าซภายในสิบสองไมล์ของเกาะ และนั่งอยู่ในพื้นที่ 6000 ตารางไมล์ ที่ความลึกฟุต 17,000 ว่า ลึก fuselage ที่ยังคงจะในสภาพเงา บริสุทธิ์ถ้าเคยใครสามารถหาได้ มันจะไม่ได้ครอบคลุมในชั้นของตะกอน ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกของคำอธิบายนี้อ้างการคำนวณน้ำมันเชื้อเพลิง วิทยุโทรศัพท์ และข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ทั้งหมดแสดงว่า เครื่องบินลดลงในทะเลบางแห่งปิดเกาะฮาวแลนด์ สิ่งที่อธิบาย โอกาสของการหาอยู่คือก่อกวนหลาย การกู้คืนยังคงอยู่อีกหรือส่วนตัวจะเป็นประสบการณ์ที่มาหลังจากและการบุกรุก ต้องการทราบที่ฮาร์ต แต่ที่เป็นที่พวกเขาอยากจะไป เป็นหนึ่งนักสืบได้ใส่มัน "ผมเชื่อว่าความลึกลับของสิ่งที่ทำให้เราสนใจ ในส่วน เราจำเธอเนื่องจากเธอเป็นคนหายของเราชื่นชอบ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในโลกสมัยใหม่ของแหล่งที่มาของความลึกลับที่น่าสนใจได้รับเครื่องบินที่หายไปในช่วงกลางเดือนเที่ยวบิน หนึ่งที่มีชื่อเสียงมากขึ้นในจำนวนนี้คือการหายตัวไปในปี 1937 ของนักบินหญิงผู้บุกเบิก Amelia Earhart ในขั้นตอนสุดท้ายที่สองของความพยายามที่บินรอบโลกเธอได้วิทยุตำแหน่งของเธอขณะที่เธอและเธอนำทางค้นหาหมดปลายทางของพวกเขาซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก เครื่องบินไม่เคยมาถึงที่เกาะฮาวแลนด์ มันไม่ผิดพลาดและจมลงหลังจากที่วิ่งออกมาจากน้ำมันเชื้อเพลิง? มันเคยลากยาวจากนิวกินีเที่ยวบินยี่สิบชั่วโมงครอบคลุมบางสี่พันกิโลเมตร ไม่ Earhart มีเชื้อเพลิงพอที่จะตั้งลงในบางส่วนเกาะอื่น ๆ ในหลักสูตรวิทยุของเธอ? หรือเธอไม่จบลงที่อื่นทั้งหมด? หนึ่งในทฤษฎีที่เพ้อฝันของเธอได้ถูกจับโดยชาวญี่ปุ่นในหมู่เกาะมาร์แชลล์และดำเนินการต่อมาเป็นสายลับอเมริกัน อีกเธอมีชีวิตออกวันของเธอภายใต้ชื่อปลอมเป็นแม่บ้านในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เจ็ดสิบปีหลังจากการหายตัวไปของ Earhart 'ตำนานบัสเตอร์' ยังคงค้นหาสำหรับเธอ เธอเป็นที่รู้จักกันดีหญิงอเมริกันนักบินในโลก คนติดตามเที่ยวบินของเธอที่มีความสนใจที่ดีเมื่อจู่ ๆ เธอก็หายไปในอากาศบาง เครื่องบินมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในความซับซ้อนหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกับปี ค.ศ. 1920 และ 1930 โดยการทำเครื่องหมายบ้าบันทึกการตั้งค่าเกี่ยวกับการบิน ชัยชนะของอากาศได้กลายเป็นความหลงใหลทั่วโลก ในขณะที่ได้รับการ Earhart การพาดหัวที่มีเที่ยวบินเดี่ยวของเธอนักบินอื่น ๆ เช่นผู้บุกเบิกระดับสูงไวลีย์โพสต์และอุตสาหกรรม Howard Hughes ถูกโลภความรุ่งเรืองของตัวเองบางส่วน แต่ Earhart ที่ทอมบอยลิขสิทธิ์จากแคนซัสที่หายไปสามสัปดาห์ขี้อายของวันเกิด 40 ของเธอยังคงจับจินตนาการของประชาชน การหายตัวไปของเธอได้รับเรื่องของการไม่น้อยกว่าห้าสิบหนังสือนิตยสารนับไม่ถ้วนและบทความในหนังสือพิมพ์และสารคดีโทรทัศน์ จะเห็นได้โดยนักข่าวเป็นช่วงที่ดีลึกลับอเมริกัน ขณะนี้มีสองหลักทฤษฎีเกี่ยวกับชะตากรรม Amelia Earhart ของ มีรายงานของการเรียกความทุกข์จากหมู่เกาะฟีนิกซ์ทำบนคลื่นความถี่วิทยุ Earhart สำหรับวันหลังจากที่เธอหายไป บางคนบอกว่าเครื่องบินจะได้ออกอากาศเฉพาะในกรณีที่มันอยู่บนที่ดินที่ไม่ได้อยู่ในน้ำ หน่วยยามฝั่งและต่อมากองทัพเรือเชื่อสายความทุกข์เป็นเรื่องจริงปรับค้นหาของพวกเขาและหนังสือพิมพ์ในเวลาที่มีการรายงาน Earhart และนาวิเกเตอร์ของเธอถูกทิ้งไว้บนเกาะ ไม่มีใครสามารถที่จะติดตามสายในเวลาดังนั้นไม่ว่า Earhart อยู่บนที่ดินในหมู่เกาะฟีนิกซ์หรือมี hoaxer ในหมู่เกาะฟีนิกซ์ใช้วิทยุของเธอยังคงเป็นปริศนา อื่น ๆ ยกเลิกการวิทยุเรียกว่าเป็นการหลอกลวงและยืนยัน Earhart และนำทางเธอทิ้งในน้ำ นักวิจัย Earhart, Elgen ยาวอ้างว่าเครื่องบิน Earhart วิ่งออกมาจากก๊าซภายในห้าสิบสองไมล์ของเกาะและนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในพื้นที่ 6,000 ตารางไมล์ที่ระดับความลึก 17,000 ฟุต ที่ระดับความลึกที่ลำตัวจะยังคงอยู่ในเงาสภาพเก่าแก่ถ้าเคยทุกคนก็สามารถที่จะหามัน มันจะไม่ได้รับการคุ้มครองในชั้นของตะกอน ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกกับคำอธิบายนี้อ้างว่าการคำนวณเชื้อเพลิงวิทยุโทรศัพท์และการพิจารณาอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินพุ่งลงไปในทะเลที่ไหนสักแห่งที่ปิดเกาะฮาวแลนด์ สิ่งที่อธิบายโอกาสในการหายังคงเป็นไม่สงบหลาย การกู้คืนซากโครงกระดูกหรือผลส่วนบุคคลจะเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวและการบุกรุก พวกเขาต้องการที่จะทราบว่า Amelia Earhart เป็น แต่ที่เท่าที่พวกเขาต้องการจะไป ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้วิจัยได้วางไว้ว่า "ผมเชื่อว่าความลึกลับเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้เราสนใจ ในส่วนที่เราจำเธอเพราะเธอเป็นคนที่ชื่นชอบของเราที่ขาดหายไป. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในแหล่งที่น่าสนใจที่ทันสมัยของโลกแห่งความลึกลับ ได้รับเครื่องบินหายไปในการบินกลาง หนึ่งมีชื่อเสียงมากของเหล่านี้คือการหายตัวไปในปี 1937 ของผู้หญิงเป็นผู้บุกเบิก Aviator , Amelia Earhart . บนเวทีช่วงที่สองของการพยายามบินรอบโลก เธอได้เรียกตำแหน่งของเธอเป็นเธอและเนวิเกเตอร์ เธอค้นหาหมดท่าสำหรับปลายทางของพวกเขาเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิก เครื่องบินไม่เคยมาถึงเกาะฮาวแลนด์ . นี่มันผิดพลาดและจมหลังจากวิ่งออกจากเชื้อเพลิง ? มันมีระยะไกลจากนิวกินี , ยี่สิบชั่วโมงครอบคลุมบางสี่หมื่นกิโลเมตร ทำฮาร์ทมีพอน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อตั้งลงบนเกาะอื่น ๆของเธอเรียกแน่นอน ? หรือเธอสิ้นสุดขึ้นที่อื่นทั้งหมดหนึ่งในทฤษฎีเพ้อฝัน เธอถูกจับโดยญี่ปุ่นใน หมู่เกาะมาร์แชล และภายหลังการเป็นสายลับอเมริกัน อีกเธออยู่ออกวันของเธอภายใต้ชื่อปลอมเป็นแม่บ้านในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เจ็ดปีหลังจากการหายตัวไปของ Myth Busters ' ฮาร์ท ' ยังคงค้นหาเธอ เธอเป็นหญิงอเมริกันนักบินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคนถูกติดตามเที่ยวบินของเธอด้วยความสนใจ เมื่อ จู่ๆ เธอก็หายไปในอากาศ เครื่องบินได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในความซับซ้อนหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 กับปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ทำเครื่องหมายโดยการบินบันทึกการเมามัน ชัยชนะในอากาศได้กลายเป็นการครอบงำโลก ในขณะที่ฮาร์ททำให้พาดหัวข่าวกับเที่ยวบินเดี่ยวของเธออื่น ๆเช่นกัน นักบินผู้บุกเบิกนิ่งลง และนักอุตสาหกรรมโฮวาร์ดถูกเอาศักดิ์ศรีของตนเอง แต่ ฮาร์ท รองจากแคนซัส , ทอมบอยที่หายตัวไปสามอาทิตย์ขี้อายของวันเกิด 40 ของเธอยังคงจับจินตนาการของประชาชน การหายตัวไปของเธอได้รับเรื่องของอย่างน้อยห้าสิบเล่ม นิตยสารมากมายและบทความในหนังสือพิมพ์ และสารคดีโทรทัศน์มันจะเห็นเป็นปริศนา โดยนักข่าวชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ล่าสุด ในปัจจุบันมีอยู่สองทฤษฎีหลักเกี่ยวกับชะตากรรมของ Amelia Earhart . มีรายงานของความทุกข์โทรจากหมู่เกาะฟินิกซ์ ทำ ฮาร์ท เป็นวิทยุความถี่สำหรับวันหลังจากที่เธอหายตัวไป บางคนบอกว่า เครื่องบินจะได้ออกอากาศ แต่ถ้ามันอยู่ในที่ดินไม่ใช่ในน้ำ หน่วยยามฝั่งและต่อมากองทัพเรือเชื่อว่าการโทรจริงปรับการค้นหาของพวกเขาและหนังสือพิมพ์ในเวลารายงาน และเนวิเกเตอร์ ฮาร์ท เธอติดอยู่บนเกาะ ไม่มีใครสามารถที่จะติดตามการโทรในเวลา ดังนั้นไม่ว่าฮาร์ท บนที่ดินในฟินิกซ์เกาะหรือมีคนชอบล้อเล่นในหมู่เกาะฟินิกซ์ใช้วิทยุของเธอยังคงเป็นปริศนาคนอื่นเลิกวิทยุปลอมและยืนยัน และเนวิเกเตอร์ ฮาร์ท เธอทิ้งในน้ำ เป็นฮาร์ท นักวิจัย elgen ยาว อ้างว่า ฮาร์ท เป็นเครื่องบินน้ำมันหมดภายใน 4 ไมล์ ของเกาะและนั่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งใน 6 , 000 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ ที่ความลึก 12 , 000 ฟุต ที่ความลึกลำตัวจะยังคงอยู่ในเงาภาพที่ล้วนถ้าใครสามารถค้นหามัน มันไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยชั้นของตะกอน . ผู้ที่สมัครสมาชิกนี้คำอธิบายอ้างว่าเชื้อเพลิงคำนวณสายวิทยุและข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินพุ่งลงทะเลบางแห่งปิดเกาะฮาวแลนด์ . สิ่งที่อธิบาย , โอกาสของการ ยังคงเป็นที่น่าไปมากมายกู้ซากโครงกระดูกหรือผลส่วนบุคคลจะเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวและต่อต้านการบุกรุก พวกเขาต้องการรู้ว่า อเมเลีย เอียร์ฮาร์ต แต่เท่าที่พวกเขาต้องการที่จะไป เป็นนักสืบคนหนึ่งได้ใส่มัน " ผมเชื่อว่าลึกลับเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้เราสนใจ ในส่วนที่เราจำได้เพราะเราชื่นชอบบุคคลสูญหาย”