เป็นการแสดงประเภทศิลปะการเต้นรำประกอบดนตรี ของคนพื้นเมืองในแถบ ๓ จังหว การแปล - เป็นการแสดงประเภทศิลปะการเต้นรำประกอบดนตรี ของคนพื้นเมืองในแถบ ๓ จังหว ไทย วิธีการพูด

เป็นการแสดงประเภทศิลปะการเต้นรำประก

เป็นการแสดงประเภทศิลปะการเต้นรำประกอบดนตรี ของคนพื้นเมืองในแถบ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตลอดจนเมืองต่างๆ ของมาเลเซียตอนเหนือ เช่น กะลันตัน ไทรบุรี ปาหัง ตรังกานู ล้วนเป็นที่นิยมเล่นกันทั่วไปและแพร่ไปถึงอินโดนีเซีย
รองเง็งได้รับอิทธิพลแบบอย่างมาจากชาวยุโรป คือ ปอร์ตุเกส สเปน ซึ่งเดินเรือเข้ามาติดต่อค้าขายและตั้งเป็นอาณานิคมขึ้นในย่านนี้ เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ มีงานรื่นเริงใดๆ พวกฝรั่งซึ่งมีการเต้นรำกันสนุกสนาน ชาวมลายูพื้นเมืองเห็นเป็นแบบอย่างจึงนำมาฝึกซ้อมหัดเล่นขึ้นบ้าง โดยเริ่มแรกฝึกหัดจัดแสดงกันอยู่ในวงแคบ เฉพาะแต่ในบ้านขุนนางและวังเจ้าเมืองสุลต่าน เพื่อต้อนรับแขกเหรื่อเวลามีงานรื่นเริงต่างๆ เป็นการภายใน ภายหลังจึงได้แพร่หลายออกสู่ชาวพื้นเมือง
ในยุคแรกการแสดงรองเง็งยังอยู่ในวงจำกัด ใช้ผู้หญิงข้าทาสบริวารฝึกหัดกัน เนื่องจากวัฒนธรรมมุสลิมไม่นิยมให้สตรีเข้าสังคมใกล้ชิดกับบุรุษอย่างประเจิดประเจ้อ ต่อมาจึงใช้รองเง็งเป็นการแสดงสลับฉากฆ่าเวลาขณะเมื่อการแสดงละครมะโย่งหยุดพักครั้งละ ๑๐-๑๕ นาที เพื่อให้เกิดความสนุกสนานเชิญให้ผู้ชมลุกขึ้นมาร่วมวงด้วย ในที่สุดรองเง็งจึงได้พัฒนารูปแบบจนเป็นที่ถูกใจชาวบ้าน มีการตั้งคณะรองเง็งขึ้นรับจ้างไปแสดงตามงานต่างๆ
การแต่งกาย ผู้ชายสวมหมวกหนีบไม่มีปีก สีดำหรือโพกผ้าแบบเจ้าบ่าวมุสลิมก็ได้ นุ่งกางเกงขากว้าง ใส่เสื้อคอกลมแขนยาวผ่าครึ่งอกสีเดียวกับกางเกง ใช้ผ้าหน้าแคบคล้ายผ้าขาวม้าเรียก “ผ้าลิลินัง” หรือ “ผ้าซาเลนดัง” พันรอบสะโพกคล้ายนุ่งโสร่งสั้นทับกางเกงอีกชั้นหนึ่ง
ผู้หญิง ใส่เสื้อเข้ารูปแขนกระบอกเรียกเสื้อ “บันดง” ยาวคลุมสะโพก ผ่าอกตลอด ติดกระดุมทอง เป็นแถวยาว นุ่งผ้าถุงสีหรือลายยาวกรอมเท้า มีผ้าผืนยาวบางๆ คลุมไหล่ให้สีตัดกับสีเสื้อ
เครื่องดนตรีและเพลง เครื่องดนตรีมี ๑. กลองรำมะนา ๒. ฆ้อง ๓. ไวโอลิน (เป็นเครื่องดนตรีหลักที่สำคัญ) เพลงที่นิยมใช้เต้นรำมีราว ๗ เพลง คือ
1. เพลงลาฆูดูวอ เป็นเพลงเร็ว ชื่อเพลงหมายถึง “เพลงที่สอง”
2. เพลงลานัง เป็นเพลงเร็วและช้าสลับกัน ชื่อเพลงหมายถึง น้ำใสที่ไหลหยด น้ำตาที่ไหลปีติ
3. เพลงปูโจ๊ะปิซัง ชื่อเพลงหมายถึง “ยอดตอง” เปรียบเสมือนยอดแห่งความรักที่กำลังสดชื่น
4. เพลงจินตาซายัง ชื่อเพลงหมายถึง ความสำนึกในความรักอันดูดดื่ม
5. เพลงอาเนาะดีดิ ชื่อเพลงหมายถึง ลูกบุญธรรมหรือลูกสุดที่รัก
6. เพลงมะอีนังชวา เป็นเพลงช้าชื่อเพลงหมายถึง แม่นมหรือพี่เลี้ยงชาวชวา ได้ท่ารำคำร้องเดิมมาจากชวา
7. เพลงมะอีนังลามา ชื่อเพลงหมายถึง แม่นมหรือพี่เลี้ยง เป็นเพลงเก่าแก่
ลักษณะการเต้นรำ เมื่อดนตรีขึ้นเพลง ผู้ชายจะไปโค้งฝ่ายหญิงแล้วพากันไปเต้นรำเป็นคู่ๆ ตามจังหวะเพลง มีทั้งช้าและเร็วหรือสลับกัน กระบวนท่ามีทั้งท่ายืน ท่านั่ง ปรบมือ เล่นเท้า หมุนตัว วาดลวดลายไล่เลียงกันด้วยความชำนาญ และเข้ากับจังหวะเพลงอย่างสวยงามน่าดู สนุกสนาน เร้าใจ การเต้นรำจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวกัน เน้นความสุภาพ ความอ่อนช้อย เน้นศิลปะความสวยงาม
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เป็นการแสดงประเภทศิลปะการเต้นรำประกอบดนตรีของคนพื้นเมืองในแถบ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้คือปัตตานียะลาและนราธิวาสตลอดจนเมืองต่าง ๆ ของมาเลเซียตอนเหนือเช่นกะลันตันไทรบุรีปาหังตรังกานูล้วนเป็นที่นิยมเล่นกันทั่วไปและแพร่ไปถึงอินโดนีเซียรองเง็งได้รับอิทธิพลแบบอย่างมาจากชาวยุโรปคือปอร์ตุเกสสเปนซึ่งเดินเรือเข้ามาติดต่อค้าขายและตั้งเป็นอาณานิคมขึ้นในย่านนี้เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาสปีใหม่มีงานรื่นเริงใด ๆ พวกฝรั่งซึ่งมีการเต้นรำกันสนุกสนานชาวมลายูพื้นเมืองเห็นเป็นแบบอย่างจึงนำมาฝึกซ้อมหัดเล่นขึ้นบ้างโดยเริ่มแรกฝึกหัดจัดแสดงกันอยู่ในวงแคบเฉพาะแต่ในบ้านขุนนางและวังเจ้าเมืองสุลต่านเพื่อต้อนรับแขกเหรื่อเวลามีงานรื่นเริงต่าง ๆ เป็นการภายในภายหลังจึงได้แพร่หลายออกสู่ชาวพื้นเมือง ในยุคแรกการแสดงรองเง็งยังอยู่ในวงจำกัดใช้ผู้หญิงข้าทาสบริวารฝึกหัดกันเนื่องจากวัฒนธรรมมุสลิมไม่นิยมให้สตรีเข้าสังคมใกล้ชิดกับบุรุษอย่างประเจิดประเจ้อต่อมาจึงใช้รองเง็งเป็นการแสดงสลับฉากฆ่าเวลาขณะเมื่อการแสดงละครมะโย่งหยุดพักครั้งละ ๑๐ - ๑๕ นาทีเพื่อให้เกิดความสนุกสนานเชิญให้ผู้ชมลุกขึ้นมาร่วมวงด้วยในที่สุดรองเง็งจึงได้พัฒนารูปแบบจนเป็นที่ถูกใจชาวบ้านมีการตั้งคณะรองเง็งขึ้นรับจ้างไปแสดงตามงานต่าง ๆ การแต่งกายผู้ชายสวมหมวกหนีบไม่มีปีกสีดำหรือโพกผ้าแบบเจ้าบ่าวมุสลิมก็ได้นุ่งกางเกงขากว้างใส่เสื้อคอกลมแขนยาวผ่าครึ่งอกสีเดียวกับกางเกงใช้ผ้าหน้าแคบคล้ายผ้าขาวม้าเรียก "ผ้าลิลินัง" หรือ "ผ้าซาเลนดัง" พันรอบสะโพกคล้ายนุ่งโสร่งสั้นทับกางเกงอีกชั้นหนึ่ง ผู้หญิงใส่เสื้อเข้ารูปแขนกระบอกเรียกเสื้อ "บันดง" ยาวคลุมสะโพกผ่าอกตลอดติดกระดุมทองเป็นแถวยาวนุ่งผ้าถุงสีหรือลายยาวกรอมเท้ามีผ้าผืนยาวบาง ๆ คลุมไหล่ให้สีตัดกับสีเสื้อ เครื่องดนตรีและเพลงเครื่องดนตรีมี ๑ . กลองรำมะนา ๒ . ฆ้อง ๓ . ไวโอลิน (เป็นเครื่องดนตรีหลักที่สำคัญ) เพลงที่นิยมใช้เต้นรำมีราว ๗ เพลงคือ1. เพลงลาฆูดูวอเป็นเพลงเร็วชื่อเพลงหมายถึง "เพลงที่สอง"2. เพลงลานังเป็นเพลงเร็วและช้าสลับกันชื่อเพลงหมายถึงน้ำใสที่ไหลหยดน้ำตาที่ไหลปีติ3. เพลงปูโจ๊ะปิซังชื่อเพลงหมายถึง "ยอดตอง" เปรียบเสมือนยอดแห่งความรักที่กำลังสดชื่น4. เพลงจินตาซายังชื่อเพลงหมายถึงความสำนึกในความรักอันดูดดื่ม5. เพลงอาเนาะดีดิชื่อเพลงหมายถึงลูกบุญธรรมหรือลูกสุดที่รัก6. เพลงมะอีนังชวาเป็นเพลงช้าชื่อเพลงหมายถึงแม่นมหรือพี่เลี้ยงชาวชวาได้ท่ารำคำร้องเดิมมาจากชวา7. เพลงมะอีนังลามาชื่อเพลงหมายถึงแม่นมหรือพี่เลี้ยงเป็นเพลงเก่าแก่ ลักษณะการเต้นรำเมื่อดนตรีขึ้นเพลงผู้ชายจะไปโค้งฝ่ายหญิงแล้วพากันไปเต้นรำเป็นคู่ ๆ ตามจังหวะเพลงมีทั้งช้าและเร็วหรือสลับกันกระบวนท่ามีทั้งท่ายืนท่านั่งปรบมือเล่นเท้าหมุนตัววาดลวดลายไล่เลียงกันด้วยความชำนาญและเข้ากับจังหวะเพลงอย่างสวยงามน่าดูสนุกสนานเร้าใจการเต้นรำจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเน้นความสุภาพความอ่อนช้อยเน้นศิลปะความสวยงาม
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ของคนพื้นเมืองในแถบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือปัตตานียะลาและนราธิวาสตลอดจนเมืองต่างๆของมาเลเซียตอนเหนือเช่นกะลันตันไทรบุรีปาหังตรังกานู
คือปอร์ตุเกสสเปน เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาสปีใหม่มีงานรื่นเริงใด ๆ เป็นการภายใน
ใช้ผู้หญิงข้าทาสบริวารฝึกหัดกัน 10-15 นาที
ผู้ชายสวมหมวกหนีบไม่มีปีก นุ่งกางเกงขากว้าง ใช้ผ้าหน้าแคบคล้ายผ้าขาวม้าเรียก "ผ้าลิลินัง" หรือ "ผ้าซาเลนดัง"
"บันดง" ยาวคลุมสะโพกผ่าอกตลอดติดกระดุมทองเป็นแถวยาวนุ่งผ้าถุงสีหรือลายยาวกรอมเท้ามีผ้าผืนยาวบาง ๆ
เครื่องดนตรีมี 1 กลองรำมะนา 2 ฆ้อง 3 ไวโอลิน (เป็นเครื่องดนตรีหลักที่สำคัญ) เพลงที่นิยมใช้เต้นรำมีราว 7 เพลงคือ
1 เพลงลาฆูดูวอเป็นเพลงเร็วชื่อเพลงหมายถึง "เพลงที่สอง"
2 เพลงลานังเป็นเพลงเร็วและช้าสลับกันชื่อเพลงหมายถึงน้ำใสที่ไหลหยดน้ำตาที่ไหลปีติ
3 เพลงปูโจ๊ะปิซังชื่อเพลงหมายถึง "ยอดตอง"
เพลงจินตาซายังชื่อเพลงหมายถึงความสำนึกในความรักอันดูดดื่ม
5 เพลงอาเนาะดีดิชื่อเพลงหมายถึงลูกบุญธรรมหรือลูกสุดที่รัก
6 เพลงมะอีนังชวาเป็นเพลงช้าชื่อเพลงหมายถึงแม่นมหรือพี่เลี้ยงชาวชวาได้ท่ารำคำร้องเดิมมาจากชวา
7 มะอีเพลงนังลามาชื่อเพลงหมายถึงแม่นมหรือพี่เลี้ยงเป็นเพลงเก่าแก่ลักษณะหัวเรื่อง: การเต้นรำดนตรีขึ้นเมื่อเพลง
ตามจังหวะเพลงมีทั้งช้าและเร็วหรือสลับกันกระบวนท่ามีทั้งท่ายืนท่านั่งปรบมือเล่นเท้าหมุนตัววาดลวดลายไล่เลียงกันด้วยความชำนาญ สนุกสนานเร้าใจการเต้นรำจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเน้นความสุภาพความอ่อนช้อยเน้นศิลปะความสวยงาม
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: