Today, the clinical trial protocol

Today, the clinical trial protocol – which serves as an anchor for specifying clinical trial requirements and parameters – does not exist in a common, machine-readable format which can be easily exchanged among disparate systems. Currently, there exists an average lag time of four months between protocol completion and study start. Furthermore, third-party conversion of data to Study Data Tabulation Model (SDTM) lengthens cycle time and presents limits for traceability and re-use. Finally, working in a document-based environment results in significant manual duplication of effort.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัจจุบัน ระเบียบวิธีการทดลองทางคลินิก ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดยึดในการระบุข้อกำหนดและพารามิเตอร์ของการทดลองทางคลินิก ไม่มีอยู่ในรูปแบบทั่วไปที่เครื่องสามารถอ่านได้ ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนระหว่างระบบที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย ขณะนี้มีเวลาล่าช้าโดยเฉลี่ยสี่เดือนระหว่างการเสร็จสิ้นโครงการวิจัยและการเริ่มต้นการศึกษา นอกจากนี้ การแปลงข้อมูลโดยบุคคลที่สามไปเป็น Study Data Tabulation Model (SDTM) จะทำให้รอบเวลายาวนานขึ้น และนำเสนอข้อจำกัดในการตรวจสอบย้อนกลับและการนำกลับมาใช้ใหม่ สุดท้ายนี้ การทำงานในสภาพแวดล้อมแบบใช้เอกสารส่งผลให้เกิดการทำซ้ำด้วยตนเองอย่างมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัจจุบันโปรโตคอลการทดลองทางคลินิกซึ่งเป็นจุดยึดของข้อกำหนดและพารามิเตอร์ของการทดลองทางคลินิกไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่อ่านได้ด้วยเครื่องทั่วไปซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้ง่ายระหว่างระบบต่างๆ ปัจจุบัน มีเวลาล่าช้าโดยเฉลี่ยสี่เดือนระหว่างการเสร็จสิ้นโครงการและการเริ่มต้นของการวิจัย นอกจากนี้ การที่บุคคลภายนอกแปลงข้อมูลเป็นแบบจำลองตารางข้อมูลการวิจัย (Search Data Sheet Model - SDTM) เป็นการขยายระยะเวลาของรอบและจำกัดการตรวจสอบย้อนกลับและการใช้ซ้ำ ในที่สุดการทำงานในสภาพแวดล้อมตามเอกสารนำไปสู่การทำงานซ้ำด้วยตนเองจำนวนมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัจจุบันโปรโตคอลการทดลองทางคลินิกซึ่งเป็นพื้นฐานสําหรับการระบุข้อกําหนดและพารามิเตอร์ของการทดลองทางคลินิกไม่มีรูปแบบที่สามารถอ่านได้โดยทั่วไปซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้ง่ายระหว่างระบบต่างๆ ปัจจุบันมีความล่าช้าเฉลี่ย4เดือนระหว่างการเสร็จสิ้นของโครงการและการเริ่มต้นของการศึกษา นอกจากนี้การแปลงข้อมูลของบุคคลที่สามเพื่อศึกษารูปแบบตารางข้อมูล( SDTM )ช่วยยืดระยะเวลาและนําเสนอข้อจํากัดในการตรวจสอบย้อนกลับและการนํามาใช้ใหม่ สุดท้ายการทํางานในสภาพแวดล้อมที่ใช้เอกสารจะนําไปสู่การทําซ้ําของงานด้วยตนเองเป็นจํานวนมาก