The amorphousnature of the glasses

The amorphous
nature of the glasses were confirmed through X-ray
diffraction (XRD) studies with a Philips X’Pert system, using Cu
Ka radiation (k = 1.54056 A), at 40 kV and 100 mA; the diffractometer
setting in 2h ranges from 3 to 70 and changes with a step size
of 0.02. The infrared spectra of the studied glass samples were
performed in the region of 400–1000 cm1 with a NICOLET 560
spectrometer, using KBr pellets.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การไปลักษณะของแก้วได้ยืนยันผ่านทางเอ็กซ์เรย์ศึกษาการเลี้ยวเบน (XRD) ด้วยระบบ X'Pert ฟิลิปส์ ใช้ Cuประการังสี (k = 1.54056 A), ที่ 40 kV และ 100 mA การ diffractometerการตั้งค่าในช่วง 2h 3 70 และขนาดขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง0.02 แรมสเป็คตราอินฟราเรดอย่างแก้วที่ศึกษาได้ดำเนินการในขอบเขตของ 400 – 1000 ซม. 1 กับ NICOLET 560สเปกโตรมิเตอร์ KBr เกล็ดใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปร่างลักษณะของแก้วได้รับการยืนยันผ่านเอ็กซ์เรย์เลนส์(XRD) การศึกษาด้วยระบบ X'Pert ฟิลิปส์โดยใช้ลูกบาศ์กรังสีกา(k = 1.54056 หรือไม่?) ที่ 40 กิโลโวลต์และ 100 มิลลิแอมป์; diffractometer การตั้งค่าใน 2h ตั้งแต่ 3 หรือไม่? 70? และการเปลี่ยนแปลงที่มีขนาดขั้นตอน0.02 ?. อินฟราเรดสเปกตรัมของการศึกษาตัวอย่างแก้วได้รับการดำเนินการในพื้นที่ของ 400-1000 ซม. หรือไม่ 1 มี NICOLET 560 สเปกโตรมิเตอร์โดยใช้เม็ด KBr

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปร่างลักษณะของแว่นตา

ยืนยันผ่านรังสีเอกซ์การเลี้ยวเบน ( XRD ) ศึกษากับฟิลิปส์ x'pert ระบบโดยใช้ Cu
ka รังสี ( K = 1.54056 เป็น  ) , 40 และ 100 กิโลมา ; ดิฟแฟรกโทมิเตอร์
ตั้งค่าใน 2H ช่วงจาก 3  70  และการเปลี่ยนแปลงที่มีขนาด
ของขั้นตอน 0.02  . สเปกตรัมอินฟราเรดของเรียนแก้วจำนวน
ดำเนินการในพื้นที่ของ 400 – 1000 cm  1 กับ nicolet 560
สเปกโตรมิเตอร์โดยใช้าเม็ด