Theories Of Popular Music Adorno, H

Theories Of Popular Music Adorno, Hebdige[1] 1
1. Theories of Popular Music In order to complete your Critical Evaluation to a decent standard, it is important that you are able to write about your product using a variety of critical (theoretical) perspectives. Over the next few lessons, we will be looking at a variety of approaches that can be taken.
2. Theories of Popular Music You may choose to use some, or all, of these ideas throughout your Evaluation. It is important that you choose the most effective and appropriate parts of the Evaluation in order to put them into action. It is also worth remembering that these ideas can be adapted and applied to work in other areas of the course, particularly the Critical Evaluation and the Media Debates topics of next term
3. The Frankfurt School A collection of Marxist philosophers, based in Germany in the mid 20 th century. Among their many writings, they were concerned with the role of popular culture in exploiting the masses and maintaining the power of the bourgeoisie Their work, particularly that of Theodor Adorno, represents the first attempt to write about popular music
4. Theodor Adorno Adorno (1903-69) argued that capitalism fed people with the products of a 'culture industry' - the opposite of 'true' art - to keep them passively satisfied and politically apathetic. Adorno suggested that culture industries churn out a debased mass of unsophisticated, sentimental products which have replaced the more 'difficult' and critical art forms which might lead people to actually question social life.
5. Theodor Adorno False needs are cultivated in people by the culture industries. These are needs which can be both created and satisfied by the capitalist system, and which replace people's 'true' needs - freedom, full expression of human potential and creativity, genuine creative happiness. These features are particularly true in the popular music industry. All popular music products are commodities to be sold to an audience who believe that they are consuming ‘true’ emotion
6. Theodor Adorno Popular music products are characterised by standardisation (they are basically formulaic and similar) and pseudo-individualisation (incidental differences make them seem distinctive, but they're not). Products of the culture industry may be emotional or apparently moving, but Adorno sees this as cathartic - we might seek some comfort in a sad film or song, have a bit of a cry, and then feel restored again.
7. Dick Hebdige More modern theorists have tended to view Adorno’s ideas as overly pessimistic and dismissive of mass audiences as passive and easily manipulated Hebdige argues that consumption is an active process in which differences in audiences’ social and ideological construction lead to different readings of the same cultural products
8. Dick Hebdige As such, the audience are free to resist the power of large companies by ignoring, undermining or finding alternative products to consume. Often this takes the form of the audience constructing themselves as distinct from mainstream culture – as subcultures Major companies will inevitably attempt to assimilate this resistance by attempting to provide products which these audiences or subcultures will consume The audiences must then decide whether to accept these products or whether to resist further.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีของเพลงเธโอดอร์เว Hebdige [1] 11. ทฤษฎีดนตรียอดนิยม เพื่อดำเนินการประเมินผลที่สำคัญให้มีมาตรฐานที่ดี มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะสามารถเขียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณใช้ความหลากหลายของมุมมอง (ทางทฤษฎี) ที่สำคัญ ไปเรียนไม่กี่ถัดไป เราจะดูหลากหลายวิธีที่สามารถดำเนินการ 2. ทฤษฎีดนตรียอดนิยม คุณอาจเลือกใช้ ทั้งหมดหรือบางส่วน แนวคิดเหล่านี้ตลอดทั้งการประเมิน มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณเลือกส่วนที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากที่สุดของการประเมินเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ลองจดจำว่า ความคิดเหล่านี้สามารถดัดแปลง และนำไปใช้ในการทำงานในพื้นที่อื่น ๆ ของหลักสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินที่สำคัญและหัวข้ออภิปรายสื่อของเทอมถัดไป 3. โรงเรียนแฟรงค์เฟิร์ต คอลเลกชันของ Marxist ปรัชญา อยู่ที่เยอรมนีในกลางศตวรรษที่ 20 th ในงานเขียนมากมายของพวกเขา พวกเขาก็เกี่ยวข้องกับบทบาทของวัฒนธรรมสมัยนิยมใน exploiting ฝูง และรักษาอำนาจของ bourgeoisie งานของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ของเธโอดอร์เว Theodor แทนพยายามเขียนเกี่ยวกับเพลงครั้งแรก 4. Theodor เธโอดอร์เว เธโอดอร์เว (1903-69) โต้เถียงว่า ทุนนิยมเลี้ยงคนผลิตภัณฑ์ของ 'วัฒนธรรมอุตสาหกรรม' - ตรงข้ามศิลปะ 'จริง' - เพื่อให้พวกเขาพอใจเฉย ๆ และเกิดทางการเมือง เธโอดอร์เวแนะนำว่า อุตสาหกรรมวัฒนธรรมปั่นออกมวล debased ของผลิตภัณฑ์ที่มีธรรมชาติ อารมณ์ที่ได้แทน 'ยาก' และสำคัญศิลปะซึ่งอาจนำคนจริง คำถามสังคม5. Theodor เธโอดอร์เว ความเท็จจะปลูกคน โดยอุตสาหกรรมวัฒนธรรม เหล่านี้เป็นความต้องการซึ่งสามารถทั้งสร้างความพึงพอใจ โดยระบบนายทุน และแทนคนที่ 'จริง' ต้อง - อิสระ แสดงเต็มศักยภาพมนุษย์และความคิดสร้างสรรค์ ความสุขความคิดสร้างสรรค์ที่แท้ คุณลักษณะเหล่านี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเพลง ผลิตภัณฑ์เพลงทั้งหมดเป็นสินค้าที่จะขายให้ผู้ชมที่เชื่อว่า พวกเขาจะใช้อารมณ์ 'จริง' 6. Theodor เธโอดอร์เว เพลงยอดนิยมผลิตภัณฑ์มีลักษณะกอปร (อยู่โดยคำนวณจากสูตร และคล้ายคลึงกัน) และ individualisation หลอก (ให้ดูโดดเด่นแตกต่างเสีย แต่พวกเขาไม่ได้) ผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมอาจอารมณ์ หรือเคลื่อน ไหวเห็นได้ชัด แต่เธโอดอร์เวที่เห็นนี้เป็นระบาย - เราอาจแสวงหาบางสิ่งในภาพยนตร์เศร้าหรือเพลง มีร้องไห้ แล้ว รู้สึกคืนอีกครั้ง 7. ดิ๊ก Hebdige ทฤษฎีสมัยใหม่มีแนวโน้มที่จะ ดูความคิดของเธโอดอร์เวในเชิงลบมากเกินไป และ dismissive ของผู้ชมจำนวนมากเป็นแฝง และจัดการได้อย่างง่ายดาย Hebdige ระบุว่า ปริมาณการใช้กระบวนการใช้งานที่แตกต่างในโครงสร้างสังคม และอุดมการณ์ของกลุ่มเป้าหมายที่นำไปสู่การอ่านแตกต่างกันของผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเดียวกัน 8. ดิ๊ก Hebdige เช่นนี้ ผู้เข้าชมมีอิสระในการต่อต้านอำนาจของบริษัทขนาดใหญ่ โดยละเว้น ทำร้าย หรือหาผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อใช้ บ่อยครั้งนี้จะเป็นผู้สร้างเอง as distinct from วัฒนธรรมกระแสหลัก – เป็น subcultures บริษัทย่อมจะพยายามดูดซึมความต้านทานนี้ โดยพยายามที่จะให้ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มเป้าหมายหรือ subcultures เหล่านี้จะใช้ ผู้เข้าชมแล้วต้องตัดสินใจว่า จะยอมรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้หรือว่าจะต่อต้านต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎี Adorno เพลงฮิต Hebdige [1] 1
1. ทฤษฎีเพลงฮิตเพื่อให้เสร็จสิ้นการประเมินผลที่สำคัญของคุณให้มีมาตรฐานที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่คุณสามารถที่จะเขียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณโดยใช้ความหลากหลายของวิกฤต (ทฤษฎี) มุมมอง ในช่วงไม่กี่บทเรียนต่อไปเราจะมองที่หลากหลายของวิธีการที่สามารถนำมา
2. ทฤษฎีดนตรีที่เป็นที่นิยม คุณอาจเลือกที่จะใช้บางส่วนหรือทั้งหมดของความคิดเหล่านี้ตลอดการประเมินผลของ มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณเลือกในส่วนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและมีความเหมาะสมของการประเมินผลเพื่อที่จะนำพวกเขาไปสู่​​การปฏิบัตินอกจากนี้ยังเป็นมูลค่าการจดจำว่าความคิดเหล่านี้สามารถนำมาปรับและนำไปใช้ในการทำงานในพื้นที่อื่น ๆ ของการเรียนการสอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญการประเมินผลและการอภิปรายหัวข้อสื่อของระยะต่อไป
3. โรงเรียนที่แฟรงค์เฟิร์ต คอลเลกชันของนักปรัชญามาร์กซ์ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนีในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ในบรรดางานเขียนจำนวนมากของพวกเขาพวกเขาเกี่ยวข้องกับบทบาทของวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมในการใช้ประโยชน์จากฝูงและการรักษาอำนาจของชนชั้นกลางงานของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เทโอดอร์ดอร์โน่แสดงให้เห็นถึงความพยายามครั้งแรกที่จะเขียนเกี่ยวกับเพลงที่เป็นที่นิยม
4. เทโอดอร์ดอร์โน่ ดอร์โน่ (1903-1969) แย้งว่าทุนนิยมเลี้ยงคนที่มีผลิตภัณฑ์ของ 'อุตสาหกรรมวัฒนธรรม - การตรงข้ามของศิลปะ' ความจริง '- เพื่อให้พวกเขาอดทนความพึงพอใจและไม่แยแสการเมือง ดอร์โน่ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมวัฒนธรรมปั่นออกมวลปลอมปนของตรงไปตรงมา, ผลิตภัณฑ์ซาบซึ้งที่ได้เข้ามาแทนที่มากขึ้นยากและที่สำคัญรูปแบบศิลปะซึ่งอาจนำไปให้คนที่จะถามจริงชีวิตทางสังคม.
5 เทโอดอร์ดอร์โน่ความต้องการเท็จได้รับการปลูกฝังในคนโดยอุตสาหกรรมวัฒนธรรม เหล่านี้เป็นความต้องการซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งการสร้างและความพึงพอใจโดยระบบทุนนิยมและที่แทนที่ 'ความจริง' ต้องการของผู้คน - เสรีภาพในการแสดงออกเต็มศักยภาพของมนุษย์และความคิดสร้างสรรค์ความสุขความคิดสร้างสรรค์ของแท้คุณสมบัติเหล่านี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการเพลงที่เป็นที่นิยม ผลิตภัณฑ์ที่นิยมเพลงทั้งหมดเป็นสินค้าที่จะขายให้กับผู้ชมที่เชื่อว่าพวกเขาจะเสียอารมณ์ 'ความจริง'
6. เทโอดอร์ดอร์โน่ ผลิตภัณฑ์ที่นิยมเพลงที่โดดเด่นด้วยการมาตรฐาน (มีพื้น formulaic และคล้ายกัน) และหลอก individualisation (ความแตกต่างที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาดูเหมือนจะโดดเด่น แต่พวกเขาไม่ได้) ผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมอาจจะเป็นอารมณ์หรือเห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนย้าย แต่ Adorno เห็นว่านี่เป็นยาระบาย - เราอาจจะหาสะดวกสบายบางอย่างในภาพยนตร์หรือเพลงเศร้า, มีบิตของเสียงร้องแล้วรู้สึกว่าการบูรณะอีกครั้ง
7. ดิ๊ก Hebdige ทฤษฎีที่ทันสมัย​​มากขึ้นมีแนวโน้มที่จะดูความคิดโน่เป็นในแง่ร้ายมากเกินไปและไม่ไยดีผู้ชมมวลเป็น passive และจัดการได้อย่างง่ายดาย Hebdige ระบุว่าการบริโภคเป็นกระบวนการที่ใช้งานที่แตกต่างในผู้ชมทางสังคมและอุดมการณ์นำการก่อสร้างเพื่อการอ่านที่แตกต่างกันของผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเดียวกัน
8. ดิ๊ก Hebdige เป็นเช่นนี้ผู้ชมที่มีอิสระในการต่อต้านอำนาจของ บริษัท ขนาดใหญ่โดยไม่สนใจลอบทำลายหรือหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่จะบริโภค นี้มักจะใช้รูปแบบของผู้ชมการสร้างตัวเองแตกต่างไปจากวัฒนธรรมกระแสหลัก - เป็นวัฒนธรรมบริษัท ยักษ์ใหญ่ย่อมจะพยายามที่จะดูดซึมสารอาหารที่มีความต้านทานนี้โดยพยายามที่จะให้ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ชมเหล่านี้หรือวัฒนธรรมที่จะใช้ ผู้ชมจะต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้หรือไม่ว่าจะต่อต้านต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีของเพลงยอดนิยม adorno hebdige [ 1 ] 1 ,1 . ทฤษฎีของเพลงยอดนิยม < ul > < li > เพื่อที่จะเสร็จสมบูรณ์ในการประเมินผลของคุณให้มีมาตรฐานที่เหมาะสม มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะสามารถที่จะเขียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณโดยใช้ความหลากหลายของการวิจารณ์ ( ทางทฤษฎี ) มุมมอง < / li > < / ul > < ul > < li > มากกว่าถัดไปไม่กี่บทเรียน เราจะมองไปที่ความหลากหลายของวิธีที่คุณสามารถรับ < / li > < / ul >2 . ทฤษฎีของเพลงยอดนิยม < ul > < li > คุณอาจเลือกที่จะใช้บางส่วนหรือทั้งหมดของความคิดเหล่านี้ตลอดทั้งการประเมินผลของคุณ มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณเลือกชิ้นส่วนที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุดในการประเมินเพื่อที่จะใส่ลงในการกระทำ < / li > < / ul > < ul > < li > นอกจากนี้ยังเป็นมูลค่าจดจำว่า ความคิดเหล่านี้สามารถดัดแปลงและประยุกต์ใช้งานในพื้นที่อื่นๆ ของหลักสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินผลและสื่อการอภิปรายหัวข้อต่อไประยะ < / li > < / ul >3 . โรงเรียน < ul > < li > : คอลเลกชันของนักปรัชญามาร์กซิสต์ โดยเยอรมนีในช่วงกลางศตวรรษที่ . ในหมู่พวกเขาหลายงานเขียน พวกเขากังวลกับบทบาทที่ได้รับความนิยมวัฒนธรรมในการใช้ประโยชน์จากฝูงและรักษาอำนาจของชนชั้นกระฎุมพี < / li > < / ul > < ul > < li > ของพวกเขาทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ธีโอดอร์ ดอร์โน แสดงถึงความพยายามครั้งแรกที่จะเขียนเกี่ยวกับเพลงยอดนิยม < / li > < / ul >4 . ธีโอดอร์ ดอร์โน < ul > < li > adorno ( 1903-69 ) แย้งว่าระบบทุนนิยมให้อาหารคนด้วยผลิตภัณฑ์ของ " อุตสาหกรรมวัฒนธรรม ' ตรงข้าม ' จริง ' ศิลป์ - เก็บไว้เฉยๆ พอใจและทางการเมืองไม่รู้ไม่ชี้ . < / li > < / ul > adorno ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ปั่นออกจากมวลของแป๋วปลอมปนสินค้าอ่อนไหว ซึ่งแทนที่ ' ยาก ' ศิลปะรูปแบบซึ่งอาจนำคนคำถามชีวิตทางสังคม และที่สําคัญ5 . ธีโอดอร์ ดอร์โน < ul > < li > เท็จต้องมีการเพาะปลูกในผู้คนจากวัฒนธรรมอุตสาหกรรม เหล่านี้มีความต้องการซึ่งสามารถทั้งสร้าง และพอใจในระบบทุนนิยม ซึ่งแทนที่ประชาชนที่แท้จริง ' ' ต้อง - เสรีภาพในการแสดงออกเต็มศักยภาพของมนุษย์และสร้างสรรค์ ความสุข สร้างสรรค์แท้ < / li > < / ul > < ul > < li > คุณสมบัติเหล่านี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพลงยอดนิยมอุตสาหกรรม ฟังเพลงทั้งหมดที่นิยมผลิตภัณฑ์สินค้าที่จะขายให้กับผู้ชมที่เชื่อว่าพวกเขามีการบริโภคที่แท้จริง ' ' อารมณ์ < / li > < / ul >6 . ธีโอดอร์ ดอร์โน < ul > < li > เพลงฮิตผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน ( พวกเขามีลักษณะโดยทั่วไปเชิงใช้สูตรและที่คล้ายกัน ) และเทียม ( individualisation ความแตกต่างโดยให้ดูโดดเด่น แต่พวกเขาไม่ได้ ) < / li > < / ul > < ul > < li > ผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมวัฒนธรรม อาจเป็นอารมณ์หรือเห็นได้ชัดย้าย แต่ adorno เห็นนี้เป็นยาระบาย - เราอาจแสวงหาความสะดวกสบายบางอย่างในหนังหรือเพลงเศร้า มีบิตของร้องไห้แล้วรู้สึกกลับคืนมาอีกครั้ง < / li > < / ul >7 . ดิก hebdige < ul > < li > ทฤษฎีที่ทันสมัยมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะดู adorno ของความคิดในแง่ร้ายมากเกินไป และ dismissive ของมวลผู้ชมเป็น passive และจัดการได้อย่างง่ายดาย < / li > < / ul > < ul > < li > hebdige แย้งว่า การใช้กระบวนการที่แตกต่างกันในรายการ " สังคมและอุดมการณ์สร้างตะกั่ว ไม่อ่านเหมือนกัน วัฒนธรรมผลิตภัณฑ์ < / li > < / ul >8 . ดิก hebdige < ul > < li > เช่น ผู้ชมมีฟรีเพื่อต่อต้านอำนาจของ บริษัท ขนาดใหญ่โดยเพิกเฉย บ่อนทำลาย หรือหาสินค้าทางเลือกในการบริโภค นี้มักจะใช้เวลารูปแบบของผู้ชมสร้างเองที่แตกต่างจากวัฒนธรรมกระแสหลัก และพัฒนาจนเป็น < / li > < / ul > < ul > < li > บริษัทใหญ่ย่อมพยายามเพื่อสร้างความต้านทานนี้ โดยพยายามที่จะให้ผลิตภัณฑ์ที่เหล่าผู้ชม หรือพัฒนาจนจะกิน < / li > < / ul > < UL > < li > ผู้ชมจากนั้นต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หรือจะต่อต้านต่อไป < / li > < / ul >