DSpace was developed in response to

DSpace was developed in response to expressed faculty needs for an easy to use, dependable
service that could manage, host, preserve, and distribute faculty materials in digital formats. It
offers faculty the advantages and convenience of web based submission and dissemination. DSpace
can accommodate a variety of genres like: documents, datasets, and images and formats like: txt,
pdf, doc, and jpg. It manages and distributes digital items, made up of digital files (or “bitstreams”)
and allows for the creation, indexing, and searching of associated metadata to locate and retrieve
the items. It is also designed to support the long-term preservation of the digital material stored in
the repository.
DSpace is also well suited to housing digitized historic collections to enhance the contextual reference
for newly submitted works. For the submission of research materials in DSpace, the self-defined,
depositing Communities determines who may have access to archived works, with options ranging
from a worldwide audience to a select few. There is no charge for submitting to or viewing digital
material in DSpace.
DSpace provides a way to manage research materials and publications in a professionally maintained
repository to give users greater visibility and accessibility over time.
5.1 Top Reasons to Use DSpace
5.1.1 Largest Community Of Users And Developers Worldwide
DSpace has over 250 institutions that are currently using the DSpace software within their organization
in a production or project environment. The most common use is by research libraries as an
institutional repository, however there are many organizations using the software to manage digital
data for a project, subject repository, web archive, and dataset repository.
A census of Institutional Repositories in the United States was done by CLIR in 2007 and found that
DSpace was the preferred Institutional Repository system software of the 446 participants in the
survey.
5.1.2 Completely Customizable To Fit One’s Needs
Some of the key ways that can customize the DSpace application to suit one’s needs are as follows:
User interface -
One can fully customize the look and feel of DSpace website so it will integrate seamlessly with their
own institution’s website and can be more intuitive for their users. This is possible by using the
Manakin extension, which is now to release 1.5.
Ability To Customize the Metadata -
Dublin core is the default metadata format within the DSpace application, however one can add or

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

DSpace ถูกพัฒนาคณาจารย์แสดงความสำหรับการใช้งานง่าย เชื่อถือได้บริการที่สามารถจัดการ โฮสต์ รักษา และแจกจ่ายวัสดุคณะในรูปแบบดิจิตอล มันมีอาจารย์ดีและเว็บที่ใช้ส่งและเผยแพร่ DSpaceสามารถรองรับได้หลายประเภทเช่น: เอกสาร ชุดข้อมูล รูปภาพ และรูปแบบเช่น: txtpdf เอกสาร และ jpg จัดการ และกระจายสินค้าดิจิตอล สร้างขึ้นจากไฟล์ดิจิตอล (หรือ "bitstreams")และช่วยให้การสร้าง ทำดัชนี และการค้นหาของข้อมูลเมตาที่เกี่ยวข้องเพื่อค้นหา และดึงข้อมูลรายการ ยังมีการออกแบบเพื่อสนับสนุนการเก็บรักษาวัสดุดิจิตอลที่เก็บไว้ในระยะยาวเก็บข้อมูลDSpace ก็เหมาะกับคอลเลกชันประวัติศาสตร์ดิจิทัลเพื่อเพิ่มการอ้างอิงบริบทที่อยู่อาศัยสำหรับงานส่งใหม่ ส่งงานวิจัยวัสดุ DSpace ตัวกำหนดฝากชุมชนกำหนดที่อาจเข้าถึงงานถาวร มีไปจนถึงจากผู้ชมทั่วโลกให้เลือกไม่กี่ ไม่มีค่าส่งไป หรือดูดิจิตอลวัสดุใน DSpaceDSpace ให้วิธีการจัดการวิจัยวัสดุและสื่อสิ่งพิมพ์ดูแลอย่างมืออาชีพเก็บข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นมากขึ้นและการเข้าถึงตลอดเวลา5.1 ด้านเหตุผลในการใช้ DSpace5.1.1 ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของผู้ใช้และนักพัฒนาทั่วโลกDSpace มีกว่า 250 สถาบันที่กำลังใช้ซอฟต์แวร์ DSpace ภายในองค์กรในสภาพแวดล้อมการผลิตหรือโครงการ มากที่สุดคือการวิจัยห้องสมุดเป็นการเก็บข้อมูลสถาบัน อย่างไรก็ตาม มีหลายองค์กรใช้ซอฟต์แวร์การจัดการดิจิตอลข้อมูลโครงการ เรื่องเก็บ เก็บถาวรเว็บ และชุดข้อมูลเก็บข้อมูลโดย CLIR ใน 2007 การสำรวจสำมะโนประชากรของเก็บข้อมูลสถาบันในสหรัฐอเมริกา และพบว่าDSpace เป็นซอฟต์แวร์ระบบเก็บข้อมูลสถาบันต้องคน 446 ในการแบบสำรวจ5.1.2 สมบูรณ์สามารถปรับแต่งให้พอดีกับความต้องการของวิธีที่สำคัญที่สามารถกำหนดเองใช้ DSpace ตามความต้องการของ มีดังนี้:ส่วนติดต่อผู้ใช้-หนึ่งสามารถครบกำหนดลักษณ์ของเว็บไซต์ DSpace เพื่อมันจะบูรณาการต่อเนื่องกับตนเจ้าของเว็บไซต์ของสถาบัน และจะง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ นี้เป็นไปได้ โดยใช้การขยายที่ทำ manakin ซึ่งขณะนี้จะปล่อย 1.5ความสามารถการกำหนดข้อมูลเมตา-นคอร์เป็นรูปแบบข้อมูลเมตาที่เริ่มต้นในการประยุกต์ใช้ DSpace แต่หนึ่งสามารถเพิ่ม หรือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

DSpace
ได้รับการพัฒนาในการตอบสนองความต้องการของคณะแสดงการใช้งานง่ายและเชื่อถือได้บริการที่สามารถจัดการโฮสต์รักษาและแจกจ่ายเอกสารคณะในรูปแบบดิจิตอล
มันมีคณะข้อดีและความสะดวกสบายของการส่งตามเว็บและการเผยแพร่ DSpace
สามารถรองรับความหลากหลายของประเภทที่ชอบ: เอกสารชุดข้อมูลและภาพและรูปแบบที่ชอบ: TXT,
PDF, doc และไฟล์ jpg จะจัดการและจัดจำหน่ายรายการดิจิตอลที่สร้างขึ้นจากไฟล์ดิจิตอล (หรือ "bitstreams") และช่วยให้การสร้างการจัดทำดัชนีและการค้นหาของเมตาดาต้าที่เกี่ยวข้องในการค้นหาและเรียกดูรายการ มันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการรักษาระยะยาวของเนื้อหาดิจิตอลที่เก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูล. DSpace นอกจากนี้ยังเหมาะกับคอลเลกชันประวัติศาสตร์ที่อยู่อาศัยในรูปแบบดิจิตอลเพื่อเพิ่มการอ้างอิงบริบทสำหรับผลงานที่ส่งมาใหม่ สำหรับการส่งของวัสดุการวิจัยทั้งหมดในระบบคิที่กำหนดเอง, ฝากกำหนดชุมชนที่อาจมีการเข้าถึงที่จัดเก็บผลงานที่มีตัวเลือกมากมายจากผู้ชมทั่วโลกที่จะเลือกน้อย มีค่าใช้จ่ายสำหรับการส่งหรือรับชมดิจิตอลไม่เป็นวัสดุที่ใช้ใน DSpace. DSpace มีวิธีการในการจัดการวัสดุการวิจัยและสิ่งพิมพ์ในการบำรุงรักษาอย่างมืออาชีพพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นมากขึ้นและเข้าถึงได้เมื่อเวลาผ่านไป. 5.1 เหตุผลด้านการใช้ระบบคิ5.1.1 ชุมชนที่ใหญ่ที่สุด ของผู้ใช้และนักพัฒนาทั่วโลกDSpace มีกว่า 250 สถาบันที่กำลังใช้ซอฟต์แวร์ DSpace ภายในองค์กรของพวกเขาในสภาพแวดล้อมการผลิตหรือโครงการ การใช้งานที่พบมากที่สุดคือห้องสมุดวิจัยเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลสถาบันแต่มีหลายองค์กรที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการดิจิตอลข้อมูลสำหรับโครงการที่เก็บเรื่องเก็บเว็บและพื้นที่เก็บข้อมูลชุด. สำรวจสำมะโนประชากรของที่เก็บสถาบันในประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการทำ โดย CLIR ในปี 2007 และพบว่าDSpace เป็นซอฟแวร์ที่ต้องการระบบการเก็บสถาบันของ 446 ผู้เข้าร่วมในการสำรวจ. 5.1.2 สมบูรณ์ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของคนบางส่วนของวิธีการที่สำคัญที่สามารถปรับแต่งการประยุกต์ใช้ระบบคิเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคนมีดังนี้: อินเตอร์เฟซผู้ใช้ - หนึ่งอย่างเต็มที่สามารถปรับแต่งรูปลักษณ์และความรู้สึกของเว็บไซต์ DSpace จึงจะบูรณาการต่อเนื่องกับของพวกเขาเว็บไซต์ของสถาบันการศึกษาของตัวเองและสามารถใช้งานง่ายมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ของตน นี้เป็นไปได้โดยใช้นามสกุล Manakin ซึ่งขณะนี้ที่จะปล่อย 1.5. ความสามารถในการปรับแต่งเมตาดาต้า - หลักดับลินเป็นรูปแบบที่เมตาดาต้าเริ่มต้นในการประยุกต์ใช้ระบบคิ แต่หนึ่งสามารถเพิ่มหรือ