California condors (Gymnogyps calif

California condors (Gymnogyps californianus) are the largest flying land bird in North America. Condors are members of New World vultures, Family Cathartidae, and are opportunistic scavengers that feed primarily on large dead mammals such as deer, elk, bighorn sheep, range cattle, and horses. California Condor- Photo by Scott FrierCondors have a wingspan of 9 ½ feet, and can weigh up to 25 pounds as adults. Using thermal updrafts, condors can soar and glide up to 50 miles per hour and travel 100 miles or more per day in search of food. California condors are not sexually dimorphic like a majority of raptors, i.e., males and females are identical in size and plumage. Adult condors are primarily black except for bleach white feathers in a triangle-shape pattern beneath their wings (underwing covert feathers). These patches are highly visible when condors are flying overhead and are a key identification characteristic. Adult condors have pinkish-orange featherless heads, ivory colored bills, and the sclera of the eye is red. Juvenile condors are also mostly black with underwing coverts that are mottled gray in color also but triangular shaped like adults. Juvenile condors have dark colored heads until they are about 3 to 4 years old when the head starts to turn pink. The juvenile bill is black and changes to an ivory as the bird matures.

Condors are long-lived species with low reproductive rates. They can live up to 60 years in the wild, and become sexually mature at six or seven years of age. Condors mate for life and females lay a single egg, about five inches in length and weighing around 10 ounces, every other year. Male and female condors share incubation shifts. Condors are cavity-nesting birds. Most nest sites have been found in caves, on rock ledges, or in tree cavities. Condors do not build nests; instead, the egg is deposited on the floor of the cave, ledge, or tree. The egg hatches after about 56 days of incubation and both parents share responsibilities for feeding the nestling by regurgitation. Young condors fledge at five to six months of age, but may stay in the nesting area for up to one year.

In prehistoric times, condors ranged from Canada to Mexico, across the southern United States to Florida, and on the east coast in New York. During this period, condors were a common resident of the Grand Canyon based on bones, feathers and eggshells found in caves where they nested. A dramatic range reduction occurred about 10,000 years ago, coinciding with the late Pleistocene extinction of large mammals such as mastodon, giant sloth, camels, and saber-toothed cats that condors fed on. By the time Europeans arrived in western North America, condors had retreated to a stronghold along the Pacific coast from British Columbia to Baja California. The birds managed to maintain a strong population perhaps due to large sea mammals that washed upon shore, however, the settlement of the west, shooting, poisoning from lead and DDT, egg collecting, and general habitat degradation began to take a heavy toll. Between the mid- 1880s and 1924, there were scattered reports of condors in Arizona with the last sighting near Williams Arizona in 1924. By the late 1930s, all remaining condors were found only in California and by 1982, the total population had dwindled to just 22 birds. The only hope was to begin captive breeding of California condors and to initiate reintroduction of the species. Reintroduction of captive bred condors began in 1992 in California, and 1996 in Arizona.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แร้งแคลิฟอร์เนีย (Gymnogyps californianus) ที่ใหญ่ที่สุดที่บินนกที่ดินในทวีปอเมริกาเหนือ แร้งเป็นสมาชิกของแร้งโลกใหม่ cathartidae ครอบครัวและเป็นขยะที่ฉวยโอกาสที่กินหลักในการเลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่ตายแล้วเช่นกวางกวางบิ๊กแกะวัวช่วงและม้า แคลิฟอร์เนียแร้งภาพโดย friercondors scott มีนกจาก 9 ½ฟุตและสามารถชั่งน้ำหนักได้ถึง 25 ปอนด์ผู้ใหญ่ การใช้ความร้อนที่กระจัดกระจาย, แร้งและสามารถทะยานเหินถึง 50 ไมล์ต่อชั่วโมงและการเดินทาง 100 ไมล์หรือมากกว่าต่อวันในการค้นหาของอาหาร แร้งแคลิฟอร์เนียไม่ได้แต๊ะอั๋ง dimorphic เช่นส่วนใหญ่ของแร็พเตอร์คือเพศชายและเพศหญิงมีความเหมือนกันในขนาดและขนนกแร้งผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีสีดำยกเว้นสำหรับฟอกสีขนสีขาวในรูปแบบสามเหลี่ยมรูปร่างภายใต้ปีกของพวกเขา (underwing ขนแอบแฝง) แพทช์นี้จะมองเห็นได้อย่างมากเมื่อแร้งบินค่าใช้จ่ายและมีลักษณะประจำตัวที่สำคัญ แร้งผู้ใหญ่มีหัวสีส้มสีชมพูไม่มีซับในเป็นขนนกค่าส​​ีงาช้างและลูกตาของดวงตาเป็นสีแดงแร้งเด็กและเยาวชนส่วนใหญ่นอกจากนี้ยังมีสีดำที่มีขนอ่อน underwing ที่มีจุดด่างดำสีเทา แต่ยังเป็นรูปสามเหลี่ยมรูปร่างเหมือนผู้ใหญ่ แร้งเด็กและเยาวชนมีหัวสีเข้มจนกว่าพวกเขาจะประมาณ 3 ถึง 4 ปีเมื่อหัวเริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นสีชมพู เรียกเก็บเงินเด็กและเยาวชนเป็นสีดำและการเปลี่ยนแปลงงาช้างเป็นนกผู้ใหญ่.

แร้งสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในระยะยาวที่มีอัตราการเจริญพันธุ์ต่ำพวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 60 ปีในป่าและกลายเป็นผู้ใหญ่ทางเพศสัมพันธ์ที่หกหรือเจ็ดปี แร้งคู่สำหรับชีวิตและหญิงวางไข่เดียวประมาณห้านิ้วความยาวและน้ำหนักประมาณ 10 ออนซ์ทุก ๆ ปี หุ้นแร้งชายและหญิงกะบ่ม แร้งเป็นนกที่ทำรังโพรง ส่วนใหญ่สถานที่ทำรังได้ถูกพบในถ้ำบนหินหินหรือในโพรงต้นไม้แร้งไม่สร้างรังแทนไข่จะฝากบนพื้นของถ้ำหินหรือต้นไม้ ฟักไข่หลังจากนั้นประมาณ 56 วันของการบ่มและพ่อแม่ของทั้งสองร่วมกันรับผิดชอบสำหรับการให้อาหารนกโดยเทพนิยาย แร้งหนุ่มงอกที่ห้าถึงหกเดือนของอายุ แต่อาจจะอยู่ในพื้นที่ทำรังได้ถึงหนึ่งปี.

ในสมัย​​ก่อนประวัติศาสตร์แร้งตั้งแต่แคนาดาไปยังเม็กซิโกทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้ของฟลอริด้าและบนชายฝั่งตะวันออกในนิวยอร์ก ช่วงเวลานี้เป็นแร้งที่อาศัยอยู่ร่วมกันของแกรนด์แคนยอนอยู่บนพื้นฐานของกระดูกและเปลือกขนที่พบในถ้ำที่พวกเขาซ้อนกัน ลดลงอย่างมากในช่วงที่เกิดขึ้นประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมาประจวบกับการสูญเสียในช่วงปลาย Pleistocene เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่เช่นสูญพันธุ์, เฉื่อยชายักษ์อูฐและแมวดาบฟันที่แร้งกิน ตามเวลาที่ชาวยุโรปเข้ามาในภาคตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ, แร้งได้ถอยกลับไปที่ฐานที่มั่นตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกจากบริติชโคลัมเบียไป Baja California นกที่มีการจัดการเพื่อรักษาประชากรที่แข็งแกร่งอาจจะเนื่องมาจากการเลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลขนาดใหญ่ที่ล้างเมื่อฝั่ง แต่การตั้งถิ่นฐานของตะวันตกในการถ่ายภาพเป็นพิษจากตะกั่วและ ddt,เก็บไข่และที่อยู่อาศัยทั่วไปการย่อยสลายเริ่มใช้อย่างหนัก ระหว่างช่วงกลางยุค 1880 และปี 1924 มีรายงานการกระจายของแร้งในแอริโซนาอยู่กับการเห็นที่ผ่านมาใกล้วิลเลียมส์ในปี 1924 arizona โดยปี 1930 ปลายแร้งที่เหลือทั้งหมดถูกพบเฉพาะในแคลิฟอร์เนียและโดยปี 1982 ประชากรทั้งหมดได้ลดลงเหลือเพียงแค่ 22 นกความหวังเดียวคือการเริ่มต้นของการปรับปรุงพันธุ์เชลยแร้งแคลิฟอร์เนียและเพื่อเริ่มต้นการประกอบของสายพันธุ์ ประกอบของแร้งพันธุ์เชลยเริ่มในปี 1992 ในแคลิฟอร์เนียและ 1996 ในแอริโซนา.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Condors แคลิฟอร์เนีย (Gymnogyps californianus) มีนกบกบินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ Condors เป็นสมาชิกของโลกใหม่ vultures ครอบครัว Cathartidae และเป็น scavengers ยกซึ่งเป็นหลักในการเลี้ยงลูกด้วยนมตายขนาดใหญ่เช่นกวาง เอิล์คฮิลล์ bighorn แกะ วัวช่วง และม้า Condor แคลิฟอร์เนีย - ภาพ โดยสก็อต FrierCondors มี wingspan 9 ½ฟุต และสามารถมีน้ำหนักถึง 25 ปอนด์ เป็นผู้ใหญ่ ใช้ความร้อน updrafts, condors สามารถทะยานเหินถึง 50 ไมล์ต่อชั่วโมง และเดินทาง 100 ไมล์หรือมากกว่าต่อวันในการค้นหาอาหาร ไม่ dimorphic ทางเพศเช่นส่วนใหญ่ของ raptors condors แคลิฟอร์เนีย เช่น ชายและหญิงมีเหมือนกันในขนาดและ plumage Condors ผู้ใหญ่จะเป็นสีดำยกเว้นขนขาวเทพมรณะในรูปแบบรูปร่างสามเหลี่ยมใต้ปีกของพวกเขา (underwing ขนแอบแฝง) ซอฟต์แวร์เหล่านี้มีความเห็นเมื่อ condors บินค่าใช้จ่าย และมีรหัสคีย์ลักษณะพิเศษ Condors ผู้ใหญ่มีหัว featherless pinkish-ส้ม สูตรสีงาช้าง และ sclera ตาเป็นสีแดง Condors เยาวชนเป็นส่วนใหญ่กับ coverts underwing ที่มีสีด่างสีดำ แต่รูปสามเหลี่ยมเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ Condors เยาวชนมีหัวสีเข้มจนประมาณ 3-4 ปีเริ่มเมื่อหัวเปิดสีชมพู รายการเด็กเป็นสีดำ และเปลี่ยนเป็นงาช้างเป็นนกถึง

Condors เป็น long-lived พันธุ์สืบพันธุ์ราคาต่ำ พวกเขาสามารถอยู่ 60 ปีพิศวง และเป็นผู้ใหญ่ทางเพศที่หก หรือเจ็ดปี เมท condors สำหรับชีวิตและหญิงวางไข่เดี่ยว ประมาณ 5 นิ้วในความยาวและน้ำหนัก ประมาณ 10 กรัม ทุกปี ชาย และหญิง condors ร่วมกะคณะทันตแพทยศาสตร์ Condors เนสติ้งโพรงนกได้ เว็บไซต์รังส่วนใหญ่พบในถ้ำ ledges หิน หรือต้นไม้ผุ Condors สร้างรัง แทน ไข่ฝากบนพื้นถ้ำ หิ้ง หรือแผนภูมิ จำหน่ายไข่หลังจากฟักตัวประมาณ 56 วัน และพ่อแม่ทั้งสองร่วมกันรับผิดชอบสำหรับอาหาร nestling ที่ตามกระ หนุ่ม condors fledge ที่ห้าถึงหกเดือนของอายุ แต่อาจอยู่ในพื้นที่ซ้อนสำหรับถึงหนึ่งปี

อยู่ในในยุคก่อนประวัติศาสตร์ condors ช่วงจากแคนาดาไปเม็กซิโก ทั่วภาคใต้สหรัฐอเมริกาฟลอริด้า และฝั่งตะวันออกในนิวยอร์ก ในช่วงเวลานี้ condors อยู่อาศัยทั่วไปของแกรนด์แคนยอนตามกระดูก ขน และ eggshells พบในถ้ำที่พวกเขาซ้อนกัน ลดช่วงละครเกิดขึ้นประมาณ 10000 ปีที่ผ่านมา เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่เช่น mastodon, sloth ยักษ์ อูฐ Pleistocene ดับช้าเนื่อง และแมว toothed กระบี่ที่ condors เลี้ยงบน โดยเวลาชาวยุโรปเข้ามาในอเมริกาตะวันตก condors ได้จัด retreated ไปเข้าตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกจากบริติชโคลัมเบียฮากาลิฟอร์เนีย นกจัดการรักษาประชากรที่แข็งแรงอาจเนื่องจากการเลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ทะเลที่ล้างตามชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม การชำระเงินของตะวันตก ยิงปืน พิษจากลูกค้าเป้าหมายและ DDT ไข่รวบรวม และสร้างที่อยู่อาศัยทั่วไปเริ่มจะหนักโทร ระหว่างกลางปัจจุบันและ 1924 มีอยู่เกลื่อนรายงาน condors ในอริโซนาเชื่อเล็งสุดท้ายใกล้กับอริโซนาวิลเลียมส์ใน 1924 โดย 1930 สาย condors ที่เหลือทั้งหมดพบเฉพาะ ในแคลิฟอร์เนีย และ 1982 ประชากรมี dwindled กับนกเพียง 22 หวังเพียงได้เริ่มเพาะพันธุ์ภายในกิจการและของ condors แคลิฟอร์เนีย และเริ่มต้นวัฏจักรของสายพันธุ์ วัฏจักรของ condors bred ภายในกิจการและเริ่มในปี 1992 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และปี 1996 ในอริโซนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

California แร้งขนาดใหญ่( gymnogyps californianus )เป็นนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่บินในอเมริกาเหนือ แร้งขนาดใหญ่เป็นสมาชิกของโลกใหม่ในแบบครอบครัวลงข่าว cathartidae scavengers ชอบฉวยโอกาสและมีอาหารที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตายแล้วขนาดใหญ่เช่นกวางแกะกับ Bighorn elk สัตว์และม้า California friercondors แร้งขนาดใหญ่ - ถ่าย ภาพ โดย Scott มีเมตร.ที่ 9 ครึ่งฟุตและสามารถชั่งน้ำหนักได้ถึง 25 ปอนด์เป็นผู้ใหญ่. การใช้ updrafts แร้งขนาดใหญ่สามารถระบายความร้อนเพิ่มขึ้นและไถลได้ถึง 50 ไมล์ต่อชั่วโมงและการเดินทาง 100 ไมล์หรือมากกว่าต่อวันในการค้นหาของอาหาร California แร้งขนาดใหญ่ไม่ dimorphic ทางเพศเหมือนคนส่วนใหญ่ของ raptors เช่นผู้ชายและผู้หญิงมีลักษณะเหมือนกันในกตะขาบและขนาดแร้งขนาดใหญ่สำหรับผู้ใหญ่เป็นขนนกสีดำยกเว้นสำหรับใช้สารฟอกขาวในรูปแบบสีขาวรูปสามเหลี่ยมรูปตัวที่อยู่ใต้ปีกของพวกเขา(ขนซ่อนเร้น underwing ) ติดตั้งแพทช์เหล่านี้จะปรากฏให้เห็นเป็นอย่างสูงเมื่อแร้งขนาดใหญ่จะได้บินเหนือศีรษะและมีการระบุคีย์ที่มีลักษณะอันโดดเด่น หัวแร้งขนาดใหญ่สำหรับผู้ใหญ่มีค่อนข้างแดง - สีส้ม featherless ตั๋วเงินสีงาช้างและ sclera ของตาที่เป็นสีแดงแร้งขนาดใหญ่นอกจากนั้นยังมีเยาวชนส่วนใหญ่เป็นสีดำพร้อมด้วยเส้นสีเงินกระจ่าง underwing ที่เป็นกรดสีเทาในรูปสามเหลี่ยมสีแต่มีลักษณะเหมือนกับผู้ใหญ่ เด็กหัวแร้งขนาดใหญ่มีสีเข้มจนกว่าจะได้มีประมาณ 3 ถึง 4 ปีเมื่อหัวจะเริ่มเปิดสีชมพู ร่างพระราชบัญญัติเยาวชนที่เป็นสีดำและการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์สีงาช้างเป็นนกธุรกิจเติบโตเต็มที่.

แร้งขนาดใหญ่มีระยะยาวอยู่พร้อมด้วยอัตราค่าบริการระดับต่ำเจริญพันธุ์พวกเขาสามารถอยู่ได้นานถึง 60 ปีในป่าและเป็นผู้ใหญ่ทางเพศที่หกเจ็ดปีหรืออายุ ต้นหนแร้งขนาดใหญ่สำหรับเพศหญิงและอายุการใช้งานวางไข่เพียงครั้งเดียวที่ประมาณห้านิ้วในความยาวและน้ำหนักประมาณ 10 ออนซ์ปีอื่นๆทุกครั้ง แร้งขนาดใหญ่ตัวผู้และตัวเมียแสดงระยะฟักตัวกะใช้ร่วมกัน แร้งขนาดใหญ่มีรู - รังนก ไซต์รังมากที่สุดพบว่ามีในถ้ำบนแท่นหินหรือในบาดาลลดทรีแร้งขนาดใหญ่ไม่ได้สร้างรังวางไข่แทนที่จะมอบไว้บนพื้นของต้นไม้หรือผาถ้ำ คนตาบอดไข่หลังจากผ่านไปประมาณ 56 วันของผู้ประกอบการรวมทั้งพ่อและแบ่งปันความรับผิดชอบสำหรับการป้อนนมตั้งอยู่โดย regurgitation หนุ่มแร้งขนาดใหญ่งอกขนที่ห้าถึงหกเดือนของอายุแต่อาจจะอยู่ในพื้นที่ทำรังของนกที่ได้นานถึงหนึ่งปี.

ในช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์แร้งขนาดใหญ่จากประเทศแคนาดาไปยังประเทศแม็กซิโกทั่วสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ทางตอนใต้เพื่อไปยัง Florida และบนชายฝั่งด้านทิศตะวันออกใน New York ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวนี้แร้งขนาดใหญ่มีประชากรทั่วไปของ Grand Canyon ที่ใช้ eggshells และขนนกกระดูกพบในถ้ำที่ซ้อน การลดความหลากหลายที่งดงามที่เกิดขึ้นประมาณ 10 , 000 ปีที่ผ่านมาเขารู้สึกตัวในเวลาเดียวกันพร้อมด้วยการสูญพันธุ์ pleistocene ช่วงดึกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่เช่นความเฉื่อยชาขนาดใหญ่ mastodon อูฐแมวและถูกดาบ - จักๆแร้งขนาดใหญ่ที่เลี้ยงด้วยอาหาร. โดยช่วงเวลาที่ชาวยุโรปอเมริกาเหนือมาถึงในแบบตะวันตกแร้งขนาดใหญ่ได้ล่าถอยไปในที่มั่นไปตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกจากบริติชโคลัมเบียในบาฮากาลิฟอร์เนีย นกที่มีการบริหารจัดการในการรักษาประชากรที่อาจจะเนื่องจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่ล้างท้องทะเลบนฝั่งอย่างไรก็ตามการชำระเงินที่เกิดจากด้านทิศตะวันตกที่การถ่าย ภาพ เป็นพิษจากยาฆ่าแมลงและนำไปสู่โดยทั่วไปการเสื่อม สภาพ ที่อยู่อาศัยและจะทำการเก็บไข่ก็เริ่มจะเก็บค่าธรรมเนียมที่หนัก ระหว่างช่วงกลางไปตั้งแต่ทศวรรษ 1880 )และปี 1924 มีรายงานของแร้งขนาดใหญ่กระจายอยู่ในแอริโซนาด้วยการที่ผ่านมาใกล้กับ Williams แอริโซนาในปี 1924 โดยช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 s แร้งขนาดใหญ่ทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็พบได้เฉพาะในแคลิฟอร์เนียและโดยปี 1982 จำนวนประชากรทั้งหมดที่มีตามร่องน้ำเพียง 22 นกความหวังเพียงจะเริ่มต้นเพาะพันธุ์เป็นเชลยของแร้งขนาดใหญ่, California และในการเริ่มต้นกระบวนการประชาธิปไต?ของสายพันธุ์ที่ กระบวนการประชาธิปไต?ของแร้งขนาดใหญ่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นเชลยเริ่มในปี 1992 ในแคลิฟอร์เนียและ 1996 ในแอริโซนา.