In the past, the application of phy

In the past, the application of physics and classical principles of chemical engineering,
seasoned with a dose of empiricism, were sufficient to explain phenomena in
food processing at the macrolevel. However, this approach has led to a marginal
contribution the fundamental principles of engineering sciences, sometimes justified
by the “complexity” of food materials.
Structure has been a most important variable disregarded by food engineers.
Further advances in the understanding of properties of foods, as well as in processing and fabrication, need to reduce the scale of analysis to that of basic building elements
and the cell. The myriad of microscopy, visualization, and image processing techniques
available, including noninvasive and real-time methods, will greatly assist in
this effort. Foods must also be understood in the way they are formed, transformed,
and broken down in the mouth. This trend will be greatly assisted by concepts,
techniques, and tools borrowed from biology and materials sciences. Last, but not
least, food engineers should be trained at universities and industries along these
lines, which tacitly imply multidisciplinary and teamwork.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอดีต การประยุกต์ใช้ฟิสิกส์และหลักการคลาสสิกของวิศวกรรมเคมีปรุงรส ด้วยปริมาณของ empiricism ไม่เพียงพอที่จะอธิบายปรากฏการณ์ในอาหารแปรรูปที่ macrolevel การ อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ได้นำไปเป็นกำไรส่วนหลักการพื้นฐานของวิศวกรรมศาสตร์ บางชิดโดย "ความซับซ้อน" การผลิตอาหารโครงสร้างมีตัวแปรสำคัญที่ถูกละทิ้ง โดยวิศวกรอาหารเพิ่มเติมความก้าวหน้า ในการทำความเข้าใจคุณสมบัติของอาหาร รวม ทั้ง ในการประมวลผลและการผลิต การลดระดับของการวิเคราะห์ที่อาคารพื้นฐานองค์ประกอบและเซลล์ มาย microscopy แสดงภาพประกอบเพลง และเทคนิคการประมวลผลภาพว่าง รวม noninvasive แบบเรียลไทม์วิธี อย่างมากจะช่วยในการความพยายามนี้ นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจอาหารในแบบที่พวกเขาจะเกิดขึ้น เปลี่ยนและหักลงในปาก แนวโน้มนี้จะเป็นช่วยอย่างมาก โดยแนวคิดเทคนิค และเครื่องมือที่ยืมมาจากชีววิทยาและวัสดุศาสตร์ สุดท้าย แต่ไม่น้อย วิศวกรอาหารควรได้รับการอบรมที่มหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรมตามนี้บรรทัด ที่ tacitly เป็นสิทธิ์แบบ multidisciplinary และทำงานเป็นทีม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอดีตที่ผ่านมาการประยุกต์ใช้หลักการทางฟิสิกส์และคลาสสิกของวิศวกรรมเคมีปรุงรสด้วยปริมาณของประสบการณ์นิยมที่มีเพียงพอที่จะอธิบายปรากฏการณ์ในการแปรรูปอาหารที่macrolevel แต่วิธีนี้ได้นำไปสู่ขอบสนับสนุนหลักการพื้นฐานของวิทยาศาสตร์วิศวกรรมธรรมบางครั้งโดย"ซับซ้อน" ของวัสดุอาหาร. โครงสร้างที่ได้รับเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดปัดทิ้งโดยวิศวกรอาหาร. ความก้าวหน้าต่อไปในความเข้าใจของคุณสมบัติของอาหารที่ เช่นเดียวกับในการประมวลผลและการผลิตต้องลดขนาดของการวิเคราะห์เพื่อที่ขององค์ประกอบการสร้างพื้นฐานและมือถือ มากมายของกล้องจุลทรรศน์การสร้างภาพและเทคนิคการประมวลผลภาพที่มีอยู่รวมทั้งวิธีการรุกล้ำและเวลาจริงอย่างมากจะช่วยในความพยายามนี้ ฟู้ดส์ยังต้องเข้าใจในวิธีที่พวกเขาจะเกิดขึ้นเปลี่ยนและแตกลงในปาก แนวโน้มนี้จะได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากแนวความคิดเทคนิคและเครื่องมือที่ยืมมาจากชีววิทยาและวิทยาศาสตร์วัสดุ สุดท้าย แต่ไม่น้อยวิศวกรอาหารที่ควรได้รับการอบรมที่มหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรมเหล่านี้พร้อมสายซึ่งโดยปริยายหมายถึงการทำงานเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอดีต ประยุกต์ฟิสิกส์คลาสสิกและหลักการของวิศวกรรมเคมี ,
เก๋าที่มีขนาดของประสบการณ์นิยมมีเพียงพอที่จะอธิบายปรากฏการณ์ใน
อาหารที่ macrolevel . อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ทำให้เล็กน้อย
บริจาคหลักการพื้นฐานของวิทยาศาสตร์วิศวกรรม , บางครั้งโดยชอบธรรม
" ความซับซ้อน "
ของวัสดุอาหารโครงสร้างมีตัวแปรสำคัญที่สุดต่อโดยวิศวกรอาหาร .
ความก้าวหน้าต่อไปในการเข้าใจคุณสมบัติของอาหาร ตลอดจนในการประมวลผลและการผลิตต้องลดระดับของการวิเคราะห์ที่
สร้างองค์ประกอบขั้นพื้นฐานและเซลล์ มากมายของกล้องจุลทรรศน์ , ภาพ , และเทคนิคการประมวลผลภาพ
ที่มีอยู่รวมทั้ง noninvasive และวิธีการแบบเรียลไทม์
จะช่วยในความพยายามนี้ อาหารก็จะเข้าใจในวิธีที่พวกเขาจะเกิดขึ้น การเปลี่ยน
และหักลงในปาก แนวโน้มนี้จะยิ่งช่วยโดยแนวคิด
เทคนิคและเครื่องมือที่ยืมมาจากชีววิทยาและวัสดุวิทยาศาสตร์ สุดท้ายแต่ไม่ใช่
อย่างน้อย วิศวกรอาหารควรได้รับการอบรมที่มหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรมตามบรรทัดเหล่านี้
,ซึ่งบ่งบอกเป็นนัยๆ สหสาขาวิชาชีพและทำงานเป็นทีมได้