A new book has attracted much inter

A new book has attracted much interest in the Washington DC, especially on Capitol Hill, Finnish Lessons: What Can the World Learn From Educational Change in Finland?. The book arrives after Finland scored first in science and second in reading and math on the standardized test administered by the Program for International Student Assessment.

Conducted among industrialized nations every three years, American students finished 25th in math, 17th in science and 12th in reading on the latest PISA assessment. Obviously, in our global economy, this nation's international educational attainment is discouraging for our future prospects.

What stands out to me is that Finnish students take only one mandatory standardized test, at age 16. Finland has the same number of teachers as New York City, but only 600,000 students compared to 1.1m in the Big Apple. Finnish teachers' starting salaries are lower than in the US, but high-school teachers with 15 years' experience make 102% of what other college graduates make. In the US, the figure is 62%.

Some of Finland's students' outcomes should be especially interesting to US policy makers. Fully 93% of Finns graduate from high school – 17.5 points higher than American students. And 66% of Finns are accepted to college, a higher rate than the US and every European nation. Strikingly, the achievement gap between the weakest and strongest students academically is the smallest in the world.

What might really interest some politicians is that Finland spends about 30% less per student to achieve these far-superior educational outcomes. For those who argue that a much smaller, less diverse country like Finland can't easily be compared to the US, there is an inconvenient fact: Finland performs much better educationally when compared to similar Scandinavian nations with similar demographics. Plainly, something is right in the "Land of a thousand lakes".

Fortunately, US education policy is evolving in the face of our relative global underperformance. Federal policy continues to move away from the rigid certainties of the Bush-era No Child Left Behind legislation. The NCLB law set a hopelessly unrealistic target for 100% student proficiency in every school by 2014. It's clear that won't be achieved.

Currently, 32 states and the District of Columbia have successfully applied for waivers from NCLB. To secure this flexibility, states had to have the US Department of Education approve credible plans to raise standards, strengthen accountability and undertake reforms to improve teacher effectiveness. Localizing education reform in this way should more effectively combine ambition and realism.

Additionally, President Obama's Race to the Top program provides federal incentives for states to reform their public education offerings. These education reforms include lifting caps on the number of public charter schools, innovative policies to turn around failing schools, and improving teacher and principal effectiveness.

As an educator who opened one of the first public charter schools in Washington DC in 1998, — at the height of the crisis of our unreformed public education system — I've always had a different take on reform than the NCLB dogma. I could see that the predominantly disadvantaged students whom the status quo was failing would need more than standardized tests to ensure school success.

We decided to create a school that would help students develop the habits, knowledge and skills that would be required in this new century, rather than limiting our students to learning reading and math, the subjects that students are most often tested on. We require our pre-K through sixth grade students to speak, read, write and think in two languages — either French and English, or Spanish and English.

Our educational program invests in children early, to prepare them for the next step in their academic careers and beyond, into the world of work. We want them to gain the following: an understanding of how to use technology to enhance learning; an appreciation for, and facility in, the arts; scientific curiosity; an appreciation and knowledge of their cultures and those of others; and the capacity to think critically.

We are proud of our alumni, including those who have earned Posse Scholarships (college scholarships for students who exhibit strong leadership and academic potential), those who are enrolled in prestigious colleges; and those who are flourishing at high-performing high schools, such as Capital City and Washington Latin.

Our students — 69% of whom are economically disadvantaged — can perform at the highest-level academically. Traditional standardized tests fail to adequately assess our academically rich program. Yet our scholars outperform their traditional public school peers by 16% points, and charter peers by nine points. We're not in Finland yet, but we are making progress.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนังสือใหม่ได้ดึงดูดความสนใจมากในวอชิงตัน DC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคปิตอลฮิลล์ บทเรียนภาษาฟินแลนด์: อะไรสามารถโลกเรียนรู้จากการศึกษาเปลี่ยนแปลงในฟินแลนด์ได้ หนังสือมาถึงหลังจากฟินแลนด์คะแนนแรก ในวิทยาศาสตร์ และที่สอง ในการอ่านและคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการทดสอบมาตรฐานที่ดูแล โดยโปรแกรมสำหรับประเมินนักเรียนนานาชาติดำเนินระหว่างร่ำทุกสามปี นักเรียนอเมริกันจบ 25 ในคณิตศาสตร์ 17 ในวิทยาศาสตร์และ 12 อ่านเกี่ยวกับปิซาล่าสุด อย่างชัดเจน ในเศรษฐกิจโลก โดยศึกษานานาชาติของประเทศนี้ได้สำหรับแนวโน้มในอนาคตของเราสิ่งโดดเด่นผมได้ว่า นักเรียนฟินแลนด์มีราคาเดียวบังคับมาตรฐานทดสอบ ที่อายุ 16 ปี ฟินแลนด์มีหมายเลขเดียวกันของครูเป็นนิวยอร์ก แต่นักเรียน 600000 เท่าเมื่อเทียบกับ 1.1m ในบิ๊กแอปเปิ้ล ฟินแลนด์ครูเงินเดือนเริ่มต้นต่ำกว่าในสหรัฐอเมริกา ได้ 102% ของบัณฑิตวิทยาลัยอื่น ๆ อะไรให้ทำให้ครูในโรงเรียนมัธยม มีประสบการณ์ 15 ปี ในสหรัฐอเมริกา ตัวเลขเป็น 62%บางส่วนของฟินแลนด์นักผลควรน่าสนใจโดยเฉพาะผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐอเมริกา ทั้งหมด 93% ของ Finns ศึกษา จากโรงเรียนมัธยม – 17.5 คะแนนสูงกว่านักเรียนอเมริกัน และ 66% ของ Finns รับศึกษา อัตราสูงกว่าทุกประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา กว่า ความสำเร็จที่มีช่องว่างระหว่างนักเรียนที่แข็งแกร่ง และกำจัดจุดเดิมได้น้อยที่สุดในโลกอะไรจริง ๆ อาจสนใจนักการเมืองบางอยู่ที่ฟินแลนด์ใช้ประมาณ 30% น้อยต่อนักเรียนเพื่อให้บรรลุผลเหล่านี้ศึกษาไกลห้อง สำหรับผู้ที่โต้แย้งว่า การมีขนาดเล็กมาก น้อยหลากหลายประเทศเช่นฟินแลนด์ง่าย ๆ ไม่เปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา มีความจริงที่ถูกละเลย: ฟินแลนด์ทำดี educationally เมื่อเทียบกับประเทศสแกนดิเนเวียนคล้ายกับลักษณะประชากรที่คล้ายคลึงกัน อุปมา สิ่งที่มีอยู่ใน "ดินแดนทะเลสาบพัน"โชคดี มีการพัฒนานโยบายการศึกษาของสหรัฐอเมริกาหน้า underperformance โลกของเราญาติ นโยบายของรัฐบาลกลางยังย้ายจาก certainties เข้มงวดของกฎหมายสมัยบุชไม่เด็กซ้ายด้านหลัง กฎหมาย NCLB ตั้งเป้าหมายไม่มีสำหรับความชำนาญนักเรียน 100% ในทุกโรงเรียน โดย 2014 เป็นที่ชัดเจนที่จะไม่ประสบความสำเร็จปัจจุบัน อเมริกา 32 และดิสตริกต์ออฟโคลัมเบียได้นำไปใช้สำหรับ waivers จาก NCLB การรักษาความปลอดภัยความยืดหยุ่นนี้ อเมริกามีมีที่เราแผนกการศึกษาอนุมัติแผนน่าเชื่อถือเพื่อยกมาตรฐาน เสริมสร้างความรับผิดชอบ และดำเนินการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของครู ทั้งการปฏิรูปการศึกษาในลักษณะนี้ควรเพิ่มเติมอย่างมีประสิทธิภาพรวมความตั้งใจจริงและความสมจริงนอกจากนี้ แข่งขันประธานาธิบดี Obama โปรแกรมด้านบนช่วยให้แรงจูงใจของรัฐบาลกลางในอเมริกาเพื่อปฏิรูปเสนอการศึกษาสาธารณะ ปฏิรูปการศึกษาเหล่านี้รวมถึงยกหมวกจำนวนโรงเรียนธรรมนูญสาธารณะ นโยบายนวัตกรรมผันโรงเรียนล้มเหลว และปรับปรุงประสิทธิภาพของครูและครูใหญ่เป็นประวัติผู้สอนและเป็นผู้เปิดโรงเรียนธรรมนูญสาธารณะครั้งแรกหนึ่งในวอชิงตันดีซีในปี 1998, — ที่วิกฤตของระบบการศึกษาสาธารณะ unreformed ของเรา — ฉันเสมอเคยใช้แตกต่างกันในการปฏิรูปมากกว่าเชื่อ NCLB ฉันได้เห็นว่า นักเรียนส่วนใหญ่ผู้ที่สภาพล้มเหลวจะต้องมากกว่าการทดสอบตามมาตรฐานความสำเร็จของโรงเรียนเราตัดสินใจที่จะสร้างโรงเรียนที่จะช่วยให้นักเรียนพัฒนาพฤติกรรม ความรู้ และทักษะที่จะจำเป็นในศตวรรษใหม่นี้ แทนที่จำกัดนักเรียนของเราเรียนรู้การอ่านและคณิตศาสตร์ วิชาที่นักเรียนส่วนใหญ่มักจะทดสอบในการ เราต้องการของเราก่อน-K ผ่านนักเรียนเกรดหกการพูด อ่าน เขียน และคิดว่า ภาษาที่สอง – ทั้งฝรั่งเศส และ อังกฤษ หรือภาษาสเปน และภาษาอังกฤษโปรแกรมการศึกษาของเราลงทุนในเด็กช่วงต้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไปในงานศึกษาของพวกเขา และ อื่น ๆ ในโลกของการทำงาน เราต้องการให้ได้รับต่อไปนี้: ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ การขึ้นราคาสำหรับ และใน ศิลปะ อยากรู้ทางวิทยาศาสตร์ การเพิ่มค่าและรู้วัฒนธรรมของตนและของผู้อื่น และความสามารถในการคิดถึงเราภูมิใจที่ศิษย์เก่าของเรา รวมทั้งผู้ที่ได้รับทุนการศึกษากองทหาร (วิทยาลัยทุนการศึกษาสำหรับผู้เรียนที่แสดงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและศักยภาพทางวิชาการ), ผู้ที่ลงทะเบียนในวันวิทยาลัย และที่ไหนที่สูงปฏิบัติสูงโรงเรียน เมืองหลวงและละตินวอชิงตันนักเรียนของเรา — 69% ของผู้ที่เป็นผู้ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจซึ่งสามารถที่จะ highest-level เดิมได้ แบบทดสอบมาตรฐานไม่เพียงพอประเมินโปรแกรมรวยเดิมของเรา แต่ นักวิชาการของเรา outperform ของเพื่อนโรงเรียนเดิมจุด 16% และกฎบัตรเพื่อนเก้าจุด เรายังไม่ในฟินแลนด์ แต่เราจะทำให้ความคืบหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนังสือเล่มใหม่ได้ดึงดูดความสนใจมากในกรุงวอชิงตันดีซีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ Capitol Hill บทเรียนฟินแลนด์: สิ่งที่โลกสามารถเรียนรู้จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงในฟินแลนด์ ?. หนังสือมาถึงหลังจากฟินแลนด์ฝ่ายแรกในด้านวิทยาศาสตร์และครั้งที่สองในการอ่านและคณิตศาสตร์ในการทดสอบมาตรฐานการบริหารงานโดยโปรแกรมสำหรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ. ดำเนินการในหมู่ประเทศอุตสาหกรรมทุกสามปีนักเรียนชาวอเมริกันเสร็จ 25 ในวิชาคณิตศาสตร์ 17 ในด้านวิทยาศาสตร์และ 12 ในการอ่าน ในการประเมิน PISA ล่าสุด เห็นได้ชัดว่าในเศรษฐกิจโลกของเราประเทศที่สำเร็จการศึกษาในต่างประเทศนี้จะท้อใจสำหรับลูกค้าของเราในอนาคต. สิ่งที่ยืนออกให้ฉันเป็นนักเรียนที่ฟินแลนด์จะใช้เวลาเพียงหนึ่งในการทดสอบมาตรฐานบังคับที่อายุ 16 ฟินแลนด์มีหมายเลขเดียวกันของครูนครนิวยอร์ก แต่เพียง 600,000 นักเรียนเมื่อเทียบกับ 1.1 มในบิ๊กแอปเปิ้ล ครูผู้สอนภาษาฟินแลนด์เงินเดือนเริ่มต้นที่จะต่ำกว่าในสหรัฐ แต่ครูโรงเรียนมัธยมที่มี 15 ปีมีประสบการณ์ให้ 102% ของสิ่งที่บัณฑิตวิทยาลัยอื่น ๆ ที่ทำให้ ในสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 62%. บางส่วนของผลนักเรียนของฟินแลนด์ 'ควรจะเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐ ครบ 93% ของฟินน์จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม - 17.5 คะแนนสูงกว่านักเรียนชาวอเมริกัน และ 66% ของฟินน์ได้รับการยอมรับในการวิทยาลัยอัตราที่สูงกว่าสหรัฐอเมริกาและยุโรปทุกประเทศ ยอดเยี่ยมช่องว่างความสำเร็จระหว่างนักเรียนที่อ่อนแอที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในด้านวิชาการเป็นที่เล็กที่สุดในโลก. จริงๆสิ่งที่อาจจะสนใจนักการเมืองบางคนคือการที่ฟินแลนด์ใช้เวลาประมาณ 30% น้อยต่อนักเรียนเพื่อให้บรรลุผลการศึกษาเหล่านี้ไกลที่เหนือกว่า สำหรับผู้ที่ยืนยันว่ามีขนาดเล็กมากของประเทศที่มีความหลากหลายน้อยเช่นฟินแลนด์ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่มีความเป็นจริงที่ไม่สะดวก: ฟินแลนด์ดำเนินการทางการศึกษาที่ดีมากเมื่อเทียบกับประเทศสแกนดิเนเวียนที่คล้ายกันกับกลุ่มผู้เข้าชมที่คล้ายกัน ชัดถ้อยชัดคำเป็นสิ่งที่ถูกต้องใน "ดินแดนแห่งทะเลสาบพัน". โชคดีที่นโยบายการศึกษาของสหรัฐมีการพัฒนาในการเผชิญกับผลประกอบทั่วโลกของเราญาติ นโยบายของรัฐบาลกลางยังคงที่จะย้ายออกไปจาก certainties เข้มงวดของบุชยุคเด็กถูกทิ้งไว้ข้างหลังกฎหมาย กฎหมาย NCLB ตั้งเป้าไม่สมจริงอย่างไร้ความหวังสำหรับความสามารถของนักเรียน 100% ในทุกโรงเรียนโดย 2014 มันเป็นที่ชัดเจนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ. ปัจจุบัน 32 รัฐและ District of Columbia ที่ได้นำมาใช้ประสบความสำเร็จในการยินยอมจาก NCLB เพื่อรักษาความปลอดภัยความยืดหยุ่นนี้รัฐจะต้องมีสหรัฐอเมริกากรมสามัญศึกษาอนุมัติแผนการที่น่าเชื่อถือเพื่อยกระดับมาตรฐานเสริมสร้างความรับผิดชอบและดำเนินการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของครู localizing การปฏิรูปการศึกษาในลักษณะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพควรรวมความทะเยอทะยานและความสมจริง. นอกจากนี้การแข่งขันประธานาธิบดีโอบามากับโปรแกรมยอดนิยมให้แรงจูงใจของรัฐบาลกลางสำหรับรัฐที่จะปฏิรูปการศึกษาของประชาชนข้อเสนอของพวกเขา การปฏิรูปการศึกษาเหล่านี้รวมถึงการยกฝาบนจำนวนของโรงเรียนกฎหมายมหาชนนโยบายนวัตกรรมเพื่อหันไปรอบ ๆ โรงเรียนล้มเหลวและการปรับปรุงครูและประสิทธิผลหลัก. ในฐานะที่เป็นนักการศึกษาที่เปิดหนึ่งในโรงเรียนกฎหมายมหาชนครั้งแรกในกรุงวอชิงตันดีซีในปี 1998 - ที่ ความสูงของวิกฤตของระบบการศึกษาสาธารณะของเรา unreformed - ฉันได้เคยใช้เวลาที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการปฏิรูปกว่าความเชื่อ NCLB ฉันจะได้เห็นว่านักเรียนที่ด้อยโอกาสซึ่งส่วนใหญ่สภาพที่ล้มเหลวจะต้องมากกว่าการทดสอบมาตรฐานเพื่อความสำเร็จของโรงเรียน. เราตัดสินใจที่จะสร้างโรงเรียนที่จะช่วยให้นักเรียนพัฒนานิสัย, ความรู้และทักษะที่จะต้องอยู่ในศตวรรษใหม่นี้ มากกว่าการ จำกัด ให้นักเรียนของเราอ่านการเรียนรู้และคณิตศาสตร์, วิชาที่นักเรียนจะมีการทดสอบส่วนใหญ่มักจะอยู่บน เราต้องการก่อน-K ของเราผ่านนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หกที่จะพูดอ่านเขียนและคิดว่าในสองภาษา -. ทั้งภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษหรือภาษาสเปนและภาษาอังกฤษโปรแกรมการศึกษาของเราลงทุนในเด็กก่อนที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปในการเรียนของพวกเขา การประกอบอาชีพและอื่น ๆ เข้าสู่โลกของการทำงาน เราต้องการให้พวกเขาที่จะได้รับต่อไปนี้: ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ ขอบคุณสำหรับและสิ่งอำนวยความสะดวกในศิลปะ; อยากรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความชื่นชมและความรู้ของวัฒนธรรมและผู้คนอื่น ๆ ของพวกเขา และความสามารถในการคิดวิเคราะห์. เรามีความภาคภูมิใจของศิษย์เก่าของเรารวมทั้งผู้ที่ได้รับทุนการศึกษากอง (ทุนการศึกษาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนที่แสดงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพทางวิชาการ) ผู้ที่กำลังเรียนอยู่ในวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง; และผู้ที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่มีประสิทธิภาพสูงโรงเรียนมัธยมเช่นเมืองหลวงและวอชิงตันละติน. นักเรียนของเรา - 69% ของผู้ที่ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ - สามารถดำเนินการในระดับสูงสุดด้านวิชาการ การทดสอบมาตรฐานแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอประเมินโปรแกรมของเราที่อุดมไปด้วยวิชาการ แต่นักวิชาการของเราดีกว่าโรงเรียนของพวกเขาแบบดั้งเดิมของประชาชนคนรอบข้างโดยจุดที่ 16% และเพื่อนเช่าเหมาลำโดยเก้าแต้ม เราไม่ได้อยู่ในฟินแลนด์ แต่เราจะทำให้ความคืบหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนังสือใหม่ที่ดึงดูดความสนใจมากในวอชิงตัน ดีซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ Capitol Hill , ฟินแลนด์บทเรียนที่โลกสามารถเรียนรู้จากการเปลี่ยนแปลงการศึกษาในฟินแลนด์ ? . หนังสือมาถึงหลังจากที่ฟินแลนด์ได้คะแนนแรกในวิทยาศาสตร์และวินาทีในการอ่านและคณิตศาสตร์บนมาตรฐานทดสอบโดยโปรแกรมสำหรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ .

ดำเนินการในประเทศอุตสาหกรรมทุกสามปี , นักเรียนอเมริกัน จบที่ 25 ในวิชาคณิตศาสตร์ , วิทยาศาสตร์และ 12 17 ในการอ่านในการประเมิน PISA ล่าสุด จะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจโลกของเรา ประเทศนี้นานาชาติการศึกษาจะท้อใจสำหรับอนาคตของเรา

ที่ยืนออกมาให้ฉันคือนักเรียนฟินแลนด์ใช้เวลาเพียงหนึ่งบังคับมาตรฐานการทดสอบที่อายุ 16 ปีฟินแลนด์มีหมายเลขเดียวกันของครูที่นิวยอร์ค แต่ 600000 นักเรียนเมื่อเทียบกับ 1.1m ในบิ๊กแอปเปิ้ล ครูภาษาอังกฤษ เริ่มต้นเงินเดือนต่ำกว่าในสหรัฐอเมริกา แต่เรียนครูที่มีประสบการณ์ 15 ปีให้ 102 % ของสิ่งที่บัณฑิตวิทยาลัยอื่น ๆให้ ในสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 62 .

บางส่วนของผลของนักเรียนฟินแลนด์จะน่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเราผู้ผลิตนโยบาย ครบ 93 % ของคนจบสูงกว่านักเรียนโรงเรียนสูง– 17.5 คะแนน และ 66 เปอร์เซ็นต์ของฟินน์ ได้รับการยอมรับให้วิทยาลัย มีอัตราสูงกว่าเรา และทุกประเทศในยุโรป . อย่างยอดเยี่ยม , ช่องว่างระหว่างนักเรียนที่เรียนจบทางด้านวิชาการและมีขนาดเล็กที่สุดในโลก

สิ่งที่อาจจะจริงๆสนใจนักการเมืองบางคนที่ฟินแลนด์ใช้ประมาณ 30% น้อยกว่าต่อนักเรียน เพื่อให้บรรลุนี้ไกลกว่าการศึกษาผลลัพธ์ สำหรับผู้ที่ยืนยันว่ามีขนาดเล็กมาก มีความหลากหลายน้อยกว่าประเทศ เช่น ฟินแลนด์ ไม่สามารถเทียบกับเรา นั่นคือ ความจริงไม่สะดวก :ฟินแลนด์แสดงดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับประเทศสแกนดิเนเวียนทั้งสองคล้ายคลึงกับประชากรที่คล้ายคลึงกัน สมถะ อะไรคือสิทธิในที่ดินของทะเลสาบพัน " .

โชคดีที่เราศึกษานโยบายพัฒนาในหน้าของการ underperformance ทั่วโลกของเราญาติ นโยบายของรัฐบาลกลางยังคงย้ายออกจาก certainties ที่เข้มงวดของบุช สมัยเด็กทิ้งไว้ข้างหลังไม่มีการออกกฎหมายพระราชบัญญัติ NCLB กำหนดเป้าหมายที่ไม่สมจริงอย่างสิ้นหวัง ร้อยละ 100 ของนักเรียนในทุกโรงเรียน วัดโดย 2014 มันชัดเจนว่าไม่ได้

ปัจจุบัน 32 รัฐและ District of Columbia ใช้เรียบร้อยแล้วสำหรับการยกเว้นจาก NCLB . การรักษาความปลอดภัยความยืดหยุ่นนี้ รัฐต้องมีเรากรมสามัญศึกษาอนุมัติแผนการที่น่าเชื่อถือ เพื่อยกระดับมาตรฐานการเสริมสร้างความรับผิดชอบและการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของครู จำกัดการปฏิรูปการศึกษาในลักษณะนี้ควรจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมความทะเยอทะยานและความสมจริง

นอกจากนี้การแข่งขันประธานาธิบดี Obama โปรแกรมด้านบนให้สิ่งจูงใจของรัฐบาลกลางให้รัฐปฏิรูปเสนอการศึกษาสาธารณะของพวกเขาการปฏิรูปการศึกษา เหล่านี้รวมถึงการยกฝาบนหมายเลขของโรงเรียนกฎบัตรสาธารณะ นโยบายใหม่ที่จะหันไปรอบ ๆในโรงเรียน และการพัฒนาครู และประสิทธิผลเป็นหลัก

เป็นครูที่เปิดแรก กฎบัตรโรงเรียนสาธารณะในวอชิงตัน ดี.ซี. ในปี 1998