การปลูกถ่ายไตครั้งแรกได้ดำนานการมาน

การปลูกถ่ายไตครั้งแรกได้ดำนานการมานานกว่า35ปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับว่าเป็นโลกใหม่
ปัญหาการขาดแคลนอวัยวะที่เลวร้าย สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ ซึงเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ป่วยที่รอรับบริจาค เนื่องจาคมีกฏหมายเกี่ยวกับรถจักรยานต์ การสวมหมวกกันน็อก และการคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งลดการเสียชีวิต
อวัยวะส่วนใหญ่มาจากศพ บางส่วนเป้นไต ตับ หัวใจ ซึ่งผู้ป่วยโรคหัวใจจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายหัวใจและปอดเพื่อเปิดทางให้หัวใจของพวกเขาดีขึ้น แพทย์เรียกว่า การปฏิวัติโดมิโน
ในปี1972 ดร.โทมัส เป็นผู้บุกเบิกการเปลี่ยนถ่ายตับได้หยุดดำเนินการเปลี่ยนถ่ายจากผู้บริจาคทุกชนิด เขาได้อธิบายในปี1987ว่า ในชีวิตมีการตายแค่ครั้งเดียว จึงเป้นแรงจูงใจที่ดีที่จะทำให้สุขภาพของผู้อื่นดีขึ้น แต่ได้มีการโต้แย้งว่ามันไม่มีความสมบูรณ์สำหรับผู้บริจาค
ซึ่งออวัยวะจากศพมีไม่พอตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนที่กำลังจะตายจากภาวะความล้มเหลวของอวัยวะ และญาติของผุ้ป่วยจะเป็นผู้บริจาคให้ผู้ป่วยเอง แต่ก็มีความเสี่ยง ดังนั้น การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะจะมีการเดิมพันความเสี่ยงสูงในผู้บริจาค และจะมีผลข้างเคียงเกี่ยงกับอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของผุ้รับบริจาค
กฏหมายในขณะนี้ห้ามไม่ให้ค่าตอบแทนใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ในสหรัฐ จีน และอินเดีย มีการค้าอวัยวะต่างๆ เช่น ไต ซึ่งชาวอเมริกันมีตลาดที่คล้ายกันโดยเปลี่ยนร่างกายเป็นสินค้า ในความเป็นจริงอาจมีครอบครัวที่ไม่เต็มใจที่จะบริจาคอวัยวะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ การสวมหมวกกันน็อกและการคาดเข็มขัดนิรภัย
บางส่วนเป้นไตตับหัวใจ แพทย์เรียกว่าได้การปฏิวัติโดมิโน
ในปี 1972 ดร. โทมัส เขาได้อธิบายในปี 1987 ว่าในชีวิตมีการตายแค่ครั้งเดียว
แต่ก็มีความเสี่ยงดังนั้น
เกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะในสหรัฐจีนและอินเดียมีการค้าอวัยวะต่างๆเช่นไต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปลูกถ่ายไตครั้งแรกได้ดำนานการมานานกว่า 35 ปีที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับว่าเป็นโลกใหม่
ปัญหาการขาดแคลนอวัยวะที่เลวร้ายสำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ซึงเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ป่วยที่รอรับบริจาคเนื่องจาคมีกฏหมายเกี่ยวกับรถจักรยานต์การสวมหมวกกันน็อกและการคาดเข็มขัดนิรภัยซึ่งลดการเสียชีวิต
อวัยวะส่วนใหญ่มาจากศพบางส่วนเป้นไตตับหัวใจซึ่งผู้ป่วยโรคหัวใจจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายหัวใจและปอดเพื่อเปิดทางให้หัวใจของพวกเขาดีขึ้นแพทย์เรียกว่าการปฏิวัติโดมิโน
สามารถดร 1972 .โทมัสเป็นผู้บุกเบิกการเปลี่ยนถ่ายตับได้หยุดดำเนินการเปลี่ยนถ่ายจากผู้บริจาคทุกชนิดเขาได้อธิบายในปี 1987 ว่าในชีวิตมีการตายแค่ครั้งเดียวจึงเป้นแรงจูงใจที่ดีที่จะทำให้สุขภาพของผู้อื่นดีขึ้นซึ่งออวัยวะจากศพมีไม่พอตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนที่กำลังจะตายจากภาวะความล้มเหลวของอวัยวะและญาติของผุ้ป่วยจะเป็นผู้บริจาคให้ผู้ป่วยเองแต่ก็มีความเสี่ยงดังนั้นและจะมีผลข้างเคียงเกี่ยงกับอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของผุ้รับบริจาค
กฏหมายในขณะนี้ห้ามไม่ให้ค่าตอบแทนใดๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะในสหรัฐจีนและอินเดียมีการค้าอวัยวะต่างๆเช่นไตซึ่งชาวอเมริกันมีตลาดที่คล้ายกันโดยเปลี่ยนร่างกายเป็นสินค้า