The analysis of the mechanical prop

The analysis of the mechanical properties in compression of the starch based foams produced show how incorporating natural reinforcements to the starch-based polymer matrix it is possible to increase the strength of the pure foams, especially in the case of adding grape waste. From the evaluation of the cellular structure grape particles were the only natural reinforcement which did not considerably change the cellular structure at least in terms of cell size. On the contrary, barley straw fibers and cardoon waste produced a decrease of the cell size. Nevertheless, all the foams produced presented in general highly inhomogeneous cellular structures, with and without fibers, which results in in a wide distribution of cell sizes (NSD values higher than 0.5).

The energy absorbed per unit volume of the foam reinforced with barley straw fibers is higher than those of the other foams. This could be due to the fact that the toughness of the starch polymer matrix was increased by the addition of these fibers.

From the comparison of the mechanical properties of the solid and those of the correspondent foams it is appreciated how the compressive modulus of the foams produced is higher than the compressive modulus of the solid. This is due to the loss of water during the foaming process. The initial solid precursor is a rubbery polymer because of the high amount of water that plasticize the polymer matrix while the final foam is composed of rigid glassy cell walls and struts. A modellization based on the cubic cell model proposed by Gibson and Ashby (1997) allowed estimating the compressive modulus of the cell walls and struts by assuming that the exponent n was equal to 2. The estimated compressive modulus of the cell walls and struts of the foams is approximately 50 times higher than those of the used-solid precursors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิเคราะห์คุณสมบัติทางกลในการบีบอัดของโฟมแป้งที่ใช้ผลิตดูว่าเพจเพิ่มกำลังธรรมชาติกับเมทริกซ์พอลิเมอร์จากแป้งจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแรงของโฟมบริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีขององุ่นเสียเพิ่ม จากการประเมินของโครงสร้างเซลล์ องุ่นอนุภาคถูกเสริมธรรมชาติซึ่งได้ไม่มากเปลี่ยนโครงสร้างโทรศัพท์มือถือน้อยในแง่ของขนาดเซลล์ ดอก เส้นใยฟางข้าวบาร์เลย์และ cardoon เสียผลิตลดขนาดเซลล์ อย่างไรก็ตาม โฟมที่ผลิตนำเสนอโดยทั่วไปโครงสร้างโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานสูง มี และไม่ มีเส้น ใย ซึ่งผลในการกระจายที่กว้างขนาดเซลล์ (NSD สูงกว่า 0.5 ค่า)พลังงานที่ดูดซึมต่อหน่วยปริมาตรของโฟมเสริมแรง ด้วยเส้นใยฟางข้าวบาร์เลย์จะสูงกว่าของโฟมอื่น ๆ นี้อาจจะเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่านึ่งของเมทริกซ์พอลิเมอร์ของแป้งเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มของเส้นใยเหล่านี้จากการเปรียบเทียบคุณสมบัติทางกลของของแข็งและของโฟมผู้สื่อข่าวที่มันไม่นิยม วิธีการโมดูลัส compressive ของโฟมที่ผลิตได้สูงกว่าโมดูลัส compressive ของของแข็ง นี่คือเนื่องจากสูญเสียน้ำระหว่าง foaming สารตั้งต้นที่ทึบเริ่มเป็นพอลิเมอร์ rubbery เนื่องจากจำนวนน้ำที่ plasticize เมทริกซ์พอลิเมอร์ในขณะที่โฟมสุดท้ายประกอบด้วยผนังเซลล์ฟิตแข็งและอยู่ สูง Modellization ที่ยึดตามแบบเซลล์ลูกบาศก์ที่เสนอ โดยกิบสันและส่วนหนึ่ง (1997) ได้ประมาณโมดูลัส compressive ของผนังเซลล์และอยู่โดยสมมติว่า n ยกกำลังได้เท่ากับ 2 โมดูลัส compressive ประเมินของผนังเซลล์และอยู่ของโฟมได้ประมาณ 50 ครั้งสูงกว่าบรรดา precursors ทึบใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์คุณสมบัติทางกลในการบีบอัดของโฟมที่ใช้แป้งที่ผลิตแสดงให้เห็นว่าการใช้มาตรการเสริมธรรมชาติเพื่อเมทริกซ์ลิเมอร์แป้งตามที่มันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความแข็งแรงของโฟมบริสุทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการเพิ่มขยะองุ่น จากการประเมินผลของโครงสร้างของเซลล์อนุภาคองุ่นได้เสริมจากธรรมชาติเท่านั้นซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโครงสร้างของเซลล์อย่างน้อยในแง่ของขนาดของเซลล์ ในทางตรงกันข้ามเส้นใยฟางข้าวบาร์เลย์และของเสีย cardoon ผลิตลดลงขนาดของเซลล์ อย่างไรก็ตามโฟมทั้งหมดผลิตที่นำเสนอโดยทั่วไปสูงโครงสร้างของเซลล์ inhomogeneous ที่มีและไม่มีเส้นใยซึ่งส่งผลให้ในการกระจายกว้างขนาดเซลล์ (NSD ค่าสูงกว่า 0.5). พลังงานดูดซึมต่อหน่วยปริมาณของโฟมเสริมด้วยฟางข้าวบาร์เลย์ เส้นใยสูงกว่าโฟมอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะความจริงที่ว่ามีความเหนียวของเมทริกซ์ลีเมอร์สตาร์ชที่เพิ่มขึ้นโดยการเติมเส้นใยเหล่านี้. จากการเปรียบเทียบสมบัติเชิงกลของของแข็งและของผู้สื่อข่าวโฟมมันเป็นที่นิยมวิธีโมดูลัสอัดของโฟม การผลิตสูงกว่าโมดูลัสอัดของของแข็ง นี้เกิดจากการสูญเสียน้ำในระหว่างขั้นตอนการเกิดฟอง สารตั้งต้นที่เป็นของแข็งแรกคือพอลิเมอยางเพราะจำนวนเงินที่สูงของน้ำที่ plasticize เมทริกซ์ลีเมอร์ในขณะที่โฟมสุดท้ายประกอบด้วยผนังเซลล์เหลือบแข็งและเสา modellization ขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือลูกบาศก์เสนอโดยกิบสันและแอชบี (1997) ได้รับอนุญาตให้การประเมินโมดูลัสอัดของผนังเซลล์และเสาโดยสมมติว่า n สัญลักษณ์เท่ากับ 2. โมดูลัสอัดประมาณของผนังเซลล์และเสาของ โฟมจะอยู่ที่ประมาณ 50 เท่าสูงกว่าสารตั้งต้นที่ใช้ของแข็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์สมบัติเชิงกลของโฟมที่ผลิตจากแป้งอัดแสดงวิธีการเรียกกำลังเสริมจากเมทริกซ์พอลิเมอร์จากแป้งมันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความแข็งแรงของโฟมบริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการเพิ่มกากองุ่นจากการประเมินของโครงสร้างเซลล์องุ่นอนุภาคเป็นเพียงธรรมชาติเสริมซึ่งไม่ได้มากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์อย่างน้อยในแง่ของขนาดเซลล์ ในทางตรงกันข้าม ข้าวบาร์เลย์ ใยฟางและ cardoon ของเสียที่ผลิตลดลงของเซลล์ขนาด อย่างไรก็ตาม โฟมที่ผลิตได้ทั้งหมดจะนำเสนอในโครงสร้างของเซลล์ inhomogeneous ทั่วไปสูง ,ที่มีและไม่มีเส้นใย ซึ่งส่งผลในการกระจายกว้างของขนาดของเซลล์ ( NSD มีค่าสูงกว่า 0.5 ) .

ดูดซึมพลังงานต่อหน่วยปริมาณของโฟมเสริมด้วยฟางข้าวบาร์เลย์เส้นใยสูงกว่าโฟมอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะความจริงที่ว่า ความเหนียวของแป้งพอลิเมอร์เมทริกซ์เพิ่มขึ้นโดยการเพิ่มของเส้นใยเหล่านี้

จากการเปรียบเทียบสมบัติเชิงกลของของแข็ง และบรรดาผู้สื่อข่าว โฟมมันเป็นความนิยมวิธีโมดูลัสอัดของโฟมที่ผลิตที่สูงกว่าค่ากำลังอัดของของแข็ง นี้คือเนื่องจากการสูญเสียของน้ำในกระบวนการเกิดโฟม .สารตั้งต้นที่แข็งแรกคือพอลิเมอร์ยาง เพราะของจำนวนเงินที่สูงของน้ำที่ plasticize พอลิเมอร์เมทริกซ์ในขณะที่โฟมสุดท้ายประกอบด้วยผนังเซลล์ เหลือบ แข็งและดาว . เป็น modellization ตามแบบที่เสนอโดย กิ๊บสัน และ เซลล์ลูกบาศก์แอชบี ( 1997 ) ได้ประมาณค่ากำลังเซลล์ผนังและเสา โดยสมมติว่าเลขชี้กำลัง n เท่ากับ 2ค่าอัดโมดูลัสเซลล์ผนังและเสาของโฟมประมาณ 50 ครั้งมากกว่าผู้ที่ใช้สารตั้งต้นที่เป็นของแข็ง