ผนังกั้นช่องจมูกคด...ผ่าตัดแก้ไขอย่างไร (Septoplasty) รศ. นพ. ปารยะ    การแปล - ผนังกั้นช่องจมูกคด...ผ่าตัดแก้ไขอย่างไร (Septoplasty) รศ. นพ. ปารยะ    ไทย วิธีการพูด

ผนังกั้นช่องจมูกคด...ผ่าตัดแก้ไขอย่

ผนังกั้นช่องจมูกคด...ผ่าตัดแก้ไขอย่างไร (Septoplasty)

 

รศ. นพ. ปารยะ   อาศนะเสน

สาขาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้

    ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา   
Faculty of Medicine Siriraj Hospital

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

การที่มีผนังกั้นช่องจมูกคด (deviated nasal septum)  จะทำให้มีอาการคัดจมูกข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่งได้  นอกจากนั้นอาจเป็นสาเหตุของการปวดในโพรงจมูก (sinonasal pain),  ไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่กลับเป็นซ้ำ (recurrent acute sinusitis), ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (chronic sinusitis), โรคริดสีดวงจมูก (nasal polyp), โรคของหูชั้นกลาง [เช่นการอุดตันของท่อยูสเตเชียน (eustachian tube dysfunction)ทำให้มีหูอื้อ หรือ เสียงดังในหู], เลือดกำเดาไหล (epistaxis)  และอาการนอนกรน (snoring) และ/ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (obstructive sleep apnea) 

การผ่าตัดแก้ไขภาวะดังกล่าว  ทำโดยการผ่าตัดผ่านช่องจมูก  โดยจะไม่มีแผลหรือรอยผ่าตัดให้เห็นภายนอก  ยกเว้นในรายที่ผนังกั้นช่องจมูกคดนั้นอยู่บริเวณด้านหน้ามาก อาจมีแผลเล็กๆที่ผิวหนังบริเวณผนังกั้นช่องจมูกทางด้านหน้าส่วนล่าง ซึ่งเล็กและแทบมองไม่เห็น แพทย์จะเย็บแผลผ่าตัดในโพรงจมูกด้วยไหมละลาย  การผ่าตัดนี้บางครั้งจะทำร่วมกับ การใช้คลื่นความถี่วิทยุลดขนาดของเยื่อบุจมูก, การผ่าตัดรักษาโรคไซนัสอักเสบ หรือโรคริดสีดวงจมูกโดยวิธีการส่องกล้อง  

การผ่าตัดนี้อาจใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือวิธีดมยาสลบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด และผู้ป่วย

    

ก่อนผ่าตัด  แพทย์จะตรวจความสมบูรณ์ของร่างกาย และประเมินความพร้อมของผู้ป่วยก่อนผ่าตัด เช่นการตรวจเลือด  ปัสสาวะ  ถ่ายภาพรังสีปอด หรือ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แล้วแต่ความจำเป็นในผู้ป่วยแต่ละราย  สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาขยายหลอดเลือด, ยาแอสไพริน หรือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด  แพทย์อาจให้หยุดยาดังกล่าวก่อนผ่าตัดหลายวัน  ผู้ป่วยควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เช่น พักผ่อนอย่างเพียงพอ  หลีกเลี่ยงคนรอบข้างที่ไม่สบาย เพื่อป้องกันไข้หวัด หรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้ต้องเลื่อนการผ่าตัด 

 

การใช้ยาชาเฉพาะที่  ถ้าแพทย์ทำผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่  ผู้ป่วยสามารถมาโรงพยาบาลวันที่นัดทำผ่าตัดได้เลย  การใช้ยาชาเฉพาะที่ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ใจสั่น หน้ามืด  เป็นลม  หูอื้อ แต่อาการเหล่านี้มักหายได้เอง  

การดมยาสลบ  ผู้ป่วยจะต้องเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาล 1 วันก่อนผ่าตัด เพื่อวิสัญญีแพทย์จะได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดมยาสลบในวันรุ่งขึ้นที่จะผ่าตัด  คืนวันก่อนผ่าตัด แพทย์จะให้งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืนเพื่อป้องกันการสำลักอาหาร และน้ำลงปอดเวลาดมยาสลบ  การดมยาสลบ  มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เสียงแหบจากสายเสียงบวม  ปอดอักเสบจากการสูดสำลัก หายใจลำบาก เนื่องจากทางเดินหายใจบวม แต่ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมาก  ในรายที่มีอาการดังกล่าวรุนแรงมาก  อาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ (endotracheal tube) ไว้ หลังผ่าตัดเสร็จ  และนอนในหอผู้ป่วยหลังผ่าตัด  1 คืน เพื่อสังเกตการหายใจหลังผ่าตัด

คืนวันก่อนผ่าตัด  ผู้ป่วยจะได้รับการตัดขนจมูก  เพื่อเตรียมบริเวณที่จะทำการผ่าตัด  

 

หลังผ่าตัด  จะมีวัสดุที่ใช้ในการห้ามเลือดอยู่ในโพรงจมูกทั้งสองข้าง  ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก จึงต้องหายใจทางปากจนกว่าแพทย์จะเอาวัสดุห้ามเลือดออก ซึ่งอาจทำให้คอแห้ง แสบหรือเจ็บคอได้ จึงควรจิบน้ำ และกลั้วคอบ้วนปาก เพื่อทำความสะอาดช่องปากและคอบ่อยๆ        

ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บจมูกจากแผลผ่าตัดบ้าง  หรือมีเลือดปนน้ำมูกหรือน้ำลายได้บ้าง ผู้ป่วยไม่ควรดึงวัสดุห้ามเลือดในโพรงจมูกออกเอง เพราะอาจทำให้มีเลือดออกมากได้  หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับยาต้านจุลชีพ, ยาแก้ปวด, ยาลดบวม, ยาหดหลอดเลือดชนิดหยอดจมูกเพื่อห้ามเลือด (topical decongestant), ยาลดอาการคัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล  และจะมีสายให้น้ำเกลืออยู่ที่แขน  เมื่อผู้ป่วยรับประทานได้ดีพอควร  แพทย์จะเอาสายให้น้ำเกลือออก  ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล เมื่อจำเป็นได้ 

แพทย์จะนำวัสดุที่ใส่ไว้ในโพรงจมูกออกภายใน 24-48 ชั่วโมง หลังผ่าตัด พยาบาลจะสอนให้ล้างทำความสะอาดช่องจมูกด้วยตนเอง เพื่อทำการล้างจมูกต่อที่บ้าน ซึ่งโดยทั่วไป ผู้ป่วยควรล้างจมูก หลังจากที่แพทย์เอาวัสดุห้ามเลือดออกแล้ว ประมาณ48 ชั่วโมง ถ้าไม่มีเลือดออกที่ผิดปกติ  ผู้ป่วยควรล้างจมูกทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่น วันละ 2 – 4 ครั้ง ในช่วงหลังเอาวัสดุห้ามเลือดออกใหม่ ๆ  อาจจะมีไข้ หรือมีอาการบวม หรือรู้สึกติดๆ ขัดๆ ตึงๆคล้ายมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในโพรงจมูกหรือมีเสียงเปลี่ยนได้  ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์  หลังจากที่แพทย์เอาวัสดุห้ามเลือดออกแล้ว 24-48 ชั่วโมง เยื่อบุจมูกอาจบวมมากขึ้น ทำให้อาการคัดจมูกมากขึ้นได้  ดังนั้นจึงควรนอนศีรษะสูง โดยใช้หมอนหนุน หรือนอนบนที่นอนที่สามารถปรับความเอียงได้  อมและประคบน้ำแข็งบ่อยๆบริเวณหน้าผากหรือลำคอ ในช่วงสัปดาห์แรก  เพื่อลดอาการบวมและเลือดออกบริเวณที่ทำผ่าตัด           

            โดยทั่วไป ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยจะกลับบ้านได้ หลังผ่าตัด 3-4 วัน แพทย์จะให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์   ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ  แต่ควรหลีก
เลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรงๆ   การแคะจมูก หรือการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก  การออกแรงมาก   การเล่นกีฬาที่หักโหม หรือยกของหนักหลังผ่าตัด  เพราะอาจทำให้มีเลือดออกจากแผลที่เยื่อบุจมูกได้  ถ้ามีเลือด
ออกจากจมูกหรือไหลลงคอ ควรนอนพัก ยกศีรษะสูง  หยอดยาหดหลอดเลือดชนิดหยอดจมูกเพื่อห้ามเลือดที่แพทย์สั่งไว้ให้ 3-4 หยดในโพรงจมูกแต่ละข้าง  นำน้ำแข็งมาประคบบริเวณหน้าผากหรือคอ  อมน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุด  การประคบ หรืออมน้ำแข็ง  ควรประคบหรืออมประมาณ 10 นาที แล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาที  แล้วค่อยประคบหรืออมใหม่เป็นเวลา 10 นาที  ทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อยๆ    ถ้าเลือดออกไม่หยุด หรือออกมากผิดปกติ เช่น เป็นถ้วยแก้ว ควรรีบมาโรงพยาบาลทันที

           

ภาวะแทรกซ้อน  ที่อาจเกิดจากการผ่าตัด  ได้แก่  บริเวณที่ผ่าตัดติดเชื้อ,  การมีเลือดออกในเยื่อบุผนังกั้นช่องจมูก (septal hematoma)  ถ้ามีการติดเชื้อเกิดขึ้น  อาจมีการยุบตัวของผนังกั้นช่องจมูก  ทำให้ดั้งจมูกยุบ (saddle nose deformity), การเกิดอาการชาที่ริมฝีปากบนบริเวณฟัน 4 ซี่หน้า หากเกิดขึ้น อาจเ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ผนังกั้นช่องจมูกคด...ผ่าตัดแก้ไขอย่างไร (Septoplasty) รศ นพ ปารยะอาศนะเสนสาขาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้ ภาควิชาโสตนาสิกลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล การที่มีผนังกั้นช่องจมูกคด (deviated โพรง) จะทำให้มีอาการคัดจมูกข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่งได้นอกจากนั้นอาจเป็นสาเหตุของการปวดในโพรงจมูก (sinonasal ความเจ็บปวด), ไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่กลับเป็นซ้ำ (เกิดซ้ำไซนัสอักเสบเฉียบพลัน), ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง), โรคริดสีดวงจมูก (โพรงจมูกโปลิ), โรคของหูชั้นกลาง [เช่นการอุดตันของท่อยูสเตเชียน (ความผิดปกติของ eustachian tube) ทำให้มีหูอื้อหรือเสียงดังในหู], เลือดกำเดาไหล (epistaxis) และและอาการนอนกรน (นอนกรน) / หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (ผิวสวยภายใต้แสง) การผ่าตัดแก้ไขภาวะดังกล่าวทำโดยการผ่าตัดผ่านช่องจมูกโดยจะไม่มีแผลหรือรอยผ่าตัดให้เห็นภายนอกยกเว้นในรายที่ผนังกั้นช่องจมูกคดนั้นอยู่บริเวณด้านหน้ามากอาจมีแผลเล็กๆที่ผิวหนังบริเวณผนังกั้นช่องจมูกทางด้านหน้าส่วนล่างซึ่งเล็กและแทบมองไม่เห็นแพทย์จะเย็บแผลผ่าตัดในโพรงจมูกด้วยไหมละลายการผ่าตัดนี้บางครั้งจะทำร่วมกับการใช้คลื่นความถี่วิทยุลดขนาดของเยื่อบุจมูก การผ่าตัดรักษาโรคไซนัสอักเสบหรือโรคริดสีดวงจมูกโดยวิธีการส่องกล้อง การผ่าตัดนี้อาจใช้ยาชาเฉพาะที่หรือวิธีดมยาสลบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและผู้ป่วย    ก่อนผ่าตัดแพทย์จะตรวจความสมบูรณ์ของร่างกายและประเมินความพร้อมของผู้ป่วยก่อนผ่าตัดเช่นการตรวจเลือดปัสสาวะถ่ายภาพรังสีปอดหรือตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วแต่ความจำเป็นในผู้ป่วยแต่ละรายสำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาบางชนิดเช่นยาขยายหลอดเลือด ยาแอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือดแพทย์อาจให้หยุดยาดังกล่าวก่อนผ่าตัดหลายวันผู้ป่วยควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเช่นพักผ่อนอย่างเพียงพอหลีกเลี่ยงคนรอบข้างที่ไม่สบายเพื่อป้องกันไข้หวัดหรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจซึ่งอาจทำให้ต้องเลื่อนการผ่าตัด  การใช้ยาชาเฉพาะที่ถ้าแพทย์ทำผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ผู้ป่วยสามารถมาโรงพยาบาลวันที่นัดทำผ่าตัดได้เลยการใช้ยาชาเฉพาะที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นใจสั่นหน้ามืดเป็นลมหูอื้อแต่อาการเหล่านี้มักหายได้เอง การดมยาสลบผู้ป่วยจะต้องเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาล 1 วันก่อนผ่าตัดเพื่อวิสัญญีแพทย์จะได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดมยาสลบในวันรุ่งขึ้นที่จะผ่าตัดคืนวันก่อนผ่าตัดแพทย์จะให้งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืนเพื่อป้องกันการสำลักอาหารและน้ำลงปอดเวลาดมยาสลบการดมยาสลบมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นเสียงแหบจากสายเสียงบวมปอดอักเสบจากการสูดสำลักหายใจลำบากเนื่องจากทางเดินหายใจบวมแต่ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมากในรายที่มีอาการดังกล่าวรุนแรงมากอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ (endotracheal tube) ไว้หลังผ่าตัดเสร็จและนอนในหอผู้ป่วยหลังผ่าตัด 1 คืนเพื่อสังเกตการหายใจหลังผ่าตัดคืนวันก่อนผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับการตัดขนจมูกเพื่อเตรียมบริเวณที่จะทำการผ่าตัด  หลังผ่าตัดจะมีวัสดุที่ใช้ในการห้ามเลือดอยู่ในโพรงจมูกทั้งสองข้างทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูกจึงต้องหายใจทางปากจนกว่าแพทย์จะเอาวัสดุห้ามเลือดออกซึ่งอาจทำให้คอแห้งแสบหรือเจ็บคอได้จึงควรจิบน้ำและกลั้วคอบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดช่องปากและคอบ่อย ๆ ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บจมูกจากแผลผ่าตัดบ้างหรือมีเลือดปนน้ำมูกหรือน้ำลายได้บ้างผู้ป่วยไม่ควรดึงวัสดุห้ามเลือดในโพรงจมูกออกเองเพราะอาจทำให้มีเลือดออกมากได้หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับยาต้านจุลชีพ ยาแก้ปวด ยาลดบวม ยาหดหลอดเลือดชนิดหยอดจมูกเพื่อห้ามเลือด (เฉพาะ decongestant) ยาลดอาการคันจามคัดจมูกน้ำมูกไหลและจะมีสายให้น้ำเกลืออยู่ที่แขนเมื่อผู้ป่วยรับประทานได้ดีพอควรแพทย์จะเอาสายให้น้ำเกลือออกผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเช่นพาราเซตามอลเมื่อจำเป็นได้ แพทย์จะนำวัสดุที่ใส่ไว้ในโพรงจมูกออกภายใน 24-48 ชั่วโมง หลังผ่าตัด พยาบาลจะสอนให้ล้างทำความสะอาดช่องจมูกด้วยตนเอง เพื่อทำการล้างจมูกต่อที่บ้าน ซึ่งโดยทั่วไป ผู้ป่วยควรล้างจมูก หลังจากที่แพทย์เอาวัสดุห้ามเลือดออกแล้ว ประมาณ48 ชั่วโมง ถ้าไม่มีเลือดออกที่ผิดปกติ ผู้ป่วยควรล้างจมูกทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่น วันละ 2 – 4 ครั้ง ในช่วงหลังเอาวัสดุห้ามเลือดออกใหม่ ๆ อาจจะมีไข้ หรือมีอาการบวม หรือรู้สึกติดๆ ขัดๆ ตึงๆคล้ายมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในโพรงจมูกหรือมีเสียงเปลี่ยนได้ ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากที่แพทย์เอาวัสดุห้ามเลือดออกแล้ว 24-48 ชั่วโมง เยื่อบุจมูกอาจบวมมากขึ้น ทำให้อาการคัดจมูกมากขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรนอนศีรษะสูง โดยใช้หมอนหนุน หรือนอนบนที่นอนที่สามารถปรับความเอียงได้ อมและประคบน้ำแข็งบ่อยๆบริเวณหน้าผากหรือลำคอ ในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อลดอาการบวมและเลือดออกบริเวณที่ทำผ่าตัด โดยทั่วไปถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยจะกลับบ้านได้หลังผ่าตัด 3-4 วันแพทย์จะให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติแต่ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ การแคะจมูกหรือการกระทบกระเทือนบริเวณจมูกการออกแรงมากการเล่นกีฬาที่หักโหมหรือยกของหนักหลังผ่าตัดเพราะอาจทำให้มีเลือดออกจากแผลที่เยื่อบุจมูกได้ถ้ามีเลือดออกจากจมูกหรือไหลลงคอควรนอนพักยกศีรษะสูงหยอดยาหดหลอดเลือดชนิดหยอดจมูกเพื่อห้ามเลือดที่แพทย์สั่งไว้ให้ 3-4 หยดในโพรงจมูกแต่ละข้างนำน้ำแข็งมาประคบบริเวณหน้าผากหรือคออมน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุดการประคบหรืออมน้ำแข็งควรประคบหรืออมประมาณ 10 นาทีแล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยประคบหรืออมใหม่เป็นเวลา 10 นาทีทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ ถ้าเลือดออกไม่หยุดหรือออกมากผิดปกติเช่นเป็นถ้วยแก้วควรรีบมาโรงพยาบาลทันที           ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากการผ่าตัดได้แก่บริเวณที่ผ่าตัดติดเชื้อ ทำให้ดั้งจมูกยุบอาจมีการยุบตัวของผนังกั้นช่องจมูกถ้ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นการมีเลือดออกในเยื่อบุผนังกั้นช่องจมูก (ของผนังกั้นเลือด) (อานจมูก deformity) การเกิดอาการชาที่ริมฝีปากบนบริเวณฟัน 4 ซี่หน้าหากเกิดขึ้นอาจเ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
(Septoplasty) รศ นพ ปารยะ     นาสิกลาริงซ์วิทยา    คณะแพทยศาสตร์ศิริราช (กะบังจมูก) (ความเจ็บปวดทางจมูก) (ไซนัสอักเสบเฉียบพลันเกิดขึ้นอีก), ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง), โรคริดสีดวงจมูก (ติ่งจมูก) โรคของหูชั้นกลาง [เช่นการอุดตันของท่อยูสเตเชียน (ความผิดปกติของท่อยูสเตเชีย) ทำให้มีหูอื้อหรือเสียง ดังในหู], เลือดกำเดาไหล (กำเดา) และอาการนอนกรน (นอนกรน) และ / หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (หยุดหายใจขณะหลับ)  การผ่าตัดแก้ไขภาวะดังกล่าวทำโดยการผ่าตัดผ่านช่องจมูก ซึ่งเล็กและแทบมองไม่เห็น การผ่าตัดนี้บางครั้งจะทำร่วมกับ การผ่าตัดรักษาโรคไซนัสอักเสบ  หรือวิธีดมยาสลบ และผู้ป่วยก่อนผ่าตัดแพทย์จะตรวจความสมบูรณ์ของร่างกาย เช่นการตรวจเลือดปัสสาวะถ่ายภาพรังสีปอดหรือตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เช่นยาขยายหลอดเลือด, ยาแอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเช่นพักผ่อนอย่างเพียงพอหลีกเลี่ยงคนรอบข้างที่ไม่สบายเพื่อป้องกันไข้หวัด การใช้ยาชาเฉพาะที่ เช่นใจสั่นหน้ามืดเป็นลมหูอื้อ  1 วันก่อนผ่าตัด คืนวันก่อนผ่าตัด และน้ำลงปอดเวลาดมยาสลบการดมยาสลบ เช่นเสียงแหบจากสายเสียงบวมปอดอักเสบจากการสูดสำลักหายใจลำบากเนื่องจากทางเดินหายใจบวม ในรายที่มีอาการดังกล่าวรุนแรงมากอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ (ท่อช่วยหายใจ) ไว้หลังผ่าตัดเสร็จและนอนในหอผู้ป่วยหลังผ่าตัด 1 คืน ผู้ป่วยจะได้รับการตัดขนจมูก  ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก ซึ่งอาจทำให้คอแห้งแสบหรือเจ็บคอได้จึงควรจิบน้ำและกลั้วคอบ้วนปาก        เพราะอาจทำให้มีเลือดออกมากได้ ยาแก้ปวด, ยาลดบวม, (เฉพาะ decongestant), ยาลดอาการคันจามคัดจมูกน้ำมูกไหลและจะมีสายให้น้ำเกลืออยู่ที่แขนเมื่อผู้ป่วยรับประทานได้ดีพอควรแพทย์จะเอาสายให้น้ำเกลือออกผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเช่นพาราเซตามอล 24-48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด เพื่อทำการล้างจมูกต่อที่บ้านซึ่งโดยทั่วไปผู้ป่วยควรล้างจมูก ประมาณ 48 ชั่วโมงถ้าไม่มีเลือดออกที่ผิดปกติ วันละ 2-4 ครั้ง ๆ อาจจะมีไข้หรือมีอาการบวมหรือรู้สึกติดๆขัด ๆ 1 สัปดาห์ 24-48 ชั่วโมงเยื่อบุจมูกอาจบวมมากขึ้นทำให้อาการคัดจมูกมากขึ้นได้ดังนั้นจึงควรนอนศีรษะสูงโดยใช้หมอนหนุน ในช่วงสัปดาห์แรก                       ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยจะกลับบ้านได้หลังผ่าตัด 3-4 วัน 1 สัปดาห์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ การแคะจมูกหรือการกระทบกระเทือนแห่งในจมูกการออกแรงมากการเล่นกีฬาที่หักโหมหรือยกของหนักหน้าผ่าตัด ถ้ามีเลือดออกจากจมูกหรือไหลลงคอควรนอนพักยกศีรษะสูง 3-4 หยดในโพรงจมูกแต่ละข้าง อมน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุดการประคบหรืออมน้ำแข็งควรประคบหรืออมประมาณ 10 นาทีแล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยประคบหรืออมใหม่เป็นเวลา 10 นาทีทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ ถ้าเลือดออกไม่หยุดหรือออก มากผิดปกติเช่นเป็นถ้วยแก้ว ที่อาจเกิดจากการผ่าตัด ได้แก่ บริเวณที่ผ่าตัดติดเชื้อ, (ห้อผนัง) ถ้ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นอาจมีการยุบตัวของผนังกั้นช่องจมูกทำให้ดั้งจมูกยุบ (อานพิการจมูก) 4 ซี่หน้าหากเกิดขึ้นอาจเ

 










 







    



 







 











           

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ผนังกั้นช่องจมูกคด . . . . . . . ผ่าตัดแก้ไขอย่างไร  ( septoplasty )

รึเปล่า

รศ . นพ . ปารยะ   อาศนะเสน




สาขาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้    ภาควิชาโสตนาสิกลาริงซ์วิทยา   คณะอะไรยาอะไรรึเปล่า โรงพยาบาลศิริราช





คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล การที่มีผนังกั้นช่องจมูกคด  ( deviated septum ช่องจมูก )   จะทำให้มีอาการคัดจมูกข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่งได้  นอกจากนั้นอาจเป็นสาเหตุของการปวดในโพรงจมูก  ( ความเจ็บปวด sinonasal )   ไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่กลับเป็นซ้ำ  ( กำเริบเฉียบพลันไซนัสอักเสบ ) ไซนัสอักเสบเรื้อรัง  ( ไซนัสอักเสบเรื้อรัง , ( จมูก )  โรคริดสีดวงจมูก  polyp ) โรคของหูชั้นกลาง  ( Eustachian tube Dysfunction ) [ เช่นการอุดตันของท่อยูสเตเชียน ทำให้มีหูอื้อค็อคเสียงดังในหู ]เลือดกำเดาไหล  ( Mopza )   และอาการนอนกรน ( กรน )  และ / หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ( ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ) รึเปล่า

การผ่าตัดแก้ไขภาวะดังกล่าว  ทำโดยการผ่าตัดผ่านช่องจมูก  โดยจะไม่มีแผลหรือรอยผ่าตัดให้เห็นภายนอก  ยกเว้นในรายที่ผนังกั้นช่องจมูกคดนั้นอยู่บริเวณด้านหน้ามาก
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: