A drought is a period of drier-than

A drought is a period of drier-than-normal conditions that results in water-related problems. Precipitation (rain or snow) falls in uneven patterns across the country. The amount of precipitation at a particular location varies from year to year, but over a period of years, the average amount is fairly constant. In the deserts of the Southwest, the average precipitation is less than 3 inches per year. In contrast, the average yearly precipitation in Atlanta is about 50 inches.

The amount of rain and snow also varies with the seasons. In Georgia, most of the yearly precipitation falls during winter, early spring, and in July. Even if the total amount of rainfall for a year is about average, rainfall shortages can occur during a period when moisture is critically needed for plant growth, such as in the early summer.

When little or no rain falls, soils can dry out and plants can die. When rainfall is less than normal for several weeks, months, or years, the flow of streams and rivers declines, water levels in lakes and reservoirs fall, and the depth to water in wells increases. If dry weather persists and water-supply problems develop, the dry period can become a drought.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภัยแล้งมีระยะเวลาเงื่อนไข drier กว่าปกติที่เป็นผลในปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ฝน (ฝนหรือหิมะ) อยู่ในรูปแบบที่ไม่สม่ำเสมอทั่วประเทศ จำนวนฝนที่ดังไปจนถึงในแต่ละปี แต่จะค่อนข้างคงในช่วงปี เฉลี่ย ในทะเลทรายของเดิน ฝนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3 นิ้วต่อปี ในทางตรงกันข้าม ฝนรายปีเฉลี่ยในแอตแลนตาได้ประมาณ 50 นิ้วยอดของฝนและหิมะยังแตกต่างกันไปด้วย ในจอร์เจีย ส่วนใหญ่ของฝนรายปีตกอยู่ใน ช่วงฤดู หนาว ฤดูใบไม้ผลิต้น และ ในเดือนกรกฎาคม ถ้ายอดรวมของปริมาณน้ำฝนในปีที่เกี่ยวกับค่าเฉลี่ย การขาดแคลนปริมาณน้ำฝนอาจเกิดขึ้นระหว่างระยะเวลาเมื่อความชื้นถึงจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตพืช เช่นในช่วงต้นฤดูร้อนเมื่อน้อย หรือไม่มีฝนตก ดินเนื้อปูนสามารถแห้งออก และพืชสามารถตาย เมื่อปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปกติ สำหรับหลายสัปดาห์ เดือน ปี ปฏิเสธกระแสของและแม่น้ำลำธาร ระดับน้ำในทะเลสาบ และอ่างเก็บน้ำตก และความลึกของน้ำในบ่อเพิ่มขึ้น ถ้าอากาศแห้งยังคงอยู่ และพัฒนาปัญหาน้ำ ระยะเวลาแห้งจะกลายเป็น ภัยแล้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภัยแล้งเป็นช่วงเวลาของสภาพแห้งกว่าปกติที่ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำที่เกี่ยวข้องกับ ปริมาณน้ำฝน (ฝนหรือหิมะ) ตกอยู่ในรูปแบบที่ไม่สม่ำเสมอทั่วประเทศ ปริมาณฝนที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาจำนวนเงินเฉลี่ยที่เป็นค่าคงที่เป็นธรรม ในทะเลทรายของภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่ฝนเฉลี่ยน้อยกว่า 3 นิ้วต่อปี ในทางตรงกันข้ามฝนเฉลี่ยต่อปีในแอตแลนตาอยู่ที่ประมาณ 50 นิ้ว. ปริมาณฝนและหิมะยังแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ในจอร์เจียส่วนใหญ่ของการเกิดฝนตกอยู่เป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูหนาว, ฤดูใบไม้ผลิและในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าจำนวนของปริมาณน้ำฝนเป็นปีที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยของการขาดแคลนปริมาณน้ำฝนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาเมื่อความชื้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเติบโตของพืชเช่นในช่วงต้นฤดูร้อน. เมื่อฝนน้อยหรือไม่มีเลยตกอยู่ดินสามารถแห้งออกและพืช สามารถตาย เมื่อปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปกติเป็นเวลาหลายสัปดาห์เดือนหรือปีที่ผ่านมาการไหลของลำธารและแม่น้ำลดลงระดับน้ำในทะเลสาบและอ่างเก็บน้ำลดลงและลึกลงไปในน้ำที่เพิ่มขึ้นในหลุม หากยังคงมีสภาพอากาศแห้งและปัญหาน้ำประปาพัฒนาระยะเวลาแห้งจะกลายเป็นภัยแล้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภัยแล้งคือระยะเวลาแห้งกว่าปกติเงื่อนไขที่เป็นผลลัพธ์ในน้ำ กับปัญหา การตกตะกอน ( ฝนหรือหิมะ ) อยู่ในรูปแบบไม่สม่ำเสมอทั่วทั้งประเทศ ปริมาณฝนที่สถานที่ที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่ในช่วงระยะเวลาของปี ปริมาณเฉลี่ยค่อนข้างคงที่ ในทะเลทรายตะวันตกเฉียงใต้ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่า 3 นิ้วต่อปี ในทางตรงกันข้าม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปีในแอตแลนต้าประมาณ 50 นิ้ว

ปริมาณฝนและหิมะยังขึ้นอยู่กับฤดูกาล ในจอร์เจีย , ที่สุดของฝนรายปีอยู่ในช่วงฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าปริมาณฝนสำหรับปีเกี่ยวกับเฉลี่ยฝนที่ขาดแคลนสามารถเกิดขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลาเมื่อความชื้นเป็นวิกฤตที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช เช่น ในช่วงต้นฤดูร้อน .

เมื่อน้อยหรือไม่มีฝนตก ดินจะแห้งและพืชตายได้ เมื่อฝนตกน้อยกว่าปกติเป็นเวลาหลายสัปดาห์ , เดือนหรือปี , การไหลของลำธารและแม่น้ำลดลง ระดับน้ำในทะเลสาบและอ่างเก็บน้ำพัง และความลึกของน้ำเพิ่มขึ้นในเวลส์ถ้าอากาศแห้งยังคงอยู่และปัญหาประปาพัฒนา เวลาแห้งจะกลายเป็นภัยแล้ง