Traveling on airplanes is routine f

Traveling on airplanes is routine for millions of people. Yet most travelers never think about the security precautions that are taken at airports. When people check in at airports, their luggage and carry-on bags have to go through an elaborate screening process. The machines that perform this duty are typically metal detectors or X-ray scanners.

Metal Detectors
The principle of a metal detector is quite simple. Inside the machine are wire coils. A transmitter sends an electronic current through the coils. The current flow goes from clockwise to counterclockwise and back to clockwise again. This current creates an electromagnetic field. The direction of the current flow is reversed several thousand times every second. After a few seconds, this current or pulse slows down and disperses. Any metallic object like keys, coins, a knife or even a cell phone which happens to enter this electromagnetic field will influence the speed of the current. If the pulse hits a metallic object, it will take a few milliseconds longer for the magnetic pulse to go away. This delay sets off an alarm.

CT Baggage Scanners
When a passenger puts their bags through an X-ray machine, they go through a type of electromagnetic energy. Unlike visible light, humans cannot see X-rays. In hospitals, these X-ray energy beams can see through skin tissue to detect broken bones, tumors or other injuries. In an airport, X-ray technology is used in CT (computer tomography) scanners. Suitcases from passengers ride along a conveyor belt and pass through the hollow CT scanning machines. The X-rays bounce off the objects inside the suitcases, measuring the density and mass of each object. All that data is immediately entered into a computer. CT scanners are more complex than metal detectors and can analyze chemical components in addition to metallic objects. If the density and mass of items in the suitcase matches items that are known to be dangerous, the objects are removed from the suitcase.

High-tech Scanners

One limitation of CT scanning technology is that bags are scanned too slowly. This means only bags from suspicious passengers are scanned. Since this is not that effective, newer high-tech systems have been developed that are capable of detecting chemical components in individual items. The X-ray scanners most people see in airports are for screening carry-on bags. But these scanners are too small to scan all the luggage that goes into the cargo section of the plane. In busy airports, large trucks with built-in X-ray scanners (up to 5—7 meters long) are used. These trucks pull up beside containers that hold the suitcases, bags and other cargo. The entire container is scanned at once.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เดินทางบนเครื่องบินเป็นประจำนับล้านคน ยัง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เคยคิดว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ถ่ายที่สนามบิน เมื่อคนเช็คอินที่สนามบิน กระเป๋าหิ้วและกระเป๋าของพวกเขาต้องไปผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างประณีต เครื่องจักรที่ทำหน้าที่นี้มีสแกนเนอร์เครื่องเอกซเรย์หรือเครื่องตรวจจับโลหะโดยทั่วไปเครื่องตรวจจับโลหะหลักการของเครื่องตรวจจับโลหะได้ค่อนข้างง่าย ภายในเครื่องมีขดลวดลวด เครื่องส่งปัจจุบันอิเล็กทรอนิกส์ผ่านขดลวด กระแสปัจจุบันไปจากตามเข็มนาฬิกาทวนเข็มนาฬิกา และกลับตามเข็มนาฬิกาอีกครั้ง ปัจจุบันนี้สร้างเป็นฟิลด์แม่เหล็กไฟฟ้า ทิศทางของกระแสปัจจุบันเป็นย้อนกลับหลายพันเวลาทุกวินาที หลังจากไม่กี่วินาที ปัจจุบันนี้หรือชีพจรช้าลง และ disperses วัตถุโลหะเช่นคีย์ เหรียญ มีด หรือแม้แต่โทรศัพท์ซึ่งป้อนฟิลด์สนามแม่เหล็กนี้เกิดขึ้นจะมีผลต่อความเร็วของปัจจุบัน ถ้าชีพจรนิยมวัตถุโลหะ มันจะยาวสำหรับหมุนแม่เหล็กให้ไปกี่ล้านวินาที หน่วงเวลานี้ตั้งค่าปิดการเตือนCT สแกนเนอร์กระเป๋าเดินทางเมื่อผู้โดยสารทำให้ตนผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์เป็น พวกเขาผ่านชนิดของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากแสงที่มองเห็น มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ ในโรงพยาบาล คานพลังงานเอกซเรย์เหล่านี้สามารถดูผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังตรวจกระดูกหัก เนื้องอกหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ สนามบิน ใช้เทคโนโลยีเอกซเรย์ใน CT สแกนเนอร์ (คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์) กระเป๋าเดินทางจากผู้โดยสารนั่งไปตามสายพาน และผ่าน CT กลวงการสแกนเครื่อง รังสีเอกซ์ตีกลับปิดวัตถุภายในกระเป๋าเดินทาง วัดความหนาแน่นและมวลของวัตถุแต่ละชิ้น ทั้งหมดที่เป็นทันทีป้อนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ CT สแกนเนอร์มีความซับซ้อนมากกว่าเครื่องตรวจจับโลหะ และสามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมีนอกจากวัตถุโลหะ ถ้าความหนาแน่นและมวลของในกระเป๋าเดินทางตรงกับสินค้าที่ต้องมีอันตราย วัตถุจะถูกเอาออกจากกระเป๋าเดินเครื่องสแกนไฮเทคข้อจำกัดหนึ่งของ CT สแกนเทคโนโลยีคือ ว่า กระเป๋าจะสแกนช้าเกินไป ซึ่งหมายความว่า จะสแกนเฉพาะถุงจากผู้โดยสารที่น่าสงสัย เนื่องจากนี่ไม่ใช่ที่มีประสิทธิภาพ ระบบไฮเทครุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาที่มีความสามารถในการตรวจสอบส่วนประกอบทางเคมีในแต่ละรายการ สแกนเนอร์เครื่องเอ็กซ์เรย์ที่เห็นคนส่วนใหญ่ในสนามบินจะคัดกรองถุงหิ้ว แต่นี้สแกนเนอร์มีขนาดเล็กเกินไปสแกนสัมภาระทั้งหมดที่จะมีในส่วนของเครื่องบินขนส่งสินค้า ในสนามบินว่าง รถบรรทุกขนาดใหญ่กับสแกนเนอร์เอกซเรย์ภายใน (ถึง 5 – 7 เมตร) ใช้ รถบรรทุกเหล่านี้ดึงขึ้นข้างกดค้างไว้กระเป๋าเดินทาง กระเป๋า และสินค้าอื่น ๆ สแกนภาชนะทั้งหมดในครั้งเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเดินทางบนเครื่องบินเป็นประจำสำหรับผู้คนนับล้าน แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เคยคิดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการถ่ายที่สนามบิน เมื่อคนเช็คอินที่สนามบินกระเป๋าเดินทางของพวกเขาและดำเนินการเกี่ยวกับถุงต้องไปผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างละเอียด เครื่องที่ทำหน้าที่นี้โดยทั่วไปจะมีเครื่องตรวจจับโลหะหรือสแกนเนอร์ X-ray. ตรวจจับโลหะหลักการของเครื่องตรวจจับโลหะค่อนข้างง่าย ภายในเครื่องที่มีขดลวดลวด เครื่องส่งสัญญาณจะส่งกระแสอิเล็กทรอนิกส์ผ่านขดลวด การไหลของกระแสไปจากทวนเข็มนาฬิกาเพื่อไปและกลับมาอีกครั้งตามเข็มนาฬิกา ปัจจุบันนี้จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ทิศทางของการไหลของกระแสกลับหลายพันครั้งทุกวินาที หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีนี้ปัจจุบันหรือชีพจรช้าลงและการกระจาย วัตถุที่เป็นโลหะเช่นกุญแจเหรียญดหรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือที่เกิดขึ้นที่จะเข้าสู่สนามแม่เหล็กไฟฟ้านี้จะมีผลต่อความเร็วของปัจจุบัน ถ้าชีพจรฮิตวัตถุที่เป็นโลหะก็จะใช้เวลาไม่กี่มิลลิวินาทีอีกต่อไปสำหรับการเต้นของชีพจรแม่เหล็กหายไป ความล่าช้านี้ชุดออกเตือนภัย. CT สแกนเนอร์สัมภาระเมื่อผู้โดยสารทำให้กระเป๋าของพวกเขาผ่านเครื่อง X-ray พวกเขาไปผ่านชนิดของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากแสงที่มองเห็นมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ ในโรงพยาบาลเหล่านี้คานพลังงาน X-ray สามารถดูผ่านเนื้อเยื่อผิวการตรวจสอบกระดูกหักเนื้องอกหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ในสนามบิน, เทคโนโลยี X-ray ที่ใช้ใน CT (เอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์) สแกนเนอร์ กระเป๋าเดินทางจากผู้โดยสารนั่งพร้อมสายพานลำเลียงและผ่านเครื่องสแกน CT กลวง รังสีเอกซ์กระเด็นวัตถุที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง, การวัดความหนาแน่นและมวลของวัตถุแต่ละ ทั้งหมดที่มีการป้อนข้อมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที CT สแกนเนอร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเครื่องตรวจจับโลหะและสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีที่นอกเหนือไปจากวัตถุที่เป็นโลหะ หากมีความหนาแน่นและมวลของรายการในกระเป๋าเดินทางตรงกับรายการที่เป็นที่รู้จักกันจะเป็นอันตรายวัตถุที่จะถูกลบออกจากกระเป๋าเดินทาง. สแกนเนอร์ไฮเทคหนึ่งข้อ จำกัด ของเทคโนโลยีการสแกน CT คือว่ากระเป๋าจะสแกนช้าเกินไป ซึ่งหมายความว่าถุงจากผู้โดยสารที่น่าสงสัยจะถูกสแกน ตั้งแต่นี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ระบบเทคโนโลยีชั้นสูงใหม่ได้รับการพัฒนาที่มีความสามารถในการตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีในแต่ละรายการ สแกนเนอร์เอ็กซ์เรย์ที่คนส่วนใหญ่เห็นในสนามบินที่มีการคัดกรองที่นำติดตัวถุง แต่สแกนเนอร์เหล่านี้มีขนาดเล็กเกินไปที่จะสแกนกระเป๋าเดินทางที่จะเข้าสู่ส่วนของเครื่องบินขนส่งสินค้า ในสนามบินที่วุ่นวายรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีในตัวสแกนเนอร์เอ็กซ์เรย์ (ไม่เกิน 5-7 เมตรยาว) จะใช้ รถบรรทุกเหล่านี้ดึงขึ้นข้างภาชนะที่ถือกระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าและสินค้าอื่น ๆ ภาชนะทั้งหมดจะถูกสแกนในครั้งเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เดินทางบนเครื่องบินเป็นปกติสำหรับผู้คนนับล้าน แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เคยคิดถึงความปลอดภัย มาตรการป้องกันที่ถ่ายที่สนามบิน เมื่อมีคนเช็คอินที่สนามบินของพวกเขาที่เก็บและถือถุงต้องผ่านกระบวนการคัดกรองที่ซับซ้อน เครื่องที่ทำหน้าที่นี้ โดยทั่วไป เครื่องตรวจจับโลหะ หรือ เครื่องเอกซเรย์ เครื่องตรวจจับโลหะ

หลักการของเครื่องตรวจจับโลหะได้ค่อนข้างง่าย ภายในเครื่องมี ลวด ขดลวด เครื่องส่งกระแสไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ผ่านขดลวด การไหลของกระแสเริ่มจากตามเข็มนาฬิกาทวนเข็มนาฬิกา และตามเข็มนาฬิกา จะกลับไปอีก กระแสนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ทิศทางของการไหลของกระแสจะกลับหลายพันครั้งทุกวินาที หลังจากไม่กี่วินาทีปัจจุบันหรือชีพจรช้าลงและกระจาย . ใด ๆที่ทำด้วยโลหะเช่นกุญแจ , เหรียญ , มีด หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือที่เกิดขึ้นระบุสนามแม่เหล็กไฟฟ้านี้จะมีผลต่อความเร็วของปัจจุบัน ถ้าชีพจรนิยมวัตถุโลหะ มันจะใช้เวลาเพียงไม่กี่มิลลิวินาทีนานชีพจรแม่เหล็กไป ความล่าช้านี้ตั้งปิดสัญญาณเตือน ซีที สแกน


กระเป๋าเมื่อผู้โดยสารนำกระเป๋าผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ พวกเขาไปผ่านชนิดของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างจากแสงที่มองเห็นมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นรังสีเอกซ์ . โรงพยาบาลในเหล่านี้รังสีเอกซ์พลังงานลำแสงสามารถดูผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังเพื่อตรวจหาเนื้องอกกระดูกแตก หรือการบาดเจ็บอื่น ๆ ในสนามบินด้วย มีการใช้เทคโนโลยีในการสแกน ( เอกซเรย์คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ ) สแกนเนอร์กระเป๋าจากผู้โดยสาร ขี่ไปตามสายพานและผ่านการสแกน CT กลวง เครื่อง รังสีเอกซ์ตีกลับออกวัตถุที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง , วัดความหนาแน่นและมวลของแต่ละวัตถุ ที่ข้อมูลได้ทันทีใส่ลงในคอมพิวเตอร์ CT สแกนเนอร์จะซับซ้อนกว่าเครื่องตรวจจับโลหะและสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีและวัตถุที่เป็นโลหะถ้าความหนาแน่นและมวลของสินค้ากระเป๋าตรงกับรายการที่เป็นที่รู้จักกันจะเป็นอันตราย วัตถุจะถูกเอาออกจากกระเป๋า

สูงเทคโนโลยีสแกนเนอร์

หนึ่งข้อจำกัดของ CT สแกนเทคโนโลยีคือว่าถุงจะสแกนช้ามาก นี้หมายถึงเฉพาะถุงจากผู้โดยสารที่น่าสงสัยจะถูกสแกน ตั้งแต่นี้ไม่ได้เป็นที่มีประสิทธิภาพใหม่สูงระบบได้รับการพัฒนาที่สามารถตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีในแต่ละรายการ . X-ray สแกนเนอร์ คนส่วนใหญ่เห็นในสนามบินสำหรับการแบกกระเป๋า แต่สแกนเนอร์เหล่านี้มีขนาดเล็กเกินไปที่จะสแกนกระเป๋าทั้งหมดที่เข้าไปในสินค้า ส่วนของเครื่องบิน ในสนามบินที่วุ่นวาย , รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่มีในตัวเครื่องเอกซเรย์ ( ถึง 5-7 เมตร ) ใช้รถบรรทุกเหล่านี้ดึงขึ้นข้างภาชนะที่ถือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋า และสินค้าอื่น ๆ ภาชนะบรรจุทั้งหมดถูกสแกนทันที