The aim of this study was to find a

The aim of this study was to find an alternative to synthetic fungicides currently used in the control of
devastating fungal pathogen Botrytis cinerea, the causal agent of grey mould disease of tomato. Antifungal
activities of essential oils obtained from aerial parts of aromatic plants, which belong to the Lamiacea family
such as origanum (Origanum syriacum L. var. bevanii), lavender (Lavandula stoechas L. var. stoechas) and
rosemary (Rosmarinus officinalis L.), were investigated against B. cinerea. Contact and volatile phase effects of
different concentrations of the essential oils were found to inhibit the growth of B. cinerea in a dosedependent
manner. Volatile phase effects of essential oils were consistently found to be more effective on
fungal growth than contact phase effect. A volatile vapour of origanum oil at 0.2 μg/ml air was found to
completely inhibit the growth of B. cinerea. Complete growth inhibition of pathogen by essential oil of
lavender and rosemary was, however, observed at 1.6 μg/ml air concentrations. For the determination of the
contact phase effects of the tested essential oils, origanum oil at 12.8 μg/ml was found to inhibit the growth
of B. cinerea completely. Essential oils of rosemary and lavender were inhibitory at relatively higher
concentrations (25.6 μg/ml). Spore germination and germ tube elongation were also inhibited by the
essential oils tested. Light and scanning electron microscopic (SEM) observations revealed that the essential
oils cause considerable morphological degenerations of the fungal hyphae such as cytoplasmic coagulation,
vacuolations, hyphal shrivelling and protoplast leakage and loss of conidiation. In vivo assays with the
origanum essential oil, being the most efficient essential oil, under greenhouse conditions using susceptible
tomato plants resulted in good protection against grey mould severity especially as a curative treatment. This
study has demonstrated that the essential oils are potential and promising antifungal agents which could be
used as biofungicide in the protection of tomato against B. cinerea.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการหาทางเลือกในการสังเคราะห์สารฆ่าเชื้อราที่ใช้ในปัจจุบันในการควบคุมของเชื้อโรคเชื้อรา Botrytis cinerea มีการทำลายล้างที่สาเหตุของการเกิดโรคราสีเทาของมะเขือเทศ
เชื้อรากิจกรรมของน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับจากส่วนทางอากาศของพืชที่มีกลิ่นหอมซึ่งอยู่ในครอบครัว Lamiacea เช่น Origanum (Origanum syriacum L. var. bevanii), ลาเวนเดอร์ (Lavandula stoechas L. var. stoechas) และโรสแมรี่(Rosmarinus officinalis L. ) ได้รับการตรวจสอบกับซีเนเรียบี ติดต่อและผลกระทบระยะที่มีความผันผวนของความเข้มข้นที่แตกต่างกันของน้ำมันหอมระเหยที่พบในการยับยั้งการเจริญเติบโตของซีเนเรียบีใน dosedependent ลักษณะ ผลกระทบขั้นตอนการระเหยของน้ำมันหอมระเหยที่พบอย่างต่อเนื่องที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเจริญเติบโตของเชื้อรากว่าผลขั้นตอนการติดต่อ ไอระเหยของน้ำมัน Origanum ที่ 0.2 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรอากาศพบว่าสมบูรณ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของซีเนเรียบี สมบูรณ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อโรคจากน้ำมันหอมระเหยจากดอกลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ได้รับการ แต่ตั้งข้อสังเกตที่ 1.6 ไมโครกรัม / มิลลิลิตรความเข้มข้นของอากาศ สำหรับความมุ่งมั่นของผลกระทบระยะติดต่อของน้ำมันหอมระเหยทดสอบน้ำมัน Origanum ที่ 12.8 ไมโครกรัม / มล. พบว่าการยับยั้งการเจริญเติบโตของซีเนเรียบีสมบูรณ์ น้ำมันหอมระเหยจากดอกโรสแมรี่และลาเวนเดอร์เป็นยับยั้งที่ค่อนข้างสูงกว่าความเข้มข้น (25.6 ไมโครกรัม / มล.) สปอร์งอกและการยืดตัวหลอดจมูกข้าวยังถูกยับยั้งโดยน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับการทดสอบ อิเล็กตรอนสแกนแสงและกล้องจุลทรรศน์ (SEM) การสังเกตพบว่าที่สำคัญน้ำมันทำให้เกิดdegenerations ก้านมากของเส้นใยเชื้อราเช่นการแข็งตัวของนิวเคลียส, vacuolations, shrivelling hyphal และการรั่วไหลโปรโตพลาและการสูญเสีย conidiation ในการตรวจร่างกายกับOriganum น้ำมันหอมระเหยเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดภายใต้เงื่อนไขเรือนกระจกโดยใช้ไวต่อมะเขือเทศผลในการป้องกันที่ดีกับความรุนแรงราสีเทาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาทางการแพทย์ นี้การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าน้ำมันหอมระเหยเป็นตัวแทนต้านเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นและมีแนวโน้มที่สามารถนำมาใช้เป็นbiofungicide ในการป้องกันมะเขือเทศกับซีเนเรียบี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อค้นหาทางเลือกสารเคมีสังเคราะห์ที่ใช้ในปัจจุบันในการควบคุมเชื้อรา Botrytis cinerea
ทำลายล้างเชื้อโรค ตัวแทนสาเหตุโรคเชื้อราสีเทาของมะเขือเทศ ฤทธิ์
ของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากส่วนภาพถ่ายทางอากาศของพืชหอม ซึ่งเป็นของครอบครัว lamiacea
เช่น Origanum ( Origanum syriacum L . var . bevanii )ลาเวนเดอร์ ลาเวนเดอร์ stoechas L . var . stoechas ) และ
โรสแมรี่ ( rosmarinus officinalis L . ) ศึกษากับบีขาว . ติดต่อระเหยและระยะที่ผลของ
ระดับความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยที่พบเพื่อยับยั้งการเจริญของ B . ขาวใน dosedependent
ลักษณะ ระเหยของน้ำมันหอมระเหย ระยะที่ผลเสมอพบว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
ติดต่อระยะการเจริญเติบโตมากกว่าผล ไอระเหยของน้ำมัน Origanum 0.2 μ g / ml พบว่าอากาศ
สมบูรณ์ยับยั้งการเจริญของ B . cinerea . สมบูรณ์ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยน้ำมันหอมระเหยของลาเวนเดอร์และโรสแมรี่
ถูก อย่างไรก็ตาม สังเกตที่ 1.6 μ g / ml ปริมาณอากาศ การหา
ติดต่อระยะผลของการทดสอบน้ํามันหอมระเหย Origanum น้ำมันที่ 128 μ g / ml พบว่ายับยั้งการเจริญเติบโต
B . ขาวสนิท น้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่และลาเวนเดอร์ถูกยับยั้งที่ความเข้มข้นค่อนข้างสูง
( 25.6 μ g / ml ) เปอร์เซ็นต์การงอกของสปอร์ germ tube และยังยับยั้งโดย
ระเหยทดสอบ แสงและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกน ( SEM ) สังเกตพบว่าจำเป็น
น้ำมันให้มาก degenerations สัณฐานวิทยาของเส้นใยเชื้อรา เช่น ไซโต vacuolations coagulation
, shrivelling เส้นใยและการรั่วไหลของโปรโตพลาสต์และการสูญเสีย conidiation . โดยทดสอบกับ
Origanum น้ำมันหอมระเหย , น้ำมันหอมระเหยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดภายใต้เงื่อนไขการใช้ไว
เรือนกระจกพืชมะเขือเทศผลในการป้องกันที่ดีกับสีเทาแม่พิมพ์ความรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรักษาโรค . การศึกษานี้ได้แสดงให้เห็นว่า
น้ำมันหอมระเหยที่มีศักยภาพและแนวโน้ม ยาต้านเชื้อรา ซึ่งสามารถใช้เป็น biofungicide
ในการป้องกันของมะเขือเทศกับ B .
ขาว .