Most doctors want to help people. T

Most doctors want to help people. That’s why they become doctors instead of, say, dictators—to make a positive difference in people’s lives. Unless, that is, their patient happens to be fat.Earlier this year, two separate studies revealed that medical students show a strong subconscious bias against fat people. According to the researchers, fat patients are less likely to be treated with respect, more likely to be the butt of jokes and, perhaps understandably, more likely to switch their primary care provider than skinny people. As if that wasn’t enough, some hospitals in Britain have even started to ban patients with a BMI over 30 from having any routine sugery. Those banned surgeries, by the way, include knee and hip operations—things you’d think have nothing to do with your waistline. When questioned about this flagrant violation of the Hippocratic oath, 54 percent of doctors said they were totally cool with denying fat people treatment—meaning they haven’t even got the excuse of their hatred being “subconscious.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แพทย์ส่วนใหญ่ต้องการช่วยเหลือคน ที่ว่าทำไมพวกเขากลายเป็นแพทย์ พูด เผด็จ — เพื่อให้มีความแตกต่างในชีวิตของผู้คน เว้นแต่ คือ ผู้ป่วยเกิดขึ้น เป็นไขมัน ปีก่อนหน้านี้ สองแยกการศึกษาเปิดเผยว่า นักศึกษาแพทย์แสดงอคติจิตใต้สำนึกที่แข็งแกร่งกับคนอ้วน ตามที่นักวิจัย ผู้ป่วยอ้วนมีแนวโน้มได้รับความเคารพ จะสามารถชนของตลก บางทีเข้าใจ แนวโน้มที่จะเปลี่ยนผู้ดูแลหลักของพวกเขากว่าคนผอม เป็นถ้าที่ไม่พอ บางโรงพยาบาลในสหราชอาณาจักร ได้เริ่มต้นแม้จะบ้านผู้ป่วยที่มี BMI มากกว่า 30 จากหญิงเป็นชายใด ๆ เป็นประจำ ผ่าตัดห้ามเหล่านั้น โดยวิธี รวมการดำเนินงานที่เข่าและสะโพก — สิ่งที่คุณคิดว่า มีอะไรที่จะทำกับเอวของคุณ เมื่อการละเมิดคำสาบาน Hippocratic นี้ flagrant ร้อยละ 54 ของแพทย์กล่าวว่า พวกเขามึงกับคนอ้วนในการปฏิเสธการรักษา — ซึ่งหมายความว่า พวกเขาแม้ยังไม่มีข้อแก้ตัวของความเกลียดชังของพวกเขาเป็น "จิตใต้สำนึก"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แพทย์ส่วนใหญ่ต้องการที่จะช่วยให้ผู้คน นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขากลายเป็นแพทย์แทนการพูด, เผด็จการเพื่อสร้างความแตกต่างในเชิงบวกในชีวิตของผู้คน เว้นแต่ว่าเป็นผู้ป่วยของพวกเขาที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ fat.Earlier สองแยกการศึกษาเปิดเผยว่านักศึกษาแพทย์แสดงอคติจิตใต้สำนึกที่แข็งแกร่งกับคนอ้วน ตามที่นักวิจัยผู้ป่วยไขมันมีโอกาสน้อยที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพแนวโน้มที่จะเป็นก้นของเรื่องตลกและบางทีเข้าใจแนวโน้มที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการดูแลหลักของพวกเขามากกว่าคนผอม ราวกับว่าไม่เพียงพอบางโรงพยาบาลในสหราชอาณาจักรได้เริ่มต้นแม้จะห้ามผู้ป่วยที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 จากการมี sugery ประจำใด ๆ ผู้ที่ผ่าตัดไม่ได้รับอนุญาตโดยวิธีการรวมถึงหัวเข่าและสะโพกดำเนินงานสิ่งที่คุณคิดว่ามีอะไรที่จะทำอย่างไรกับรอบเอวของคุณ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการละเมิดที่เห็นได้ชัดของคำสาบาน Hippocratic ร้อยละ 54 ของแพทย์กล่าวว่าพวกเขาเย็นโดยสิ้นเชิงกับการปฏิเสธคนอ้วนรักษาหมายถึงพวกเขายังไม่ได้ยังมีข้ออ้างของความเกลียดชังของพวกเขาเป็น "จิตใต้สำนึก".

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แพทย์ส่วนใหญ่ต้องการที่จะช่วยให้ผู้คน นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเป็นหมอแทน บอกว่า เผด็จการเพื่อสร้างความแตกต่างในเชิงบวกในชีวิตของผู้คน นอกจากที่เป็นคนไข้ของเขาเกิดเป็นไขมัน ก่อนหน้านี้ในปีนี้ สองแยกการศึกษาพบว่านักศึกษาแพทย์ให้แข็งแรง จิตใต้สํานึกอคติกับคนอ้วน นักวิจัยบอกว่า ผู้ป่วยที่อ้วนมีโอกาสน้อยที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ มีแนวโน้มที่จะเป็นก้นของตลกและอาจ understandably , มีโอกาสมากขึ้นที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการดูแลหลักของพวกเขามากกว่าคนผอม แค่นั้นยังไม่พอ บางโรงพยาบาลในอังกฤษได้เริ่มต้นแม้แต่การห้ามผู้ป่วยที่มี BMI มากกว่า 30 จากมีรูทีนใด ๆ sugery . ผู้ห้ามผ่าตัด โดยวิธี รวมถึงข้อเข่าและสะโพกดำเนินการสิ่งที่คุณคิดว่าไม่เกี่ยวกับรอบเอวของคุณ เมื่อสอบถามเกี่ยวกับการละเมิดนี้ซึ่งหน้าของคำสาบาน hippocratic 54 เปอร์เซ็นต์ของแพทย์กล่าวว่าพวกเขาไม่มีปัญหากับการปฏิเสธคนอ้วนรักษาความหมาย พวกเขายังไม่ได้มีข้ออ้างของความเกลียดชังของพวกเขาเป็น " จิตใต้สำนึก "