For example, when operating at the

For example, when operating at the project level, it isimportant to understand the context at the level at whichthe project is operating (eg local level), so the focus of theanalysis should be at that level; but the analysis shouldalso take account of the linkages with other levels (egregional and national). And similarly when operating atthe regional, sector or national levels.As discussed in Chapter 1, conflict sensitivity is about:● understanding the context in which you operate● understanding the interaction between yourintervention and the context● acting upon the understanding of this interaction, inorder to avoid negative impacts and maximise positiveimpacts.Conflict analysis is thus a central component ofconflict-sensitive practice, as it provides the foundation toinform conflict sensitive programming, in particular interms of an understanding of the interaction between theintervention and the context. This applies to all forms ofintervention – development, humanitarian, peacebuilding– and to all levels – project, programme, and sectoral.In other words, conflict analysis will help:● to define new interventions and to conflict-sensitiseboth new and pre-defined interventions (eg selection ofareas of operation, beneficiaries, partners, staff, timeframe). (Planning stage)● to monitor the interaction between the context and theintervention and inform project set-up and day-to-daydecision-making. (Implementation stage)● to measure the interaction of the interventions and theconflict dynamics in which they are situated.(Monitoring and evaluation stage)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวอย่างเช่นเมื่อทำงานในระดับที่โครงการนั้นมันเป็นสิ่ง
สำคัญที่จะเข้าใจบริบทในระดับที่ซึ่ง
โครงการมีการดำเนินงาน (เช่นระดับท้องถิ่น) ดังนั้นโฟกัสของ
การวิเคราะห์ควรจะอยู่ในระดับที่; แต่การวิเคราะห์ควร
ยังคำนึงถึงความเชื่อมโยงกับระดับอื่น ๆ (เช่น
ภูมิภาคและระดับชาติ) และในทำนองเดียวกันเมื่อใช้งานใน
ระดับภูมิภาคภาคหรือระดับประเทศ
ตามที่กล่าวไว้ในบทที่ 1 ความไวความขัดแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ:
●การทำความเข้าใจในบริบทที่คุณทำงาน
●ทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณ
แทรกแซงและบริบท
●การปฏิบัติตามความเข้าใจของการปฏิสัมพันธ์นี้ใน
การสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบและเพิ่มบวก
ผลกระทบ
การวิเคราะห์ความขัดแย้งจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของ
การปฏิบัติความขัดแย้งที่มีความสำคัญที่จะให้มูลนิธิเพื่อ
แจ้งความขัดแย้งการเขียนโปรแกรมที่มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
แง่ของความเข้าใจในการทำงานร่วมกันระหว่างที่
การแทรกแซงและบริบท นี้ใช้กับทุกรูปแบบของ
การแทรกแซง - การพัฒนาด้านมนุษยธรรมสร้างสันติภาพ
- และทุกระดับ - โครงการโปรแกรมและภาคการผลิต
ในคำอื่น ๆ การวิเคราะห์ความขัดแย้งจะช่วยให้:
●การกำหนดแทรกแซงใหม่ ๆ และความขัดแย้งมีความรู้สึก
ทั้งใหม่และกำหนดไว้ล่วงหน้าแทรกแซง (เช่นการเลือก
พื้นที่ของการดำเนินงานได้รับผลประโยชน์คู่ค้าพนักงานเวลา
กรอบ) (ขั้นตอนการวางแผน)
●การตรวจสอบการทำงานร่วมกันระหว่างบริบทและที่
การแทรกแซงและแจ้งโครงการติดตั้งและวันต่อวัน
ในการตัดสินใจ (ขั้นตอนการดำเนินการ)
●การวัดการปฏิสัมพันธ์ของการแทรกแซงและการ
พลวัตความขัดแย้งที่พวกเขาจะอยู่
(การตรวจสอบและประเมินผลขั้นตอน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวอย่างเช่นเมื่อทำงานในระดับโครงการ
สำคัญที่จะเข้าใจบริบทในระดับที่
โครงการที่มีการดำเนินงาน (เช่นระดับท้องถิ่น) เพื่อให้การโฟกัสของ
การวิเคราะห์ควรอยู่ในระดับนั้น แต่การวิเคราะห์ควรจะ
ยังใช้บัญชีของลิงค์อายุกับระดับอื่นๆ (เช่น
ระดับภูมิภาคและระดับชาติ) และในทำนองเดียวกันเมื่อทำงานที่
ระดับภูมิภาค
ตามที่กล่าวไว้ในบทที่1ความไวต่อข้อขัดแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ:
●การทำความเข้าใจบริบทที่คุณดำเนินการ
●ความเข้าใจในการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
การแทรกแซงและบริบท
●การปฏิบัติตามความเข้าใจของการโต้ตอบนี้ใน
เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบและเพิ่มค่าบวก
ผล กระทบ
การวิเคราะห์ความขัดแย้งจึงเป็นองค์ประกอบส่วนกลางของ
การปฏิบัติที่ไวต่อความขัดแย้งเนื่องจากให้รากฐานในการ
ความขัดแย้งทางการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
ความเข้าใจในการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
การแทรกแซงและบริบท ซึ่งใช้กับทุกรูปแบบของ
การแทรกแซง-การพัฒนา, มนุษยธรรม, peacebuilding
-และในทุกระดับ-โครงการ, โปรแกรม, และการให้.
ในคำอื่นๆการวิเคราะห์ความขัดแย้งจะช่วยให้:
●เพื่อนิยามการแทรกแซงใหม่และการขัดแย้ง
การแทรกแซงทั้งแบบใหม่และที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่นการเลือก
พื้นที่ของการดำเนินงาน, ผลประโยชน์, คู่ค้า, พนักงาน, เวลา
กรอบ) (ขั้นตอนการวางแผน)
●เพื่อตรวจสอบการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบริบทและ
การแทรกแซงและแจ้งการตั้งค่าโครงการและวันต่อวัน
การตัดสินใจ (ขั้นตอนการดำเนินการ)
●ในการวัดปฏิกริยาของการแทรกแซงและการ
ความขัดแย้งของ dynamics ที่อยู่
(ขั้นตอนการเฝ้าติดตามและประเมินผล)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวอย่างเช่นเมื่อทำงานในระดับโครงการมันเป็น
มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจ
โครงการกำลังดำเนินการเช่นระดับท้องถิ่นดังนั้น
การวิเคราะห์ควรจะอยู่ในระดับนั้นแต่การวิเคราะห์ควร
พิจารณาความสัมพันธ์กับระดับอื่นๆเช่น
ภูมิภาคและประเทศ ในทำนองเดียวกัน
ระดับภูมิภาคแผนกหรือระดับชาติ
ตามที่อธิบายไว้ในบทแรกความไวของความขัดแย้งคือ
เข้าใจสภาพแวดล้อมของคุณ
เข้าใจคุณ
การแทรกแซงและบริบท
●ตามความเข้าใจของปฏิสัมพันธ์นี้
หลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบและมีบทบาทในเชิงบวกมากที่สุด
ผลกระทบ
ดังนั้นการวิเคราะห์ความขัดแย้ง
ความขัดแย้งที่ละเอียดอ่อนในการปฏิบัติเพราะมันเป็น
การแจ้งเตือนความขัดแย้งที่ละเอียดอ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เข้าใจเงื่อนไขของปฏิสัมพันธ์
การแทรกแซงและภูมิหลัง นี้ใช้กับทุกรูปแบบ
การแทรกแซงการพัฒนามนุษยธรรมและการสร้างสันติภาพ
และทุกระดับโครงการการวางแผนและแผนก
ในคำอื่นๆการวิเคราะห์ความขัดแย้งจะช่วย
การกำหนดมาตรการแทรกแซงใหม่และความไวต่อความขัดแย้ง
ใหม่และกำหนดไว้ล่วงหน้าการแทรกแซงเช่นการเลือก
พื้นที่ธุรกิจผลประโยชน์คู่ค้าพนักงานและเวลา
กรอบ ขั้นตอนการวางแผน
บริบทการตรวจสอบและ
การแทรกแซงและการแจ้งเตือนการตั้งค่าโครงการและการทำงานประจำวัน
การตัดสินใจ ขั้นตอนการดำเนินงาน
มาตรการแทรกแซงและมาตรการ
พวกเขาอยู่ในความขัดแย้งแบบไดนามิก
ขั้นตอนการติดตามและประเมินผล