Narathiwat at a glanceLocated appro

Narathiwat at a glance
Located approximately some 1,149 kilometers south of Bangkok is Narathiwat the southernmost province in Thailand and one of the nation's five provinces that borders Malaysia at Amphoe Su-ngai Kolok, where the southern railway line ends.
Access from Malaysia is convenient via a ninety-minute bus trip and two immigration points where travelers can cross into Thailand and vice versa. With Amphoe Su-ngai Kolok serving as an economic and border tourism center, the province welcomes an increasing numbers of Malaysians and Singaporeans on short holidays or shopping sprees.

Geographically, Narathiwat is situated on the eastern coast of the Malay Peninsula. The north borders Pattani Province and the Gulf of Thailand, the west borders Yala Province, the east borders the Gulf of Thailand, and the south borders Kelantan in Malaysia. The plains where the Maenam Sai Buri, Maenam Bang Nara, Maenam Tak Bai and Maenam Su-ngai Kolok converge are adjacent to the gulf.

With an area of 4,475 square kilometers, of which 75 percent are jungles and mountains, visitors to the province are provided with great opportunities to spend days at the beach or in the forests and take excursion trips to some of the magnificent temples. Narathiwat has a tropical climate and has only 2 seasons; summer and rainy. The wettest period is during November to December.
Narathiwat literally means "the residence of good people". The city of Narathiwat has an abundance of traditional culture and authenticity with village-like tranquility. The inhabitants of Narathiwat are largely farmers and fishermen with the majority being Muslims who use the spoken and written Yawi language (Yawi has roots from the spoken Malay language and uses Arabic consonants and alphabets). As such, Narathiwat is an amazing and unique area with a constant flow of culture and trade between Thais and Malaysians.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นราธิวาสโดยสังเขปประมาณบาง 1,149 กิโลเมตรทางใต้ของกรุงเทพฯ เป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ในประเทศไทยและหนึ่งในห้าของประเทศจังหวัดนราธิวาสที่พรมแดนมาเลเซียที่อำเภอ Su-ไหโกลก ที่การสิ้นสุดของสายรถไฟใต้ จากมาเลเซียมีความสะดวกผ่านการเดินทาง 90 นาทีและสองจุดตรวจคนเข้าเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถข้ามเข้าไป ในประเทศไทย และในทางกลับกัน กับอำเภอ Su-ไหโกลก เป็นการเศรษฐกิจ และศูนย์การท่องเที่ยวชายแดน จังหวัดต้อนรับเพิ่มจำนวนเป็นชาวมาเลเซียและชาวสิงคโปร์ในวันหยุดสั้น ๆ หรือช้อปปิ้งย่อมทางภูมิศาสตร์ นราธิวาสตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมลายู จังหวัดปัตตานีขอบเหนือและอ่าวไทย จังหวัดยะลาขอบตะวันตก ทิศตะวันออกติดอ่าวไทย และใต้พรมแดนกลันตันในประเทศมาเลเซีย ราบที่แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนารา แม่น้ำตาก และแม่น้ำซูไหโกลกมาบรรจบกันที่อยู่ติดกับอ่าวเยือนจังหวัดจะมีโอกาสที่ดีใช้เวลาวัน ที่ชายหาด หรือ ในป่าและท่องเที่ยววัดวาอารามสวยงามกับพื้นที่ 4,475 กิโลเมตรตาราง ซึ่งร้อยละ 75 เป็นป่าและภูเขา นราธิวาสมีภูมิอากาศร้อน และมีฤดูกาลเพียง 2 ฤดูร้อน และฝน รอบระยะเวลาฝนตกชุกคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนราธิวาสแท้จริงหมายถึง "ที่พำนักของคนดี" เมืองนราธิวาสมีความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมและความถูกต้อง ด้วยความเงียบสงบบ้านพัก ชาวนราธิวาสเป็นส่วนใหญ่เกษตรกรและชาวประมงส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่ใช้ เขียนภาษาภาษา (ภาษามีรากจากพยัญชนะพูดมาเลย์ภาษาและใช้ภาษาอาหรับและอักษร) เช่นนี้ นราธิวาสเป็นพื้นที่ไม่ซ้ำกัน และที่น่าทึ่ง มีไหลคงที่ของวัฒนธรรมและการค้าระหว่างไทยและมาเลเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นราธิวาสได้อย่างรวดเร็ว
อยู่ประมาณบาง 1,149 กิโลเมตรทางใต้ของกรุงเทพฯเป็นจังหวัดนราธิวาสจังหวัดชายแดนภาคใต้ในประเทศไทยและเป็นหนึ่งในประเทศที่ห้าจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซียที่อำเภอสุไหงโกลกที่ภาคใต้ทางรถไฟสายนี้จบลง.
เข้าถึงจากประเทศมาเลเซียมีความสะดวกผ่านทาง เก้าสิบนาทีการเดินทางรถบัสและสองจุดตรวจคนเข้าเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถข้ามเข้ามาในประเทศไทยและในทางกลับกัน กับอำเภอสุไหงโกลกทำหน้าที่เป็นศูนย์การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดยินดีต้อนรับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ในวันหยุดหรือแร่ธาตุช้อปปิ้งสั้น. ภูมิศาสตร์นราธิวาสตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลย์ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือชายแดนจังหวัดปัตตานีและอ่าวไทยทางทิศตะวันตกชายแดนจังหวัดยะลาทิศตะวันออกติดกับอ่าวไทยและภาคใต้ชายแดนรัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย ที่ราบที่แม่น้ำสายบุรีแม่น้ำบางนราแม่น้ำตากใบและแม่น้ำสุไหงโกลกบรรจบอยู่ติดกับอ่าวไทย. มีพื้นที่ 4,475 ตารางกิโลเมตรซึ่งร้อยละ 75 เป็นป่าและภูเขาเข้ามาจังหวัดที่มี ให้กับโอกาสที่ดีที่จะใช้จ่ายวันที่ชายหาดหรือในป่าและใช้เวลาเดินทางเที่ยวกับบางส่วนของวัดที่งดงาม นราธิวาสมีภูมิอากาศเขตร้อนและมีเพียง 2 ฤดูกาล; ในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ระยะเวลาที่ฝนตกชุกเป็นช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม. นราธิวาสความหมายว่า "ถิ่นที่อยู่ของคนดี" เมืองนราธิวาสมีความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและความถูกต้องกับความเงียบสงบหมู่บ้านเช่น ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนราธิวาสเป็นส่วนใหญ่เกษตรกรและชาวประมงที่มีส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่ใช้ภาษายาวีพูดและเขียน (ภาษายาวีมีรากมาจากภาษามาเลย์พูดและใช้พยัญชนะภาษาอาหรับและตัวอักษร) เช่นนราธิวาสเป็นพื้นที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจและไม่ซ้ำกับการไหลคงที่ของวัฒนธรรมและการค้าระหว่างชาวไทยและชาวมาเลเซีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นราธิวาส คร่าว ๆตั้งอยู่ประมาณซัก 1 กิโลเมตรทางใต้ของกรุงเทพฯคือ นราธิวาส จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย และหนึ่งในประเทศ 5 จังหวัดชายแดนมาเลเซียที่ อ. สุไหงโกลก ซึ่งรถไฟใต้บรรทัดจบเข้าจากมาเลเซียได้สะดวกผ่านเก้าสิบนาที การเดินทางด้วยรถบัสและสองจุดตรวจคนเข้าเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปยังประเทศไทยและในทางกลับกัน กับอำเภอสุไหงโกลกให้บริการเป็นเศรษฐกิจและศูนย์กลางการท่องเที่ยวชายแดนจังหวัดให้การต้อนรับ ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของชาวมาเลเซีย และชาวสิงคโปร์ ในวันหยุดสั้นๆ หรือช็อปปิ้ง .ภูมิศาสตร์ , นราธิวาส ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมลายู ทิศเหนือจดจังหวัดปัตตานีและอ่าวไทย ทิศตะวันตกจดจังหวัดยะลา ทิศตะวันออกจดอ่าวไทย และทิศใต้จดรัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย ที่ราบที่แม่น้ำไทรบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำแม่น้ำตากใบ , สุไหงโกลกบรรจบติดกับอ่าวมีพื้นที่ 4475 ตารางกิโลเมตร ซึ่งร้อยละ 75 เป็นป่าและภูเขา ผู้เข้าชมไปยังจังหวัดจะได้รับโอกาสที่ดีที่จะใช้จ่ายวันบนชายหาดหรือในป่า และ พาเที่ยว ทริป บางวัดที่งดงาม นราธิวาสมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ช่วงฝนตกชุก คือระหว่างเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคมนราธิวาสอย่างแท้จริงหมายถึง " ที่อยู่ของคนดี " เมืองนราธิวาส มีความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและความถูกต้องกับหมู่บ้านชอบความเงียบสงบ ชาวนราธิวาส ส่วนใหญ่เกษตรกรและชาวประมงที่มีส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่ใช้พูดและเขียนภาษายะวี ( ยะวีมีรากจากพูดภาษามลายู และใช้พยัญชนะภาษาอาหรับและตัวอักษร ) เช่น ความน่าพิศวงและพื้นที่ที่ไม่ซ้ำกันกับการไหลคงที่ของวัฒนธรรมและการค้าระหว่างไทยและมาเลเซีย