My dad was a veteran. He fought ove

My dad was a veteran. He fought overseas in WW2. He was in the Canadian Intelligence Service and essentially, was a spy chaser.

He was stationed a good part of his service in Italy where he learned to speak fluent Italian.

He and one of his buddies arrested an Italian woman thought to be a Nazi sympathizer. Turns out she was coerced into being a translator for the Nazi’s. My dad’s buddy returned after the war and married that woman. Later on, they bought the farm near to our cottage and I had the pleasure of enjoying her pasta.

As the years went by, the farm was sold and I lost touch with that family.

I met up again with that Italian woman at a lecture at York University when I was in my young twenties. I recognized her immediately as much by her accent as by her looks. She didn’t recognize me as I was then a much slimmer version of my childhood self.

However, after I introduced myself to her quietly, she stood up amidst the lecture and declared, “I knew this a-boy when he was just this a-tall and this a-fat. He used to eat up all of my a-pasta.”

Loved this woman.

In order to keep up his Italian, dad sought an Italian barber. The barber owned the shop in the Yonge/Bloor subway station. Those two developed a tight bond and were mutually supportive of each other. During my father’s demise, the barber would come to the hospital to give dad a haircut. Friends to the end.

Dad did a number of quiet, yet extraordinary things. Of the many, he gave residence to a German man, post war. With a room to let in our basement, this man lived with us for a few years and my father helped him get established in his business. It was unheard of for a Jew to show such support for a German. That man also came to love my father and when I was in financial difficulty at a point in my younger life, he paid my father’s support forward and offered me a job.

Dad had a nickname from his war years: Sandy. Sandy McTavish.

Dad was the only Jew in a regimen of mostly Scots. In the 1950’s/60’s, they would get together at our house once a year or so and this is where I learned of Dad’s nick-name. It turns out the Scots had a difficult time trying to pronounce his true name. So dad was OK with them not being able to relate to Edel (Yiddle-Chiam) and was happy to be known by these other men who loved him, as Sandy McTavish. It was only on these occasions do I recall my dad with a drink in his hand and then, only one.

Upon his return from the war, dad married mom in Winnipeg and they moved to Toronto. They had a loving relationship that carried through to his passing with him at age sixty.

So with Remembrance Day coming, here’s to you my father, Sandy McTavish. He served his country proudly, taught me the meaning of love, acceptance of others as well as how to take a joke.

Aye. Sandy McTavish.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พ่อเป็นทหารผ่านศึกได้ เขาสู้ต่างประเทศใน WW2 เขาอยู่ในบริการข่าวกรองแคนาดา และถูกเขาดักฟังหลักเขาเป็นประจำส่วนบริการของเขาในอิตาลีซึ่งเขาได้เรียนรู้พูดภาษาอิตาลีคล่องดีเขาและเพื่อนของเขาหนึ่งจับผู้หญิงอิตาลีมีความคิดที่จะ sympathizer นาซี ปรากฎว่าเธอถูกบังคับให้มีการแปลของนาซี เพื่อนของพ่อกลับหลังสงคราม และผู้หญิงที่แต่งงาน ภายหลังเมื่อ เขาซื้อฟาร์มใกล้กระท่อมของเรา และมีความสุขความเพลิดเพลินในพาสต้าของเธอเป็นปีก็ตาม ฟาร์มถูกขาย และหายไปสัมผัสกับครอบครัวนั้นฉันได้พบอีกครั้งกับผู้หญิงที่อิตาลีที่บรรยายที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กเมื่อในยี่หนุ่มของฉัน ฉันรู้จักเธอทันทีมากโดยเธอเน้นเป็นลักษณะของเธอ เธอไม่รู้จักผมเป็นผมแล้วมากขนาดที่บางกว่ารุ่นวัยเด็กของฉันด้วยตนเองอย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผมแนะนำตัวเองกับเธออย่างเงียบ ๆ เธอขึ้นยืนท่ามกลางการบรรยาย และประกาศ "ฉันรู้ ว่านี้เป็นบอยเมื่อเขาได้เพียงนี้มีความสูง และนี้เป็นไขมัน เคยกินทั้งหมดที่ฉันเป็นพาสต้า"รักผู้หญิงคนนี้ให้อิตาลีของเขา พ่อขอร้านอิตาลี ช่างเจ้าของร้านค้าในสถานีรถไฟใต้ดิน Yonge/บลอ ยอร์ก สองคนพัฒนาพันธบัตรที่แน่น และได้ร่วมกันสนับสนุนกัน ระหว่างพ่อลูก ช่างจะมาโรงพยาบาลให้พ่อตัดผม เพื่อนตามพ่อไม่ได้จำนวนสิ่งเงียบ ยังพิเศษ จำนวนมาก เขาให้อาศัยคนเยอรมัน สงครามลง มีห้องพักให้ในห้องใต้ดินของเรา คนนี้อยู่กับเรากี่ปี และช่วยพ่อเขาได้ก่อตั้งขึ้นในธุรกิจของเขา ได้ยินของสำหรับความรอดเพื่อแสดงการสนับสนุนดังกล่าวเป็นภาษาเยอรมันได้ ผู้ชายคนนั้นยังมารักพ่อ และเมื่อผมอยู่ในความยากลำบากทางการเงินที่จุดในชีวิตอายุ เขาจ่ายสนับสนุนพ่อไปข้างหน้า และนำเสนอผมงานพ่อมีฉายาของเขาปีสงคราม: แซนดี้ แซนดี้ McTavishพ่อรอดเฉพาะในระบบการปกครองของสก็อทส์ส่วนใหญ่ได้ ใน 1950's / 60's พวกเขาจะได้รับร่วมกันในบ้านเราปีละครั้งหรือมากกว่านั้น และเป็นที่ฉันเรียนรู้ชื่อเล่นของพ่อ ดังปรากฎว่าสก็อตที่มีเวลายากการออกเสียงชื่อของเขาเป็นจริง ดังนั้นพ่อได้ตกลงกับพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับบริการที่อัลไพน์ (Yiddle-โขงเจียม) และมีความสุขจะรู้จัก โดยเหล่านี้คนอื่น ๆ ที่รักเขา เป็น McTavish ทราย มันเป็นเฉพาะในโอกาสนี้ ทำฉันเรียกคืนพ่อกับเครื่องดื่มในมือของเขา แล้ว เพียงคนเดียวเมื่อกลับมาจากสงคราม พ่อแต่งงานหม่อมในวินนิเพก และพวกเขาย้ายไปโตรอนโต พวกเขามีความสัมพันธ์รักที่ดำเนินผ่านไปเขาผ่านกับเขาที่อายุหกดังนั้น กับวันรำลึกมา นี่คือคุณพ่อ แซนดี้ McTavish เขาทำหน้าที่เขาประเทศภูมิใจ สอนความหมายของความรัก การยอมรับของผู้อื่นเป็นเช่นไรที่จะเล่นAye. Sandy McTavish.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พ่อของฉันเป็นทหารผ่านศึก เขาต่อสู้ในต่างประเทศใน WW2 เขาอยู่ในหน่วยสืบราชการลับของประเทศแคนาดาและเป็นหลักเป็นนายพรานสายลับ. เขาถูกส่งไปประจำส่วนที่ดีในการให้บริการของเขาในอิตาลีที่เขาเรียนรู้ที่จะพูดภาษาอิตาลี. เขาและเป็นหนึ่งในเพื่อนของเขาถูกจับหญิงอิตาลีคิดว่าจะเป็นนาซีปลอบโยน . เปิดออกเธอถูกบังคับให้เป็นล่ามให้นาซีของ เพื่อนพ่อของฉันกลับมาหลังจากสงครามและแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ต่อมาเมื่อพวกเขาซื้อไร่ใกล้กับกระท่อมของเราและผมมีความสุขในการเพลิดเพลินกับพาสต้าของเธอ. หลายปีผ่านไปจากฟาร์มไปขายและผมสูญเสียการติดต่อกับครอบครัวที่. ฉันได้พบกันอีกครั้งกับว่าผู้หญิงอิตาลีบรรยาย ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กเมื่อผมอยู่ในวัยยี่สิบหนุ่มของฉัน ฉันได้รับการยอมรับของเธอเป็นอย่างมากทันทีโดยสำเนียงของเธอขณะที่โดยลักษณะของเธอ เธอไม่รู้จักฉันเป็นฉันได้แล้วรุ่นมาก slimmer ตัวของตัวเองในวัยเด็กของฉัน. อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผมแนะนำตัวเองกับเธออย่างเงียบ ๆ เธอลุกขึ้นยืนท่ามกลางการบรรยายและประกาศว่า "ผมรู้ว่าเด็กนี้เมื่อเขาอายุได้เพียงแค่นี้ A-สูงและไขมันนี้ เขาเคยกินทั้งหมดของพาสต้าของฉัน. "รักผู้หญิงคนนี้. เพื่อที่จะให้ทันอิตาลี, พ่อของเขามองหาการตัดผมอิตาลี ช่างตัดผมที่เป็นเจ้าของร้านค้าในลูเซียน / สถานีรถไฟใต้ดินบลอร์ ทั้งสองได้รับการพัฒนาความผูกพันแน่นและสนับสนุนซึ่งกันและกันของแต่ละอื่น ๆ ในระหว่างการตายของพ่อของฉันตัดผมจะมาถึงโรงพยาบาลที่จะให้พ่อตัดผม เพื่อนที่สิ้นสุด. พ่อได้จำนวนที่เงียบสงบ แต่สิ่งที่พิเศษ ของหลาย ๆ ที่เขาให้ที่อยู่อาศัยกับชายชาวเยอรมันหลังสงคราม ด้วยห้องพักที่จะให้อยู่ในห้องใต้ดินของเราคนนี้อาศัยอยู่กับเราไม่กี่ปีและพ่อของฉันช่วยให้เขาได้รับการก่อตั้งขึ้นในธุรกิจของเขา มันก็ไม่เคยได้ยินจากชาวยิวเพื่อแสดงการสนับสนุนดังกล่าวให้กับเยอรมัน ผู้ชายคนนั้นก็มาถึงความรักที่พ่อของฉันและเมื่อผมอยู่ในความยากลำบากทางการเงินที่จุดในชีวิตของฉันที่อายุน้อยกว่าเขาก็จ่ายเงินสนับสนุนของพ่อของฉันไปข้างหน้าและให้ฉันงาน. พ่อมีชื่อเล่นจากสงครามปีของเขา: แซนดี้ แซนดี้ McTavish. พ่อเป็นชาวยิวเฉพาะในระบบการปกครองของสก็อตส่วนใหญ่ ในปี 1950/60 ของพวกเขาจะได้รับร่วมกันที่บ้านของเราปีละครั้งหรือมากกว่านั้นและนี่คือที่ผมได้เรียนรู้กรงขังชื่อของพ่อ แต่กลับกลายเป็นสก็อตมีช่วงเวลาที่ยากพยายามที่จะออกเสียงชื่อที่แท้จริงของเขา ดังนั้นพ่อก็ตกลงกับพวกเขาไม่สามารถที่จะเกี่ยวข้องกับการสวดมนต์อ้อนวอน (Yiddle-โขงเจียม) และมีความสุขเป็นที่รู้จักกันโดยคนอื่น ๆ เหล่านี้ที่รักเขาในขณะที่แซนดี้ McTavish มันเป็นเพียงในโอกาสเหล่านี้ผมจำได้ว่าพ่อของฉันเครื่องดื่มในมือของเขาและจากนั้นเพียงคนเดียว. เมื่อเขากลับมาจากสงครามพ่อแม่แต่งงานกันในวินนิเพกและพวกเขาย้ายไปอยู่ที่โตรอนโต พวกเขามีความรักความสัมพันธ์ที่ดำเนินการผ่านการผ่านของเขากับเขาที่อายุหกสิบ. ดังนั้นด้วยจำวันมาที่นี่กับคุณพ่อของฉัน, แซนดี้ McTavish เขาทำหน้าที่ประเทศของเขาภูมิใจสอนให้ฉันความหมายของความรักที่ได้รับการยอมรับของผู้อื่นเช่นเดียวกับวิธีที่จะใช้เรื่องตลก. Aye แซนดี้ McTavish

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พ่อเป็นทหารผ่านศึก เขาได้ต่อสู้ในต่างประเทศใน WW2 . เขาอยู่ในหน่วยสืบราชการลับของแคนาดาและเป็นหลัก , เป็นสายลับล่า

เขาประจำ ส่วนดีของบริการของเขาในอิตาลีที่เขาเรียนรู้ที่จะพูดได้อย่างคล่องแคล่วอิตาลี

เขาและเพื่อนสนิทของเขาจับอิตาลีที่ผู้หญิงคิดว่าเป็นพวกเห็นใจนาซี กลายเป็นว่า เธอถูกบังคับให้ เป็น แปล สำหรับนาซี .เพื่อนของพ่อฉันกลับมาหลังจากสงครามและแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ต่อมาเมื่อพวกเขาซื้อฟาร์มใกล้กระท่อมของเรา และผมมีความสุขกับพาสต้าของเธอ

เป็นปีไปโดย ฟาร์มขาย และผมสูญเสียการติดต่อกับครอบครัวที่

ฉันได้พบกันอีกครั้งกับผู้หญิงอิตาเลียนที่บรรยายที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เมื่อผมอยู่ในวัยยี่สิบของฉัน ยอง .ฉันจำเธอได้ทันที ให้มาก โดยเน้นเป็นลักษณะของเธอ เธอจำฉันไม่ได้ ฉันก็เป็นรุ่น slimmer ของตนเองในวัยเด็กของฉัน

แต่หลังจากที่ฉันแนะนำตัวกับเธออย่างเงียบๆ เธอลุกขึ้นยืนท่ามกลางการบรรยาย และประกาศว่า " ผมรู้ว่า a-boy นี้เมื่อเขาอายุเพียงแค่นี้ a-tall และ a-fat นี้ เขาเคยกินมาทั้งหมด a-pasta ของฉัน "



รักผู้หญิงคนนี้เพื่อให้ทันเขา อิตาลี พ่อขอ , อิตาลี ร้านตัดผมที่เป็นเจ้าของร้านในลูเซียน / เฮาส์ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สองพัฒนาพันธบัตรแน่นและสนับสนุนซึ่งกันและกันของแต่ละอื่น ๆ ในการตายของพ่อ ช่างตัดผมจะมาที่โรงพยาบาลเพื่อให้พ่อตัดผม เพื่อนให้จบ

พ่อทำหมายเลขของเงียบ แต่ที่พิเศษบางอย่าง ของหลายเขาให้ที่อยู่กับชายเยอรมัน ประกาศ สงคราม มีห้องให้อยู่ในห้องใต้ดินของเรา ชายผู้นี้อยู่กับเราไม่กี่ปี และพ่อผมช่วยเขาได้ก่อตั้งขึ้นในธุรกิจของเขา มันก็ไม่เคยได้ยินของสำหรับยิวที่จะแสดงการสนับสนุนเช่นเยอรมัน ผู้ชายคนนั้นก็มารักพ่อ และเมื่อผมอยู่ในความยากลำบากทางการเงินที่จุดในชีวิตของน้องฉันเขาจ่ายเงินสนับสนุนของพ่อฉันไปข้างหน้าและเสนองานให้ฉัน

พ่อได้ฉายาจากสงครามปี : แซนดี้ แซนดี้ mctavish

พ่อเท่านั้น ยิว ในระบบการปกครองของส่วนใหญ่ชาวสก็อต ใน 1950 / 60 ของพวกเขาจะได้รับร่วมกันในบ้านเราเมื่อปีหรือดังนั้นและนี้คือที่ผมได้เรียนรู้ชื่อของพ่อ ปรากฏว่าในพันทิปมีเวลายากพยายามออกเสียงชื่อที่แท้จริงของเขาดังนั้น พ่อตกลงกับพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับ เดล ( yiddle ใช้ ) และดีใจที่ได้รู้จัก โดยคนที่รักเขา แซนดี้ mctavish . มันเป็นเพียงในโอกาสนี้ผมนึกถึงพ่อกับเครื่องดื่มในมือของเขาและจากนั้นเพียงหนึ่ง

เมื่อเขากลับมาจากสงคราม พ่อแต่งงานกับแม่ ใน วินนิเพก พวกเขาได้ย้ายไปโตรอนโต