2. Stop talking to yourself when yo

2. Stop talking to yourself when you read. People talk to themselves in 2 ways, by:

vocalizing, which is the actual moving of your lips as you read, and
subvocalizing, which is talking to yourself in your head as you silently read.
Both of these will slow you down to the point in which you find that you can't read any faster than you can speak. Speech is a relatively slow activity; for most, the average speed is about 250 WPM (words per minute).

Reading should be an activity which involves only the eyes and the brain. Vocalization ties reading to actual speaking. Try to think of reading as if you were looking at a landscape, a panorama of ideas, rather than looking at the rocks at your feet.

3. Read in thought groups. Studies have shown that when we read, our eyes must make small stops along the line. Poor readers make many, many more fixations (eyestops) than good readers. Not only does this slow you down, but it inhibits comprehension because meaning is easier to pull from groups of words rather than from individual words or even single letters. Try to read in phrases of three or four words, especially in complete clauses and prepositional phrases. Your mind may internalize them as if the whole phrase is like one big meaning-rich word.

4. Don't keep re-reading the same phrases. Poor readers habitually read and re-read the same phrase over and over again. This habit of making "regressions" doubles or triples reading time and often does not result in better comprehension. A single careful, attentive reading may not be enough for full comprehension, but is often more effective than constant regressions in the middle of a reading. It is best to work on paying closer attention the first time through. Do a preview first before the careful reading and try the tips I mentioned above. You'll remember better without the rereading.

5. Vary your reading rate to suit the difficulty and type of writing of the text. Poor readers always read at the same slow rate. An efficient reader speeds up for easier material and slows down for the hard. Some things were not meant to be read quickly at all. Legal material and very difficult text should be read slowly. Easier material and magazines and newspapers can be read quickly. Poetry and plays were meant to be performed, and if not acted out, then at least, spoken out loud orally. This obviously will conflict with good speed reading method which forbids vocalization. Religious writings and scripture were originally written to be recited and listened to by an audience which was likely to be intelligent, but illiterate. The "fun" of poetry, plays, or prayer is not really experienced if you "speed read" the text.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. หยุดพูดกับตัวเองเมื่อคุณอ่าน คนพูดคุยกับตัวเองในรูปแบบที่ 2 โดย:vocalizing ซึ่งถูกย้ายจริงของริมฝีปากของคุณขณะที่คุณอ่าน และsubvocalizing ซึ่งมีการพูดคุยด้วยตัวเองในหัวของคุณขณะที่คุณอ่านอยู่เบื้องหลังทั้งนี้จะช้าคุณลงไปที่จุดที่คุณพบว่า คุณไม่สามารถอ่านใด ๆ เกินกว่าที่จะสามารถพูด เสียงเป็นกิจกรรมค่อนข้างช้า สำหรับส่วนใหญ่ ความเร็วเฉลี่ยเป็น WPM ที่ 250 ประมาณ (คำต่อนาที)การอ่านควรเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเฉพาะดวงตาและสมอง Vocalization ความสัมพันธ์การอ่านการพูดจริง พยายามคิดว่า การอ่านเป็นถ้าคุณกำลังที่ทิวทัศน์ ของไอเดีย แทนหินที่เท้าของคุณ3. อ่านในกลุ่มความคิด ศึกษาแสดงให้เห็นว่า เมื่อเราอ่าน ดวงตาของเราต้องให้หยุดเล็กตาม ผู้อ่านที่ไม่ดีทำให้จำนวนมาก หลายมากกว่ายึดติด (eyestops) ผู้อ่านดีกว่า ไม่เฉพาะไม่นี้ลง แต่มันยับยั้งความเข้าใจเนื่องจากความหมายง่ายเพื่อดึง จากกลุ่มคำ แทนคำแต่ละคำหรืออักษรตัวเดียวแม้ ลองอ่านในวลีคำสาม หรือสี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประโยคสมบูรณ์และบุพบทวลี ใจอาจให้พวกเขา internalize วลีทั้งหมดเป็นหนึ่งใหญ่อุดมไปด้วยความหมายคำว่า4. ไม่ให้การอ่านวลีเดียวกัน อ่านไม่ดีเนือง ๆ อ่าน และอ่านวลีเดียวกันใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก นิสัยนี้ทำให้ "รู้จัก" คู่ หรือเพิ่มเวลาการอ่าน และมักไม่ทำให้ความเข้าใจดีขึ้น เดียวระวัง เอาใจใส่อ่านอาจไม่เพียงพอสำหรับความเข้าใจเต็ม แต่มักจะเป็นมากขึ้นมีประสิทธิภาพกว่าที่รู้จักคงกลางที่อ่าน การทำงานเกี่ยวกับการจ่ายความสนใจใกล้ชิดครั้งแรกผ่านได้ ทำตัวอย่างแรก ก่อนการอ่านอย่างระมัดระวังและพยายาม เคล็ดลับผมกล่าวข้างต้น คุณจะจำได้ดี โดยไม่มีการ rereading5. อัตราการอ่านของคุณให้เหมาะสมกับความยากลำบากและชนิดของการเขียนข้อความที่แตกต่างกัน อ่านไม่ดีอ่านช้าอัตราเดียวกันเสมอ การอ่านมีประสิทธิภาพความเร็วสำหรับวัสดุได้ง่ายขึ้น และช้าลงสำหรับฮาร์ดดิสก์ บางสิ่งไม่ได้มีความหมายสามารถอ่านได้อย่างรวดเร็วทั้งหมด ควรอ่านข้อความยากมากและกฎหมายวัสดุอย่างช้า สามารถอ่านง่ายวัสดุ และนิตยสาร และหนังสือพิมพ์อย่างรวดเร็ว บทกวีและบทละครมีความหมายจะทำ และถ้าไม่ทำหน้าที่ออก แล้ว น้อย พูดออกเสียงวาจา นี้เห็นได้ชัดว่าจะขัดแย้งกับความเร็วดีที่อ่านวิธีที่ห้าม vocalization งานเขียนทางศาสนาและคัมภีร์เขียนอัล และฟัง โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นอัจฉริยะ แต่รู้ "สนุก" ของกวีนิพนธ์ บทละคร หรือสวดมนต์ไม่มีประสบการณ์จริง ๆ ถ้าคุณ "เร็วอ่าน" ข้อความนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. หยุดการพูดคุยกับตัวเองเมื่อคุณอ่าน คนที่พูดคุยกับตัวเองใน 2 วิธีโดย: vocalizing ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจริงของริมฝีปากของคุณในขณะที่คุณอ่านและ. subvocalizing ซึ่งมีการพูดคุยกับตัวเองในหัวของคุณในขณะที่คุณเงียบอ่านทั้งสองคนนี้จะชะลอตัวคุณลงไปยังจุดที่ในที่ที่คุณพบว่าคุณไม่สามารถอ่านใด ๆ เร็วกว่าที่คุณสามารถพูดได้ คำพูดเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างช้า; สำหรับส่วนใหญ่ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 250 WPM (คำต่อนาที). การอ่านควรจะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเพียงดวงตาและสมอง ความสัมพันธ์โฆษะอ่านเพื่อการพูดที่เกิดขึ้นจริง พยายามที่จะคิดอ่านราวกับว่าคุณกำลังมองหาที่ภูมิ, พาโนรามาของความคิดมากกว่าการมองไปที่โขดหินที่เท้าของคุณ. 3 อ่านในกลุ่มความคิด การศึกษาพบว่าเมื่อเราอ่านตาของเราจะต้องทำให้หยุดขนาดเล็กตามแนว ผู้อ่านที่ไม่ดีทำให้หลายคนยึดติดอื่น ๆ อีกมากมาย (eyestops) มากกว่าผู้อ่านที่ดี ไม่เพียงแค่นี้คุณช้าลง แต่มันยับยั้งการเข้าใจความหมายเพราะเป็นเรื่องง่ายที่จะดึงจากกลุ่มของคำมากกว่าจากคำแต่ละคำหรือแม้แต่ตัวอักษรเดียว พยายามที่จะอ่านในวลีของสามหรือสี่คำโดยเฉพาะในข้อที่สมบูรณ์และวลีบุพบท ใจของคุณอาจ internalize พวกเขาราวกับว่าวลีทั้งเป็นเหมือนหนึ่งคำความหมายที่อุดมไปด้วยใหญ่. 4 ไม่ควรเก็บใหม่อ่านวลีเดียวกัน ผู้อ่านที่ไม่ดีเป็นปกติวิสัยอ่านและอีกอ่านวลีเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำอีก นิสัยของการทำนี้ "ถดถอย" คู่อเนกประสงค์หรือเวลาในการอ่านและมักจะไม่ได้ผลในความเข้าใจที่ดีขึ้น เดียวระวังอ่านใส่ใจอาจจะไม่เพียงพอสำหรับความเข้าใจเต็ม แต่มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการถดถอยอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางของการอ่านที่ ที่ดีที่สุดคือการทำงานเกี่ยวกับการให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกผ่าน ทำตัวอย่างก่อนที่จะอ่านระมัดระวังและพยายามเคล็ดลับผมกล่าวข้างต้น คุณจะจำที่ดีขึ้นโดยไม่ต้อง rereading ได้. 5 แตกต่างกันอัตราการอ่านของคุณเพื่อให้เหมาะกับความยากลำบากและประเภทของการเขียนข้อความ ผู้อ่านอ่านแย่เสมอในอัตราที่ช้าเดียวกัน ผู้อ่านที่มีประสิทธิภาพเพิ่มความเร็วสำหรับวัสดุง่ายขึ้นและช้าลงอย่างหนัก บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้หมายถึงการอ่านได้อย่างรวดเร็วทุกที่ วัสดุกฎหมายและข้อความเรื่องยากมากที่ควรจะอ่านอย่างช้าๆ วัสดุที่ง่ายขึ้นและนิตยสารและหนังสือพิมพ์สามารถอ่านได้อย่างรวดเร็ว บทกวีและบทละครที่มีความหมายที่จะดำเนินการและหากไม่ได้ทำออกมาแล้วอย่างน้อยพูดออกมาดัง ๆ มารับประทาน นี้จะเห็นได้ชัดว่าขัดแย้งกับวิธีการความเร็วในการอ่านที่ดีที่ห้ามโฆษะ งานเขียนของศาสนาและพระคัมภีร์ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อจะอ่านและฟังจากผู้ชมซึ่งเป็นแนวโน้มที่จะฉลาด แต่ไม่รู้หนังสือ "ความสนุก" ของบทกวี, ละครหรือการสวดมนต์ไม่ได้มีประสบการณ์จริงๆถ้าคุณ "ความเร็วในการอ่าน" ข้อความ