By the mid-1940s, neoclassical econ

By the mid-1940s, neoclassical economists felt secure within their long-run equilibrium interpretation of wage determinants. At that time, however, empirical economists attempting to reconcile real-life labor market phenomena with neoclassical theory encountered unsettling data. When confronted by a growing number of studies suggesting flaws in their theories, neoclassical economists reacted by simply developing several ad hoc explanations to account for these exceptions. Empirical economists, on the other hand, found themselves shunning theoretical models constructed to guide them in their research. Without any theoretical structure to inform their work, they also resorted to ad hoc explanations. As a result a growing schism emerged within labor economics between theory and practice.

Read more: http://www.referenceforbusiness.com/encyclopedia/Kor-Man/Labor-Economics.html#ixzz3bPvRxmii

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยกลางทศวรรษ 1940 โดย ฟื้นฟูคลาสสิกนักเศรษฐศาสตร์รู้สึกทางภายในของพวกเขาตีความสมดุลยาวของดีเทอร์มิแนนต์ค่าจ้าง ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ประจักษ์นักเศรษฐศาสตร์พยายามกระทบแรงงานชีวิตตลาดปรากฏการณ์ฟื้นฟูคลาสสิกทฤษฎีพบข้อมูลก่อกวน เมื่อเพิ่มจำนวนการแนะนำข้อบกพร่องในทฤษฎีของการศึกษา นักเศรษฐศาสตร์ฟื้นฟูคลาสสิกปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น โดยการพัฒนาคำอธิบายกิจหลายบัญชีสำหรับข้อยกเว้นเหล่านี้ก็ นักเศรษฐศาสตร์ประจักษ์ คง พบว่าตัวเอง shunning แบบจำลองทฤษฎีสร้างคำแนะนำในการวิจัยของพวกเขา ไม่ มีโครงสร้างใด ๆ ทฤษฎีเพื่อแจ้งให้ทราบงานของพวกเขา พวกเขายัง resorted การคำอธิบายเฉพาะกิจ ผล แตกแยกเพิ่มขึ้นเกิดในเศรษฐศาสตร์แรงงานระหว่างทฤษฎีและปฏิบัติอ่านเพิ่มเติม: http://www.referenceforbusiness.com/encyclopedia/Kor-Man/Labor-Economics.html#ixzz3bPvRxmii

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยในช่วงกลางปี ​​1940 นักเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิรู้สึกปลอดภัยภายในตีความสมดุลของพวกเขาทำงานที่ยาวนานของปัจจัยค่าจ้าง ในเวลานั้น แต่นักเศรษฐศาสตร์เชิงประจักษ์พยายามที่จะตกลงกันได้ในชีวิตจริงปรากฏการณ์ตลาดแรงงานกับทฤษฎีนีโอคลาสสิพบข้อมูลที่ไม่สงบ เมื่อเผชิญหน้ากับตัวเลขการเติบโตของการศึกษาชี้ให้เห็นข้อบกพร่องในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิปฏิกิริยาโดยเพียงแค่การพัฒนาคำอธิบายหลายเฉพาะกิจบัญชีสำหรับข้อยกเว้นเหล่านี้ นักเศรษฐศาสตร์เชิงประจักษ์ในมืออื่น ๆ ที่พบว่าตัวเองหลบหลีกการสร้างแบบจำลองทางทฤษฎีจะแนะนำพวกเขาในการวิจัยของพวกเขา โดยไม่ต้องมีโครงสร้างทางทฤษฎีที่จะแจ้งให้งานของพวกเขาพวกเขายัง resorted การโฆษณาคำอธิบายเฉพาะกิจ เป็นผลให้การเจริญเติบโตของความแตกแยกภายในโผล่ออกเศรษฐศาสตร์แรงงานระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ. อ่านเพิ่มเติม: http://www.referenceforbusiness.com/encyclopedia/Kor-Man/Labor-Economics.html#ixzz3bPvRxmii

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดย mid-1940s นักเศรษฐศาสตร์เผินรู้สึกปลอดภัยในการตีความของดุลยภาพระยะยาวของระดับค่าจ้าง ในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เชิงประจักษ์พยายามง้อปรากฏการณ์ตลาดแรงงานชีวิตจริงกับทฤษฎีต่างๆ พบข้อมูลที่น่า . เมื่อเผชิญกับตัวเลขการเติบโตของการศึกษาชี้ให้เห็นข้อบกพร่องในทฤษฎีของตนเองนักเศรษฐศาสตร์ทำปฏิกิริยาต่างๆ โดยเพียงแค่การพัฒนาหลายเฉพาะกิจคำอธิบายบัญชีสำหรับข้อยกเว้นเหล่านี้ นักเศรษฐศาสตร์เชิงประจักษ์ , บนมืออื่น ๆ , พบตัวเอง shunning แบบจำลองสร้างขึ้นเพื่อแนะนำพวกเขาในการวิจัยของพวกเขา ไม่มีทฤษฎีโครงสร้างเพื่อแจ้งงานของพวกเขา พวกเขายังใช้ Ad Hoc อธิบายเป็นผลให้ความแตกแยกระหว่างการชุมนุมภายในแรงงานเศรษฐศาสตร์ทฤษฎีและการปฏิบัติ .

อ่านเพิ่มเติม : http : / / www.referenceforbusiness . com / สารานุกรม / ก. แรงงานชาย / HTML # ixzz3bpvrxmii เศรษฐศาสตร์