During that same period, direct mar

During that same period, direct marketers and catalogers began to develop very sophisticated approaches using regression, CHAID, CART, and other statistical techniques. There, the focus was almost entirely on observable consumer behaviors in the form of longitudinal purchase occasions. This was followed by Jones and Sasser's (1995) and Reichheld's (1996) seminal articles on the economic value of customer loyalty in the 1990s. Reichheld's text "The Loyalty Effect" (1996) has set the direction and tone for much of the loyalty thinking over the past several years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นักการตลาดโดยตรงและ catalogers เริ่มพัฒนาวิธีซับซ้อนมากใช้ถดถอย CHAID รถเข็น และเทคนิคทางสถิติ มี โฟกัสได้เกือบทั้งหมดในพฤติกรรมผู้บริโภค observable ในโอกาสซื้อระยะยาว นี้ถูกตาม ด้วยของ Sasser และโจนส์ (1995) ของ Reichheld (1996) บรรลุถึงบทความเกี่ยวกับมูลค่าทางเศรษฐกิจของสมาชิกลูกค้าในปี 1990 และ Reichheld ของข้อความ "สมาชิกผล" (1996) ได้กำหนดทิศทางและเสียงสำหรับการมากความคิดสมาชิกหลายปีผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นักการตลาดทางตรงและ catalogers เริ่มที่จะพัฒนาวิธีการที่ซับซ้อนมากในการใช้การถดถอย CHAID, รถเข็นและเทคนิคทางสถิติอื่น ๆ มีโฟกัสเกือบทั้งหมดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่สังเกตได้ในรูปแบบของการซื้อครั้งยาว นี้ตามด้วยโจนส์และ Sasser ของ (1995) และ Reichheld ของ (1996) บทความน้ำเชื้อจากมูลค่าทางเศรษฐกิจของความจงรักภักดีของลูกค้าในปี 1990 ข้อความ Reichheld "ผลความภักดี" (1996) ได้มีการกำหนดทิศทางและเสียงสำหรับมากของความจงรักภักดีความคิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นักการตลาดโดยตรง และเริ่มพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ความซับซ้อนมากโดยใช้การถดถอย chaid รถเข็น และสถิติอื่น ๆ มีโฟกัสเกือบทั้งหมดในที่สังเกต พฤติกรรมของผู้บริโภคในรูปแบบของการซื้อและโอกาสนี้ตามด้วย โจนส์ และ แซสเซอร์ ( 1995 ) และ reichheld ( 1996 ) บทความอสุจิในมูลค่าทางเศรษฐกิจของความภักดีของลูกค้า ในช่วงทศวรรษที่ 1990 reichheld ข้อความ " ความจงรักภักดีต่อ " ( 2539 ) ได้กำหนดทิศทางและเสียงสำหรับมากของความจงรักภักดี คิดมาหลายปี