It has been argued that the greater

It has been argued that the greater the "negotiating slack" (ie discretion granted to negotiators),the less likely it is that trade agreements will be ratified and thus successfully concluded. Alternatively,the dialogue between national ministries or departments with differing preferences will shape outcomes. A case in point would be the contrast between the US State Department interested in strategic goals such as reconstruction in Europe and containing Soviet influence in Europe,and the US Department of commerce interested in export markets for national industries.
We also saw that ideology or shifts in the prevailing paradigm shaping national policies may have an impact. A comparison between 1947-51 and the Uruguay Round provides a comparison between a period when the Cold War was beginning to one when capitalism had been accepted by virtually all countries. Did the absence of ideological conflict between communism and capitalism facilitate the conclusion of the Uruguay Round or make it harder? Have other ideological divides,such as between free trade and sustainable development,reflected in the post Uruguay Round debate rather than the negotiations of the Uruguay Round itself,only become apparent because of the absence of the old ideological divide that influenced most of the 20th century?
Finally,what role did individuals play during the two periods? Personalities such as Cordell Hull, the committed free trader in the US State Department may have shaped the outcome in the late 1940s. Perhaps individual negotiators had an impact by judgements at key times in negotiations. Instinctively one would expect individuals to have less of a role in the 1980-90s because as Chapter 3 has shown there were far more actors around than in the rather select groups that negotiated the GATT and the ITO.
Linkage has also been identified as a potential factor in outcomes. In trade policy this means,in practice,linking progress in one area with that in other policy areas or sectors. There are multilateral 'rounds' of negotiation,rather than continuous negotiations, in part because negotiators have found it helpful to negotiate packages. This permits all negotiators to come out of negotiations with successes and,in terms of negotiating process,enables negotiators to overcome zero-sum or value claiming negotiations and opt for outcomes that benefit all There may,of course,be other linkages between trade policy and other policy areas,perhaps non-economic issues. In the case of the early debates on the post-war trade regime,for example,the US could have linked its aims in trade with aid for Britain during the whole of the 1940s.
If decision-makers in government are preoccupied with political cries or other pressing issues,this may also affect outcomes. For example,it has been argued that the US Congress was preoccupied with Marshall Aid and NATO when the ITO legislation was due for ratification. Likewise, the end of the Cold War in Europe in the late 1980s and its impact on European politics has been seen as a distraction for the European government at a critical stage in the Uruguay Round negotiations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันมีการโต้เถียงที่ยิ่ง "เจรจากระตุ้น" (ie พิจารณามอบให้ผู้), ยิ่งมีแนวโน้มเป็นค้าที่ตกลงจะสำคัญ และจึง สำเร็จสรุป บทสนทนาระหว่างชาติทบวงกรมหรือหน่วยงานที่ มีลักษณะแตกต่างกัน หรือ จะรูปร่างผล กรณีในจุดจะมีความแตกต่างระหว่างเรากระทรวงสนใจเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เช่นการฟื้นฟูในยุโรป และโซเวียตประกอบด้วยอิทธิพลในยุโรป และกรมพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาส่งออกตลาดสำหรับอุตสาหกรรมแห่งชาติ เรายังเห็นว่า อุดมการณ์หรือกะในกระบวนทัศน์ปัจจุบันที่สร้างรูปร่างนโยบายแห่งชาติอาจมีผลกระทบ การเปรียบเทียบระหว่าง 1947-51 และรอบอุรุกวัยให้เปรียบเทียบระหว่างระยะเวลาเมื่อสงครามเย็นได้เริ่มต้นหนึ่งเมื่อได้รับการยอมรับทุนนิยม โดยแทบทุกประเทศ ของความขัดแย้งของอุดมการณ์คอมมิวนิสต์และทุนนิยมไม่ได้อำนวยความสะดวกของรอบอุรุกวัย หรือยาก ได้แบ่งอุดมการณ์อื่น ๆ เช่นระหว่างการค้าเสรีและการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำลงรอบอุรุกวัยอภิปรายแทนเจรจาของอุรุกวัยรอบตัวเอง เท่านั้นกลายเป็นชัดเจนเนื่องจากการขาดงานของแบ่งอุดมการณ์เก่าที่มีอิทธิพลต่อส่วนใหญ่ของศตวรรษ 20 สุดท้าย บทบาทของบุคคลเล่นช่วงสอง บุคลิกเช่นคอร์เดลล์ ผู้ประกอบการอิสระมุ่งมั่นในเรากระทรวงอาจมีทรงผลใน 2483 บางทีผู้ละได้ผลกระทบ โดย judgements ครั้งสำคัญในการเจรจา Instinctively หนึ่งคาดหวังว่าบุคคลที่จะมีบทบาทน้อยกว่าใน 1980 90s เนื่องจากมีการแสดงบทที่ 3 มีนักแสดงเพิ่มเติมไกลใกล้กว่าในกลุ่มค่อนข้างเลือกที่เจรจาแกตต์และ ITO นอกจากนี้ยังมีการระบุเชื่อมโยงเป็นตัวคูณที่อาจเกิดขึ้นในผล ในนโยบายการค้า ซึ่งหมายความ ในทางปฏิบัติ การเชื่อมโยงความคืบหน้าในพื้นที่หนึ่งกับในพื้นที่นโยบายหรือภาคอื่น ๆ มีพหุภาคี 'รอบ' ของการเจรจาต่อรอง แทนที่เจรจาต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ได้พบประโยชน์ต่อแพคเกจ นี้อนุญาตให้ผู้ทั้งหมดมาจากการเจรจากับความสำเร็จ และ ในกระบวนการเจรจาต่อรอง ผู้ช่วยให้เอาชนะผลรวมเป็นศูนย์หรือค่าอ้างเจรจา และเลือกสำหรับผลที่ได้รับประโยชน์ทั้งหมดมี แน่นอน อาจจะอื่น ๆ เชื่อมโยงระหว่างนโยบายการค้าและพื้นที่อื่น ๆ นโยบาย ปัญหาอาจไม่ใช่ทางเศรษฐกิจ กรณีดำเนินช่วงบนระบอบการค้าหลังสงคราม ตัวอย่าง สหรัฐอเมริกาสามารถเชื่อมโยงของจุดมุ่งหมายในทางการค้าด้วยความช่วยเหลือสำหรับสหราชอาณาจักรระหว่างทศวรรษ 1940 โดยทั้ง ถ้าผู้ผลิตตัดสินใจในรัฐบาลมัวแต่ร้องไห้ทางการเมืองหรือปัญหาอื่น ๆ กด นี้อาจมีผลกระทบต่อผลการ ตัวอย่าง มันมีการโต้เถียงว่า รัฐสภาสหรัฐฯ ได้มัวช่วยมาร์แชลล์และ NATO เมื่อกฎหมายอิโตะครบสำหรับการให้สัตยาบัน ในทำนองเดียวกัน จุดสิ้นสุดของสงครามเย็นในยุโรปในปลายทศวรรษ 1980 และผลกระทบในเมืองยุโรปได้เห็นเป็นที่ดีสำหรับรัฐบาลยุโรปในขั้นตอนสำคัญในการเจรจารอบอุรุกวัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จะได้รับการถกเถียงกันอยู่ว่ามากขึ้น "หย่อนการเจรจาต่อรอง" (คือดุลยพินิจรับอนุญาตให้มีการเจรจา) มีโอกาสน้อยกว่าที่มันเป็นข้อตกลงทางการค้าที่จะเป็นที่ยอมรับและทำให้ประสบความสำเร็จได้ข้อสรุป อีกวิธีหนึ่งคือการเจรจาระหว่างกระทรวงแห่งชาติหรือหน่วยงานมีการตั้งค่าที่แตกต่างกันจะมีรูปร่างผล จุดในกรณีที่จะเป็นความแตกต่างระหว่างกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐสนใจในเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เช่นการฟื้นฟูในยุโรปและมีอิทธิพลของสหภาพโซเวียตในยุโรปและสหรัฐอเมริกากรมของการค้าที่สนใจในตลาดส่งออกสำหรับอุตสาหกรรมระดับชาติ.
นอกจากนี้เรายังเห็นว่าอุดมการณ์หรือการเปลี่ยนแปลง ในการสร้างกระบวนทัศน์การแลกเปลี่ยนนโยบายระดับชาติที่อาจมีผลกระทบต่อ เปรียบเทียบระหว่าง 1947-1951 และรอบอุรุกวัยให้เปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลาที่สงครามเย็นเริ่มหนึ่งเมื่อระบบทุนนิยมได้รับการยอมรับจากแทบทุกประเทศ ไม่ขาดของความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์คอมมิวนิสต์และทุนนิยมอำนวยความสะดวกในข้อสรุปของรอบอุรุกวัยหรือทำให้มันยากขึ้น? มีแบ่งอุดมการณ์อื่น ๆ เช่นระหว่างการค้าเสรีและการพัฒนาอย่างยั่งยืนสะท้อนให้เห็นในการโพสต์การอภิปรายรอบอุรุกวัยมากกว่าเจรจารอบอุรุกวัยของตัวเองเท่านั้นที่กลายเป็นที่ชัดเจนเพราะขาดการแบ่งอุดมการณ์เก่าที่มีอิทธิพลมากที่สุดของศตวรรษที่ 20 ?
ในที่สุดสิ่งที่มีบทบาทบุคคลที่ไม่เล่นในช่วงสองช่วงเวลา? บุคลิกภาพเช่นคอร์เดลล์ฮัลล์ผู้ประกอบการค้าฟรีในความมุ่งมั่นของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาจมีรูปผลในช่วงปลายปี 1940 บางทีการเจรจาของแต่ละบุคคลมีผลกระทบโดยการตัดสินในช่วงเวลาที่สำคัญในการเจรจาต่อรอง สัญชาตญาณหนึ่งจะคาดหวังให้บุคคลที่จะมีบทบาทน้อยใน 1980-90s เพราะเป็นบทที่ 3 ได้แสดงให้เห็นมีนักแสดงที่ไกลมากขึ้นกว่าในรอบกลุ่มเลือกมากกว่าที่เจรจาแกตต์และ ITO.
เชื่อมโยงยังได้รับการระบุว่าเป็นที่มีศักยภาพ ปัจจัยในการผล นโยบายการค้าในที่นี้หมายถึงในทางปฏิบัติการเชื่อมโยงความคืบหน้าในพื้นที่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับในพื้นที่อื่น ๆ หรือนโยบายภาค มีพหุภาคี 'รอบของการเจรจาต่อรองมากกว่าการเจรจาอย่างต่อเนื่องส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเจรจาได้พบว่าเป็นประโยชน์ที่จะเจรจาต่อรองกับแพคเกจ ซึ่งช่วยให้การเจรจาทั้งหมดจะออกมาจากการเจรจากับความสำเร็จและในแง่ของกระบวนการการเจรจาต่อรองที่ช่วยให้การเจรจาที่จะเอาชนะศูนย์รวมหรือมูลค่าที่อ้างว่าการเจรจาต่อรองและเลือกผลที่ได้รับประโยชน์ทั้งหมดอาจมีของหลักสูตรจะมีความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายการค้าและ นโยบายด้านอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นปัญหาที่ไม่ใช่ทางเศรษฐกิจ ในกรณีที่มีการอภิปรายในช่วงต้นในระบอบการปกครองการค้าหลังสงครามเช่นสหรัฐอเมริกาอาจมีการเชื่อมโยงกับเป้าหมายในการค้าด้วยความช่วยเหลือสำหรับสหราชอาณาจักรในช่วงทั้งปี 1940 ที่.
หากผู้มีอำนาจตัดสินใจในรัฐบาลกำลังหมกมุ่นอยู่กับเสียงร้องทางการเมืองหรือ ปัญหาการกดอื่น ๆ นี้อาจมีผลต่อผล ยกตัวอย่างเช่นมันได้รับการถกเถียงกันอยู่ว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯกำลังหมกมุ่นอยู่กับมาร์แชลช่วยเหลือและนาโตเมื่อกฎหมาย ITO เนื่องจากให้สัตยาบัน ในทำนองเดียวกันการสิ้นสุดของสงครามเย็นในยุโรปในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และผลกระทบต่อการเมืองในยุโรปได้รับการมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวสำหรับรัฐบาลยุโรปในขั้นตอนที่สำคัญในการเจรจารอบอุรุกวัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จะได้รับการถกเถียงกันอยู่ว่ามากขึ้น " เจรจาหย่อน " ( เช่นการได้รับการเจรจา ) มากน้อย มันอยู่ที่ข้อตกลงการค้าจะให้สัตยาบัน และดังนั้นจึง เรียบร้อยแล้ว สรุป หรืออีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันระหว่างกระทรวงแห่งชาติหรือหน่วยงานที่มีลักษณะรูปทรงผลจะแตกต่างกัน .กรณีในจุดที่อาจจะแตกต่างระหว่างกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันสนใจเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ เช่น การก่อสร้าง และโซเวียตในยุโรปที่มีอิทธิพลในยุโรปและสหรัฐอเมริกากรมพาณิชย์สนใจในการส่งออกอุตสาหกรรมแห่งชาติ .
เรายังเห็นว่าอุดมการณ์หรือเปลี่ยนกระบวนทัศน์การแลกเปลี่ยนนโยบายระดับชาติที่อาจจะมีผลกระทบต่อเปรียบเทียบและ 1947-51 รอบอุรุกวัย มีการเปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลาที่สงครามเย็นกำลังเริ่มเมื่อทุนนิยมได้รับการยอมรับจากแทบทุกประเทศ ทำไมไม่มีความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างลัทธิคอมมิวนิสต์และทุนนิยมสนับสนุนข้อสรุปของการเจรจารอบอุรุกวัย หรือทำให้มันยาก ? มีแบ่งอุดมการณ์อื่น ๆเช่น ระหว่างการค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน สะท้อนให้เห็นในการโพสต์รอบอุรุกวัยอภิปรายมากกว่าการเจรจารอบอุรุกวัยของตัวเองเท่านั้นที่กลายเป็นชัดเจน เพราะการขาดอุดมการณ์ที่มีผลต่ออายุแบ่งมากที่สุดของศตวรรษที่ 20
สุดท้ายบทบาทอะไรที่บุคคลเล่นระหว่างสองช่วงเวลา ? บุคลิกภาพ เช่น คอร์เดล ฮัลล์ ,การกระทำฟรีผู้ประกอบการในกระทรวงการต่างประเทศอาจมีรูปผลในปลายทศวรรษที่ 1940 . บางทีบุคคลผู้เจรจามีผลกระทบโดยการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเจรจาสัญชาตญาณหนึ่งคาดหวังบุคคลจะมีน้อยกว่าของบทบาทใน 1980-90s เพราะเป็นบทที่ 3 ได้มีมากขึ้นกว่าในนักแสดงค่อนข้างเลือกกลุ่มที่เจรจาข้อตกลงและอิโตะ
เชื่อมโยงยังได้รับการระบุเป็นปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นในผลลัพธ์ นโยบายการค้าซึ่งหมายความว่าในทางปฏิบัติ , การเชื่อมโยงความก้าวหน้าในพื้นที่หนึ่งที่มีนโยบายอื่น ๆพื้นที่หรือภาคมี ' ' ของการเจรจาพหุภาคีรอบ แทนที่จะเจรจาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเจรจาได้พบว่ามันเป็นประโยชน์ที่จะเจรจา แพคเกจ ทั้งหมดนี้ใบอนุญาตผลิตออกมาเจรจากับความสำเร็จและในแง่ของกระบวนการเจรจาต่อรอง , ช่วยให้เอาชนะรวมศูนย์หรือค่าอ้างว่าการเจรจาและเลือกผลที่ได้รับประโยชน์ทั้งหมด อาจ แน่นอนมีความเชื่อมโยงกับนโยบายการค้า และพื้นที่อื่น ๆ นโยบาย อาจจะไม่ใช่ประเด็นทางเศรษฐกิจ ในกรณีของการอภิปรายในช่วงต้นของการปกครอง การค้า หลังสงคราม เช่น เราสามารถมีการเชื่อมโยงมีวัตถุประสงค์ในการค้ากับความช่วยเหลือในอังกฤษทั้งหมด 1940 .
ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลสาละวนกับเสียงร้องทางการเมืองหรืออื่น ๆ การกดปัญหานี้ อาจจะมีผลต่อผลลัพธ์ ตัวอย่างเช่นจะได้รับการถกเถียงกันอยู่ว่า สภาคองเกรสสหรัฐกำลังสาละวนกับมาร์แชลช่วยเหลือและนาโตเมื่อนี้กฎหมายถึงกำหนดการให้สัตยาบัน อนึ่ง การสิ้นสุดของสงครามเย็นในยุโรปในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และผลกระทบต่อการเมืองของยุโรปได้รับการมองว่าเป็นรบกวนรัฐบาลยุโรปในขั้นตอนสำคัญในการเจรจารอบอุรุกวัย .