Despite its taxonomic classificatio

Despite its taxonomic classification as a carnivoran, the giant panda's diet is primarily herbivorous, consisting almost exclusively of bamboo.[27] However, the giant panda still has the digestive system of a carnivore, as well as carnivore-specific genes,[38] and thus derives little energy and little protein from consumption of bamboo. Its ability to digest cellulose is ascribed to the microbes in its gut.[39][40] Pandas are born with sterile intestines, and require bacteria obtained from their mother's feces to digest vegetation.[41] The giant panda is a "highly specialized" animal with "unique adaptations", and has lived in bamboo forests for millions of years.[30] The average giant panda eats as much as 9 to 14 kg (20 to 30 lb) of bamboo shoots a day to compensate for its low level of energy digestibility. Ingestion of such a large quantity of material is possible due to the rapid passage of large amounts of indigestible plant material through the short, straight digestive tract.[42][43] It is also noted, however, that such rapid passage of digesta limits the potential of microbial digestion in the gastrointestinal tract,[42] limiting alternative forms of digestion. Given this large diet, the giant panda defecates up to 40 times a day.[44] The limited energy input imposed on it by its diet has affected the panda's behavior. The giant panda tends to limit its social interactions and avoids steeply sloping terrain to limit its energy expenditures.[45]

Two of the panda's most distinctive features, its large size and round face, are adaptations to its bamboo diet. Anthropologist Russell Ciochon observed: "[much] like the vegetarian gorilla, the low body surface area to body volume [of the giant panda] is indicative of a lower metabolic rate. This lower metabolic rate and a more sedentary lifestyle allows the giant panda to subsist on nutrient poor resources such as bamboo."[45] Similarly, the giant panda's round face is the result of powerful jaw muscles, which attach from the top of the head to the jaw.[45] Large molars crush and grind fibrous plant material.

The morphological characteristics of extinct relatives of the giant panda suggest that while the ancient giant panda was omnivorous 7 million years ago (mya), it only became herbivorous some 2-2.4 mya with the emergence of A. microta.[46][47] Genome sequencing of the giant panda suggests that the dietary switch could have initiated from the loss of the sole T1R1/T1R3 umami taste receptor, resulting from two frameshift mutations within the T1R1 exons.[48] Umami taste corresponds to high levels of glutamate as found in meat, and may have thus altered the food choice of the giant panda.[49] Although the pseudegenization of the umami taste receptor in Ailuropoda coincides with the dietary switch to herbivory, it is likely a result of, and not the reason for, the dietary change.[47][48][49] The mutation time for the T1R1 gene in the giant panda is estimated to 4.2 mya[47] while fossil evidence indicates bamboo consumption in the giant panda species at least 7 mya,[46] signifying that although complete herbivory occurred around 2 mya, the dietary switch was initiated prior to T1R1 loss-of-function.

Pandas eat any of 25 bamboo species in the wild, such as Fargesia dracocephala[50] and Fargesia rufa.[51] Only a few bamboo species are widespread at the high altitudes pandas now inhabit. Bamboo leaves contain the highest protein levels; stems have less.[52]

Because of the synchronous flowering, death, and regeneration of all bamboo within a species, the giant panda must have at least two different species available in its range to avoid starvation. While primarily herbivorous, the giant panda still retains decidedly ursine teeth, and will eat meat, fish, and eggs when available. In captivity, zoos typically maintain the giant panda's bamboo diet, though some will provide specially formulated biscuits or other dietary supplements.[53]

Pandas will travel between different habitats if they need to, so they can get the nutrients that they need and to balance their diet for reproduction. For six years, scientists studied six pandas tagged with GPS collars at the Foping Reserve in the Qinling Mountains. They took note of their foraging and mating habits, and analysed samples of their food and feces. The pandas would move from the valleys in to the Qinling Mountains and would only return to the valleys in Autumn. During the summer months bamboo shoots rich in protein are only available at higher altitudes which causes low calcium rates in the pandas and during breeding season the pandas would trek back down to eat bamboo leaves rich in calcium. [54]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ มีการจัดประเภทของอนุกรมวิธานเป็นการ carnivoran อาหารของแพนด้ายักษ์คือ herbivorous หลัก ประกอบด้วยเกือบเฉพาะของไม้ไผ่ [27] อย่างไรก็ตาม แพนด้ายักษ์ยังมีระบบย่อยอาหารเป็นมังสวิรัติชอบดื่มแอลกอฮอล์ เช่นมังสวิรัติชอบดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะยีน, [38] และจึง มาน้อยพลังงานและโปรตีนเล็กน้อยจากปริมาณการใช้ไม้ไผ่ ความสามารถในการย่อยเซลลูโลสเป็น ascribed ให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของ [39] [40] แพนด้าเกิดกับลำไส้ฆ่าเชื้อ และแบคทีเรียที่มาจากอุจจาระของแม่เพื่อย่อยพืชต้อง [41] แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์ "ความเชี่ยวชาญสูง" กับ "เฉพาะท้อง" และมีชีวิตอยู่ในป่าไผ่นับล้านปี [30] เฉลี่ยแพนด้ายักษ์กินถึง 9-14 kg (20-30 ปอนด์) ของหน่อไม้ที่จะชดเชยระดับต่ำของ digestibility พลังงาน กินเช่นปริมาณขนาดใหญ่ของวัสดุได้เนื่องจากเส้นทางอย่างรวดเร็วจำนวนมากวัสดุโรงงาน indigestible ผ่านทางเดินอาหารสั้น ตรงนั้น [42] [43] มันจะยังตั้งข้อสังเกต อย่างไรก็ตาม ว่า เส้นทางดังกล่าวอย่างรวดเร็วของ digesta จำกัดศักยภาพของย่อยอาหารจุลินทรีย์ในระบบทางเดิน, [42] จำกัดรูปแบบอื่นของการย่อยอาหาร ได้รับอาหารนี้ใหญ่ แพนด้ายักษ์ defecates ถึง 40 ครั้งต่อวัน [44] การป้อนพลังงานจำกัดที่กำหนดไว้ โดยอาหารมีผลกระทบพฤติกรรมของหมีแพนด้า แพนด้ายักษ์มีแนวโน้มที่จะ จำกัดการโต้ตอบทางสังคม และหลีกเลี่ยงสภาพภูมิประเทศลาดอย่างสูงการจำกัดค่าใช้จ่ายของพลังงาน [45]สองคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของหมีแพนด้า ขนาดใหญ่ความหน้ากลม มีท้องเพื่ออาหารของไม้ไผ่ สังเกต Ciochon รัสเซลนักมานุษยวิทยา: "[] เหมือนกอริลลาเจ พื้นที่ผิวของร่างกายต่ำการปริมาตรร่างกาย [ของแพนด้า] เป็นส่ออัตราการเผาผลาญที่ต่ำกว่า อัตราการเผาผลาญที่ต่ำกว่านี้และการใช้ชีวิตแย่ ๆ มากได้แพนด้าเพื่อ subsist ทรัพยากรธาตุอาหารไม่ดีเช่นไม้ไผ่" [45] ในทำนองเดียวกัน หน้ากลมของแพนด้ายักษ์คือ ผลของกล้ามเนื้อขากรรไกรที่มีประสิทธิภาพ จากด้านบนของหัวกับขากรรไกร [45] ใหญ่ molars สนใจ และบดเยื่อพืชวัสดุลักษณะสัณฐานของญาติสูญของแพนด้ายักษ์แนะนำว่า ในขณะหมีแพนด้ายักษ์โบราณ omnivorous 7 ล้านปีที่ผ่านมา (mya), มันจะกลายเป็น herbivorous mya 2-2.4 บางกับการเกิดขึ้นของ A. microta [46] [47] ลำดับจีโนมของแพนด้ายักษ์แนะนำว่า สลับอาหารอาจได้เริ่มต้นจากการสูญเสียการแต่เพียงผู้เดียว T1R1/T1R3 อูมามิรสชาติตัวรับ เกิดจากการกลายพันธุ์ frameshift สองภายใน T1R1 exons [48] อูมามิรสชาติสอดคล้องกับระดับสูงของ glutamate เป็นพบในเนื้อสัตว์ และอาจมีจึงเปลี่ยนแปลงตัวเลือกอาหารของแพนด้ายักษ์ [49] แต่ pseudegenization ของตัวรับรสอูมามิใน Ailuropoda กรุณาเปลี่ยนอาหารไป herbivory มันอาจจะเป็นผลของ และไม่สาเหตุ การเปลี่ยนแปลงอาหาร [47] [48] [49] เวลากลายพันธุ์ในยีน T1R1 ในแพนด้ายักษ์คือประมาณ 4.2 mya [47] ในขณะที่หลักฐานฟอสซิลบ่งชี้ว่า การใช้ไม้ไผ่ใน mya แพนด้ายักษ์พันธุ์น้อย 7, [46] บ่งบอกว่า แม้สมบูรณ์ herbivory เกิด mya ราว 2 สลับอาหารเป็นจุดเริ่มต้นก่อน T1R1 ขาดทุนของฟังก์ชันหมีแพนด้ากินมีพันธุ์ไผ่ 25 พิศวง Fargesia rufa และ Fargesia dracocephala [50] [51] เพียงไม้ไผ่บางพันธุ์แพร่หลายในระดับสูงที่แพนด้าอาศัยอยู่ตอนนี้ ใบไผ่ประกอบด้วยระดับโปรตีนสูงสุด ลำต้นมีน้อย [52]เพราะดอกไม้แบบซิงโครนัส ตาย การฟื้นฟูของไม้ไผ่ทั้งหมดภายในชนิด แพนด้ายักษ์ต้องมีอย่างน้อยสองสายพันธุ์ต่าง ๆ ในช่วงของการหลีกเลี่ยงความอดอยาก หลัก herbivorous แพนด้ายักษ์ยังคงรักษาฟันเด็ด ursine และจะกินเนื้อสัตว์ ปลา และไข่เมื่อมีการ กุม นิทรรศการโดยทั่วไปรักษาอาหารของแพนด้ายักษ์ไผ่ แม้ว่าบางส่วนจะให้ขนมบราหรือเสริมอาหารอื่น ๆ [53]หมีแพนด้าจะเดินทาง ระหว่างอยู่อาศัยแตกต่างกันถ้าพวกเขาต้องการ เพื่อให้พวกเขาสามารถได้รับสารอาหารที่จำเป็น และสมดุลอาหารของพวกเขาสำหรับการทำซ้ำ ปี นักวิทยาศาสตร์ศึกษาแพนด้าหกติดแท็ก ด้วย collars GPS ที่ธนาคาร Foping ใน Qinling พวกเขาของนิสัยของอก และติดสัด และ analysed ตัวอย่างของอาหารและอุจจาระของพวกเขา หมีแพนด้าจะไปจากหุบเขาในเทือกเขา Qinling และเฉพาะเที่ยวหุบเขาในฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงฤดูร้อนเดือนเฉพาะมีหน่อไม้อุดมโปรตีนในระดับสูงซึ่งทำให้แคลเซียมต่ำราคาไลต์ และ ในช่วงฤดูผสมพันธุ์หมีแพนด้าจะเดินป่ากลับลง กินไผ่ใบอุดมไปด้วยแคลเซียม [54]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะมีการจัดหมวดหมู่การจัดหมวดหมู่ของการเป็น carnivoran อาหารแพนด้ายักษ์เป็นพืชหลักประกอบด้วยเกือบเฉพาะจากไม้ไผ่. [27] อย่างไรก็ตามแพนด้ายักษ์ยังคงมีระบบการย่อยอาหารของสัตว์กินเนื้อเช่นเดียวกับยีนสัตว์กินเนื้อเฉพาะ [38] และทำให้เกิดพลังงานน้อยและโปรตีนเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการบริโภคจากไม้ไผ่ ความสามารถในการย่อยเซลลูโลสคือกำหนดจุลินทรีย์ในลำไส้ของตน. [39] [40] นุ่นจะเกิดกับลำไส้ผ่านการฆ่าเชื้อและต้องการแบคทีเรียที่ได้จากอุจจาระแม่ของพวกเขาที่จะแยกแยะพืช. [41] แพนด้ายักษ์เป็น "ความเชี่ยวชาญสูง "สัตว์ที่มี" การปรับตัวที่ไม่ซ้ำกัน "และได้อาศัยอยู่ในป่าไผ่ล้านปี. [30] แพนด้ายักษ์กินเฉลี่ยมากที่สุดเท่าที่ 9-14 กิโลกรัม (20-30 ปอนด์) หน่อไม้วันเพื่อชดเชยที่ต่ำ ระดับของการย่อยพลังงาน การกลืนกินดังกล่าวเป็นจำนวนมากของวัสดุที่เป็นไปได้เนื่องจากทางเดินอย่างรวดเร็วของจำนวนมากของวัสดุปลูกย่อยผ่านสั้นตรงทางเดินอาหาร. [42] [43] นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกต แต่ที่ดังกล่าวทางอย่างรวดเร็วของข้อ จำกัด digesta ศักยภาพของการย่อยอาหารของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร, [42] การ จำกัด รูปแบบทางเลือกของการย่อยอาหาร ได้รับอาหารที่มีขนาดใหญ่นี้แพนด้ายักษ์ defecates ถึง 40 ครั้งต่อวัน. [44] พลังงาน จำกัด กำหนดไว้ได้โดยการรับประทานอาหารที่ได้รับผลกระทบพฤติกรรมของหมีแพนด้า แพนด้ายักษ์มีแนวโน้มที่จะ จำกัด การปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและหลีกเลี่ยงพื้นที่ลาดชันที่จะ จำกัด ค่าใช้จ่ายพลังงาน. [45] สองคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของหมีแพนด้าขนาดใหญ่และใบหน้ากลมที่มีการปรับตัวที่จะรับประทานอาหารไม้ไผ่ นักมานุษยวิทยารัสเซล Ciochon สังเกต:. "[มาก] เช่นกอริลลามังสวิรัติ, พื้นที่ผิวของร่างกายต่ำปริมาณร่างกาย [ของแพนด้ายักษ์] แสดงให้เห็นถึงอัตราการเผาผลาญที่ต่ำกว่านี้อัตราการเผาผลาญที่ต่ำกว่าและมีวิถีชีวิตที่อยู่ประจำมากขึ้นช่วยให้แพนด้ายักษ์ ดำรงชีวิตอยู่กับทรัพยากรที่ไม่ดีของสารอาหารเช่นไม้ไผ่. "[45] ในทำนองเดียวกันใบหน้ากลมแพนด้ายักษ์ที่เป็นผลมาจากกล้ามเนื้อขากรรไกรที่มีประสิทธิภาพซึ่งแนบจากด้านบนของหัวขากรรไกร. [45] ปิ๊ฟันกรามขนาดใหญ่และบดพืชเส้นใย วัสดุ. ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของญาติสูญพันธุ์แพนด้ายักษ์ชี้ให้เห็นว่าในขณะที่แพนด้ายักษ์โบราณกิน 7 ล้านปีที่ผ่านมา (ม) ก็กลายเป็นพืชบาง 2-2.4 มกับการเกิดขึ้นของ microta เอ. [46] [ 47] ลำดับจีโนมของแพนด้ายักษ์แสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหารที่สวิทช์จะได้เริ่มต้นจากการสูญเสีย แต่เพียงผู้เดียว T1R1 / T1R3 รับรสชาติอูมามิที่เกิดจากการกลายพันธุ์สอง frameshift ภายใน T1R1 exons. [48] รสชาติอูมามิที่สอดคล้องกับระดับสูงของกลูตาเมต ที่พบในเนื้อสัตว์และอาจมีการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นทางเลือกที่อาหารของแพนด้ายักษ์. [49] แม้ว่า pseudegenization ของตัวรับรสอูมามิใน Ailuropoda เกิดขึ้นพร้อมกับสวิทช์การบริโภคอาหารเพื่อ herbivory มันอาจเป็นผลมาจากและไม่ได้เป็นเหตุผล สำหรับการเปลี่ยนแปลงการบริโภคอาหาร. [47] [48] [49] เวลาสำหรับการกลายพันธุ์ของยีนใน T1R1 แพนด้ายักษ์ประมาณ 4.2 ม [47] ในขณะที่หลักฐานฟอสซิลบ่งชี้การบริโภคไม้ไผ่ในสายพันธุ์แพนด้ายักษ์อย่างน้อย 7 ม [46] หมายว่าถึงแม้จะ herbivory สมบูรณ์เกิดขึ้นประมาณ 2 มสวิทช์อาหารได้ริเริ่มขึ้นก่อนที่จะมีการสูญเสีย T1R1 ของฟังก์ชั่น. นุ่นกินใด ๆ ของ 25 ชนิดไม้ไผ่ในป่าเช่น Fargesia dracocephala [50] และ Fargesia รูฟา. [ 51] เพียงไม่กี่สายพันธุ์ไม้ไผ่เป็นที่แพร่หลายในระดับสูงหมีแพนด้าอาศัยอยู่ในขณะนี้ ใบไผ่มีระดับโปรตีนสูงที่สุด; ลำต้นมีน้อย. [52] เพราะดอกซิงโครการตายและการฟื้นฟูจากไม้ไผ่ทั้งหมดภายในสายพันธุ์แพนด้ายักษ์ต้องมีอย่างน้อยสองชนิดที่แตกต่างกันอยู่ในช่วงที่จะหลีกเลี่ยงการอดอาหาร ในขณะที่กินพืชเป็นอาหารหลักแพนด้ายักษ์ยังคงรักษาฟัน ursine เด็ดและจะกินเนื้อปลาและไข่เมื่อนำมาใช้ได้ ในกรงสวนสัตว์มักจะรักษาอาหารไม้ไผ่แพนด้ายักษ์แม้บางคนจะให้บิสกิตสูตรพิเศษหรืออาหารเสริมอื่น ๆ . [53] นุ่นจะเดินทางระหว่างแหล่งที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกันหากพวกเขาต้องการที่จะให้พวกเขาสามารถได้รับสารอาหารที่พวกเขาต้องการและเพื่อความสมดุล อาหารของพวกเขาสำหรับการทำสำเนา หกปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ศึกษาหกหมีแพนด้าที่มีแท็กปกจีพีเอสที่ Foping สำรองในเทือกเขา Qinling พวกเขาเอาบันทึกการหาอาหารและพฤติกรรมการผสมพันธุ์ของพวกเขาและวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารและอุจจาระของพวกเขา หมีแพนด้าจะย้ายจากหุบเขาในเทือกเขา Qinling และจะกลับไปยังหุบเขาในฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงหน่อไม้ฤดูร้อนที่อุดมไปด้วยโปรตีนที่มีอยู่เพียงในระดับที่สูงขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุของอัตราแคลเซียมต่ำหมีแพนด้าและในช่วงฤดูผสมพันธุ์หมีแพนด้าจะเดินทางกลับลงไปกินใบไผ่อุดมไปด้วยแคลเซียม [54]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้จะมีการจำแนกทางอนุกรมวิธานเป็น carnivoran , อาหารยักษ์ของแพนด้า เป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร ประกอบด้วยเกือบเฉพาะจากไม้ไผ่ [ 27 ] อย่างไรก็ตาม หมีแพนด้ายักษ์ที่ยังคงมีระบบย่อยอาหารของสัตว์กินเนื้อ รวมทั้งยีนที่เฉพาะเจาะจงสัตว์กินเนื้อ [ 38 ] จึงได้มาพลังงานเล็ก ๆน้อย ๆและเล็ก ๆน้อย ๆโปรตีนจากการบริโภคของไม้ไผ่ความสามารถในการย่อยเซลลูโลสเป็น ascribed เพื่อจุลินทรีย์ในลำไส้ [ 39 ] [ 40 ] หมีแพนด้าจะเกิดหมันไส้ และต้องมีแบคทีเรียที่ได้จากอุจจาระของแม่ย่อยพืช [ 41 ] หมีแพนด้า เป็น " ผู้เชี่ยวชาญ " ขอสัตว์ที่มี " ดัดแปลง " ที่ไม่ซ้ำกันและได้อาศัยอยู่ในไม้ไผ่ ป่าเป็นเวลาหลายล้านปี[ 30 ] แพนด้ายักษ์ค่าเฉลี่ยกินมากเท่าที่ 9 ถึง 14 กิโลกรัม ( 20 ถึง 30 ปอนด์ ) ของหน่อไม้ วันชดเชยระดับต่ำ ประสิทธิภาพการย่อยพลังงาน การรับประทาน เช่น ปริมาณขนาดใหญ่ของวัสดุที่เป็นไปได้เนื่องจากเส้นทางอย่างรวดเร็วของจำนวนมากของวัสดุที่ไม่ย่อยพืชผ่านสั้น ระบบทางเดินอาหารตรง [ 42 ] [ 43 ] มันยังเกิด อย่างไรก็ตามที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่น digesta จำกัดศักยภาพของจุลินทรีย์ในการย่อยในทางเดินอาหาร [ 42 ] การเลือกรูปแบบของการย่อยอาหาร ประทานอาหารขนาดใหญ่นี้ หมีแพนด้า ขับถ่ายออกได้ถึง 40 ครั้งต่อวัน [ 44 ] จำกัดพลังงานเข้าบังคับ โดยอาหารของมัน ได้ส่งผลต่อพฤติกรรมของแพนด้าหมีแพนด้า มีแนวโน้มที่จะ จำกัด การปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และเพื่อหลีกเลี่ยงภูมิประเทศสูงชันลาดเอียงเพื่อ จำกัด ค่าใช้จ่ายของพลังงาน [ 45 ]

สองของแพนด้าที่โดดเด่นที่สุด ลักษณะ ขนาด และใบหน้ากลมๆของมัน มีการดัดแปลงอาหารไม้ไผ่ของ นักมานุษยวิทยารั ซล ไซโอชอนสังเกต : " [ มาก ] ชอบมังสวิรัติ กอริลลา