เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่า หลาย ๆ คนคงจะตอบว่าเป็น ย่างกุ้ง แต่แท้ที การแปล - เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่า หลาย ๆ คนคงจะตอบว่าเป็น ย่างกุ้ง แต่แท้ที ไทย วิธีการพูด

เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่า หลาย ๆ

เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่า หลาย ๆ คนคงจะตอบว่าเป็น ย่างกุ้ง แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น พม่าได้มีการย้ายเมืองหลวงออกไปจากย่างกุ้ง ตั้งแต่ปี 2548 หรือกว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่มีชื่อว่า กรุงเนปีดอ และในปีหน้าทางการพม่าก็จะเปิดเมืองหลวงแห่งใหม่นี้รับนักท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก

สำหรับเหตุผลในการย้ายเมืองหลวงนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด บ้างก็ว่า เป็นเพราะนายพลตาน ฉ่วย ผู้นำของรัฐบาลทหารพม่า เชื่อคำทำนายของโหรที่กล่าวว่า การย้ายเมืองหลวง จะเป็นการฟื้นฟูธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ของพม่าสมัยที่ยังมีกษัตริย์ปกครอง ประเทศ เพราะในอดีตนั้น เมืองหลวงของพม่านั้นจะขึ้นอยู่กับว่า กษัตริย์ที่ปกครองในยุคนั้นต้องการให้เป็นเมืองใด เราจึงเห็นเมือง พุกาม อังวะ ตองอู หงสาวดี ที่ล้วนแล้วแต่เคยเป็นเมืองหลวงของพม่ามาแล้วทั้งสิ้น

ทว่าบ้างก็ระบุว่า เหตุผลในการโยกย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ว่า เป็นเพราะจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร เนื่องจากว่า กองทัพบกของพม่ามีความแข็งแกร่งกว่ากองทัพเรือ ดังนั้นหากเมืองหลวงยังอยู่ที่ย่างกุ้ง ก็ย่อมที่จะถูกโจมตีได้ง่าย การย้ายเมืองหลวงจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุผลของการย้ายจะเป็นอะไรนั้น วันนี้ พม่าได้สถาปนาเมืองหลวงแห่งใหม่ขึ้นมาแล้ว นั่นคือ กรุงเนปีดอ

กรุงเนปีดอ เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 และสร้างเสร็จสิ้นเมื่อปี พ.ศ. 2551 มี เนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 7 พันตารางกิโลเมตร หรือถ้าเทียบขนาดกับประเทศสิงคโปร์แล้ว ก็จะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 10 เท่า กรุงเนปีดอ ตั้งอยู่ในเขตเมืองปินนามา บริเวณตอนกลางของประเทศ ซึ่งห่างจากกรุงย่างกุ้งไปประมาณ 385 กิโลเมตร

ผังเมืองของกรุงเนปีดอ แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ๆ คือ โซนราชการ โซนโรงแรม โซนอุตสาหกรรม และโซนทหาร ซึ่งปัจจุบัน มีประชากรย้ายเข้าไปยังกรุงเนปีดอกว่า 9 แสนคน โดยที่กรุงเนปีดอ มีโรงแรมอยู่ทั้งสิ้น 24 แห่ง กว่า 1,600 ห้อง แต่นั่นเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงเป็น โซนทหาร เนื่องจากเต็มไปด้วยศูนย์ราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และคลังอาวุธเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศ

แต่ไฮไลท์ของกรุงเนปีดอ อยู่ที่การสร้างอนุสาวรีย์ของ 3 กษัตริย์ผู้ก่อตั้งพม่า คือ พระเจ้าอโนรธา แห่งเมืองพุกาม พระเจ้าบุเรงนอง แห่งกรุงหงสาวดี และพระเจ้าอลองชญา แห่งชเวโบ ซึ่งอนุสาวรีย์ของสามบูรพกษัตริย์นี้ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ใจกลางเมืองเนปีดอ และไม่ใช่เพียงเท่านั้น ทางการพม่ายังได้สร้างมหาเจดีย์อุปปตศานติ โดยแบบจำลองของมหาเจดีย์ชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง สร้างแรงดึงดุดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมยิงนัก

แม้ว่าจะอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไม่มาก แต่การเดินทางโดยทางรถยนต์ไปยังกรุงเนปีดอนั้น จะต้องใช้เวลาราว 7-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว เนื่องจากถนนหนทางยังไม่เรียบร้อย และที่ตั้งของกรุงเนปีดอเองก็อยู่ในหุบเขาลึก และแม้ว่าจะมีการสร้างถนนมุ่งสู่เมืองหลวงแห่งใหม่นี้ ความยาวกว่า 323.3 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อ 3 เมืองหลักของประเทศ คือ เนปีดอ ย่างกุ้ง มันฑะเลย์ แต่ทว่าทางหลวงสายนี้ยังไม่มีผู้ใช้งานสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารพม่า ก็มีแผนที่จะสร้างรถไฟใต้ดิน ความยาวกว่า 50 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อกรุงเนปีดอสู่ส่วนต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย

ส่วนสนามบินของกรุงเนปีดอนั้น ได้มีการเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของประเทศขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งใช้ในโอกาสที่พม่า เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเพื่อใช้ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่า ในอนาคต จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ ในตอนย้ายกรุง ยังคงมีมาให้พูดถึงกันจนปัจจุบัน ทางด้านความพร้อมนั้น ยังคงไม่มีใครกล้าตอบว่า พร้อมสมบูรณ์แบบ เนื่องจากสาธารณูปโภค โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ก็เพิ่งสร้างเสร็จ และการคมนาคมก็ยังไม่สะดวกเรียบร้อย แม้จะมีการเปิดถนน 8 เลน ที่เชื่อมกรุงเนปีดอกับจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีรถผ่านแต่อย่างใด ซ้ำยังถูกสื่อต่างชาติขนานนามว่า เป็นเมืองหลวงที่ไร้ชีวิตชีวา เนื่องจากมีคนอยู่น้อย และถนนหนทางยังโล่งเสียเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดี อาจจะเป็นเพราะปกครองด้วยระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จจึงทำให้มีการสั่งการรวด เร็ว และย้ายเมืองหลวงได้ภายในระยะเวลาอันสั้น มีข่าวว่า มีการใช้รถบรรทุก 18 ล้อ ขนสัมภาระทั้งวันทั้งคืน เพื่อเร่งสร้างเมืองใหม่ให้เสร็จโดยด่วน ดังนั้น เวลาที่ใช้ในการสร้างเมืองใหม่จึงรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพราะเพียง แค่ 3 ปีก็พร้อมที่จะเปิดเนปีดอ ออกสู่สายตาของชาวโลก และการบริหาร จัดการที่รวดเร็วแบบนี้ ก็คงต้องพึ่งเงินทุนมหาศาลจากแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ ซึ่งประเทศจีน ได้อนุมัติเงินกู้กว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทย ก็อนุมัติเงินกู้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ ผ่านเอ็กซิมแบงค์ เพื่อให้รัฐบาลพม่านำไปใช้ในการสร้างเมืองหลวงใหม่ของประเทศ

แม้ว่ากรุงเนปีดอจะสร้างเสร็จพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ทางการพม่าก็ไม่อนุญาตให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมจนกว่าจะถึงปี พ.ศ. 2555 ยกเว้นผู้ที่มีวีซ่าธุรกิจ จึงสามารถเข้ากรุงเนปีดอได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวยังเสนอให้รัฐบาลพม่าออกวีซ่านักท่องเที่ยว เพื่อต้อนรับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปี 2013 และการประชุมสุดยอดอาเซียน ปี 2014 ที่กำลังจะมาถึง

สุดท้ายนี้ เราคงต้องจับตาดูกันว่า เมืองหลวงแห่งใหม่ ที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการสร้าง จะสามารถพาพม่าเข้าสู่ยุคใหม่ และนำความเจริญรุ่งเรืองสู่ภูมิภาคแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีนี้ได้หรือไม่...
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่าหลายๆ คนคงจะตอบว่าเป็นย่างกุ้งแต่แท้ที่จริงแล้วนั้นพม่าได้มีการย้ายเมืองหลวงออกไปจากย่างกุ้งตั้งแต่ปี 2548 หรือกว่า 6 ปีแล้วซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่มีชื่อว่ากรุงเนปีดอและในปีหน้าทางการพม่าก็จะเปิดเมืองหลวงแห่งใหม่นี้รับนักท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก สำหรับเหตุผลในการย้ายเมืองหลวงนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดบ้างก็ว่าเป็นเพราะนายพลตานฉ่วยผู้นำของรัฐบาลทหารพม่าเชื่อคำทำนายของโหรที่กล่าวว่าการย้ายเมืองหลวงจะเป็นการฟื้นฟูธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ของพม่าสมัยที่ยังมีกษัตริย์ปกครองประเทศเพราะในอดีตนั้นเมืองหลวงของพม่านั้นจะขึ้นอยู่กับว่ากษัตริย์ที่ปกครองในยุคนั้นต้องการให้เป็นเมืองใดเราจึงเห็นเมืองพุกามอังวะตองอูหงสาวดีที่ล้วนแล้วแต่เคยเป็นเมืองหลวงของพม่ามาแล้วทั้งสิ้น ทว่าบ้างก็ระบุว่าเหตุผลในการโยกย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ว่าเป็นเพราะจุดยุทธศาสตร์ทางทหารเนื่องจากว่ากองทัพบกของพม่ามีความแข็งแกร่งกว่ากองทัพเรือดังนั้นหากเมืองหลวงยังอยู่ที่ย่างกุ้งก็ย่อมที่จะถูกโจมตีได้ง่ายการย้ายเมืองหลวงจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดอย่างไรก็ตามไม่ว่าเหตุผลของการย้ายจะเป็นอะไรนั้นวันนี้พม่าได้สถาปนาเมืองหลวงแห่งใหม่ขึ้นมาแล้วนั่นคือกรุงเนปีดอกรุงเนปีดอเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 และสร้างเสร็จสิ้นเมื่อปีพ.ศ. 2551 มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 7 พันตารางกิโลเมตรหรือถ้าเทียบขนาดกับประเทศสิงคโปร์แล้วก็จะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 10 เท่ากรุงเนปีดอตั้งอยู่ในเขตเมืองปินนามาบริเวณตอนกลางของประเทศซึ่งห่างจากกรุงย่างกุ้งไปประมาณ 385 กิโลเมตร ผังเมืองของกรุงเนปีดอแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ คือโซนราชการโซนโรงแรมโซนอุตสาหกรรมและโซนทหารซึ่งปัจจุบันมีประชากรย้ายเข้าไปยังกรุงเนปีดอกว่า 9 แสนคนโดยที่กรุงเนปีดอมีโรงแรมอยู่ทั้งสิ้น 24 แห่งกว่า 1600 ห้องแต่นั่นเป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้นเพราะสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นโซนทหารเนื่องจากเต็มไปด้วยศูนย์ราชการโรงเรียนมหาวิทยาลัยและคลังอาวุธเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศแต่ไฮไลท์ของกรุงเนปีดออยู่ที่การสร้างอนุสาวรีย์ของ 3 กษัตริย์ผู้ก่อตั้งพม่าคือพระเจ้าอโนรธาแห่งเมืองพุกามพระเจ้าบุเรงนองแห่งกรุงหงสาวดีและพระเจ้าอลองชญาแห่งชเวโบซึ่งอนุสาวรีย์ของสามบูรพกษัตริย์นี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ใจกลางเมืองเนปีดอและไม่ใช่เพียงเท่านั้นทางการพม่ายังได้สร้างมหาเจดีย์อุปปตศานติโดยแบบจำลองของมหาเจดีย์ชเวดากองในกรุงย่างกุ้งสร้างแรงดึงดุดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมยิงนัก แม้ว่าจะอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไม่มากแต่การเดินทางโดยทางรถยนต์ไปยังกรุงเนปีดอนั้นจะต้องใช้เวลาราว 7-8 ชั่วโมงเลยทีเดียวเนื่องจากถนนหนทางยังไม่เรียบร้อยและที่ตั้งของกรุงเนปีดอเองก็อยู่ในหุบเขาลึกและแม้ว่าจะมีการสร้างถนนมุ่งสู่เมืองหลวงแห่งใหม่นี้ความยาวกว่า 323.3 กิโลเมตรเพื่อเชื่อมต่อ 3 เมืองหลักของประเทศคือเนปีดอย่างกุ้งมันฑะเลย์แต่ทว่าทางหลวงสายนี้ยังไม่มีผู้ใช้งานสักเท่าไหร่อย่างไรก็ตามรัฐบาลทหารพม่าก็มีแผนที่จะสร้างรถไฟใต้ดินความยาวกว่า 50 กิโลเมตรเพื่อเชื่อมต่อกรุงเนปีดอสู่ส่วนต่างๆ ของประเทศอีกด้วย ส่วนสนามบินของกรุงเนปีดอนั้นได้มีการเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของประเทศขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งใช้ในโอกาสที่พม่าเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขงและเพื่อใช้ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆส่วนปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในตอนย้ายกรุงยังคงมีมาให้พูดถึงกันจนปัจจุบันทางด้านความพร้อมนั้นยังคงไม่มีใครกล้าตอบว่าพร้อมสมบูรณ์แบบเนื่องจากสาธารณูปโภคโรงพยาบาลโรงเรียนมหาวิทยาลัยก็เพิ่งสร้างเสร็จและการคมนาคมก็ยังไม่สะดวกเรียบร้อยแม้จะมีการเปิดถนน 8 เลนที่เชื่อมกรุงเนปีดอกับจังหวัดอื่นๆ ในประเทศแต่ก็ยังไม่ค่อยมีรถผ่านแต่อย่างใดซ้ำยังถูกสื่อต่างชาติขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงที่ไร้ชีวิตชีวาเนื่องจากมีคนอยู่น้อยและถนนหนทางยังโล่งเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดีอาจจะเป็นเพราะปกครองด้วยระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จจึงทำให้มีการสั่งการรวดเร็วและย้ายเมืองหลวงได้ภายในระยะเวลาอันสั้นมีข่าวว่ามีการใช้รถบรรทุก 18 ล้อขนสัมภาระทั้งวันทั้งคืนเพื่อเร่งสร้างเมืองใหม่ให้เสร็จโดยด่วนดังนั้นเวลาที่ใช้ในการสร้างเมืองใหม่จึงรวดเร็วเป็นอย่างมากเพราะเพียงแค่ 3 ปีก็พร้อมที่จะเปิดเนปีดอออกสู่สายตาของชาวโลกและการบริหารจัดการที่รวดเร็วแบบนี้ก็คงต้องพึ่งเงินทุนมหาศาลจากแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ซึ่งประเทศจีนได้อนุมัติเงินกู้กว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐและประเทศไทยก็อนุมัติเงินกู้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ผ่านเอ็กซิมแบงค์เพื่อให้รัฐบาลพม่านำไปใช้ในการสร้างเมืองหลวงใหม่ของประเทศแม้ว่ากรุงเนปีดอจะสร้างเสร็จพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วแต่ทางการพม่าก็ไม่อนุญาตให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมจนกว่าจะถึงปีพ.ศ. 2555 ยกเว้นผู้ที่มีวีซ่าธุรกิจจึงสามารถเข้ากรุงเนปีดอได้นอกจากนี้ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวยังเสนอให้รัฐบาลพม่าออกวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปี 2013 และการประชุมสุดยอดอาเซียนปี 2014 ที่กำลังจะมาถึง สุดท้ายนี้เราคงต้องจับตาดูกันว่าเมืองหลวงแห่งใหม่ที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการสร้างจะสามารถพาพม่าเข้าสู่ยุคใหม่และนำความเจริญรุ่งเรืองสู่ภูมิภาคแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีนี้ได้หรือไม่...
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่า หลาย ๆ คนคงจะตอบว่าเป็น ย่างกุ้ง แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น พม่าได้มีการย้ายเมืองหลวงออกไปจากย่างกุ้ง ตั้งแต่ปี 2548 หรือกว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่มีชื่อว่า กรุงเนปีดอ และในปีหน้าทางการพม่าก็จะเปิดเมืองหลวงแห่งใหม่นี้รับนักท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก

สำหรับเหตุผลในการย้ายเมืองหลวงนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด บ้างก็ว่า เป็นเพราะนายพลตาน ฉ่วย ผู้นำของรัฐบาลทหารพม่า เชื่อคำทำนายของโหรที่กล่าวว่า การย้ายเมืองหลวง จะเป็นการฟื้นฟูธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ของพม่าสมัยที่ยังมีกษัตริย์ปกครอง ประเทศ เพราะในอดีตนั้น เมืองหลวงของพม่านั้นจะขึ้นอยู่กับว่า กษัตริย์ที่ปกครองในยุคนั้นต้องการให้เป็นเมืองใด เราจึงเห็นเมือง พุกาม อังวะ ตองอู หงสาวดี ที่ล้วนแล้วแต่เคยเป็นเมืองหลวงของพม่ามาแล้วทั้งสิ้น

ทว่าบ้างก็ระบุว่า เหตุผลในการโยกย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ว่า เป็นเพราะจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร เนื่องจากว่า กองทัพบกของพม่ามีความแข็งแกร่งกว่ากองทัพเรือ ดังนั้นหากเมืองหลวงยังอยู่ที่ย่างกุ้ง ก็ย่อมที่จะถูกโจมตีได้ง่าย การย้ายเมืองหลวงจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุผลของการย้ายจะเป็นอะไรนั้น วันนี้ พม่าได้สถาปนาเมืองหลวงแห่งใหม่ขึ้นมาแล้ว นั่นคือ กรุงเนปีดอ

กรุงเนปีดอ เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 และสร้างเสร็จสิ้นเมื่อปี พ.ศ. 2551 มี เนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 7 พันตารางกิโลเมตร หรือถ้าเทียบขนาดกับประเทศสิงคโปร์แล้ว ก็จะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 10 เท่า กรุงเนปีดอ ตั้งอยู่ในเขตเมืองปินนามา บริเวณตอนกลางของประเทศ ซึ่งห่างจากกรุงย่างกุ้งไปประมาณ 385 กิโลเมตร

ผังเมืองของกรุงเนปีดอ แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ๆ คือ โซนราชการ โซนโรงแรม โซนอุตสาหกรรม และโซนทหาร ซึ่งปัจจุบัน มีประชากรย้ายเข้าไปยังกรุงเนปีดอกว่า 9 แสนคน โดยที่กรุงเนปีดอ มีโรงแรมอยู่ทั้งสิ้น 24 แห่ง กว่า 1,600 ห้อง แต่นั่นเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงเป็น โซนทหาร เนื่องจากเต็มไปด้วยศูนย์ราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และคลังอาวุธเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศ

แต่ไฮไลท์ของกรุงเนปีดอ อยู่ที่การสร้างอนุสาวรีย์ของ 3 กษัตริย์ผู้ก่อตั้งพม่า คือ พระเจ้าอโนรธา แห่งเมืองพุกาม พระเจ้าบุเรงนอง แห่งกรุงหงสาวดี และพระเจ้าอลองชญา แห่งชเวโบ ซึ่งอนุสาวรีย์ของสามบูรพกษัตริย์นี้ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ใจกลางเมืองเนปีดอ และไม่ใช่เพียงเท่านั้น ทางการพม่ายังได้สร้างมหาเจดีย์อุปปตศานติ โดยแบบจำลองของมหาเจดีย์ชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง สร้างแรงดึงดุดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมยิงนัก

แม้ว่าจะอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไม่มาก แต่การเดินทางโดยทางรถยนต์ไปยังกรุงเนปีดอนั้น จะต้องใช้เวลาราว 7-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว เนื่องจากถนนหนทางยังไม่เรียบร้อย และที่ตั้งของกรุงเนปีดอเองก็อยู่ในหุบเขาลึก และแม้ว่าจะมีการสร้างถนนมุ่งสู่เมืองหลวงแห่งใหม่นี้ ความยาวกว่า 323.3 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อ 3 เมืองหลักของประเทศ คือ เนปีดอ ย่างกุ้ง มันฑะเลย์ แต่ทว่าทางหลวงสายนี้ยังไม่มีผู้ใช้งานสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารพม่า ก็มีแผนที่จะสร้างรถไฟใต้ดิน ความยาวกว่า 50 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อกรุงเนปีดอสู่ส่วนต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย

ส่วนสนามบินของกรุงเนปีดอนั้น ได้มีการเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของประเทศขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งใช้ในโอกาสที่พม่า เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเพื่อใช้ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่า ในอนาคต จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ ในตอนย้ายกรุง ยังคงมีมาให้พูดถึงกันจนปัจจุบัน ทางด้านความพร้อมนั้น ยังคงไม่มีใครกล้าตอบว่า พร้อมสมบูรณ์แบบ เนื่องจากสาธารณูปโภค โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ก็เพิ่งสร้างเสร็จ และการคมนาคมก็ยังไม่สะดวกเรียบร้อย แม้จะมีการเปิดถนน 8 เลน ที่เชื่อมกรุงเนปีดอกับจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีรถผ่านแต่อย่างใด ซ้ำยังถูกสื่อต่างชาติขนานนามว่า เป็นเมืองหลวงที่ไร้ชีวิตชีวา เนื่องจากมีคนอยู่น้อย และถนนหนทางยังโล่งเสียเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดี อาจจะเป็นเพราะปกครองด้วยระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จจึงทำให้มีการสั่งการรวด เร็ว และย้ายเมืองหลวงได้ภายในระยะเวลาอันสั้น มีข่าวว่า มีการใช้รถบรรทุก 18 ล้อ ขนสัมภาระทั้งวันทั้งคืน เพื่อเร่งสร้างเมืองใหม่ให้เสร็จโดยด่วน ดังนั้น เวลาที่ใช้ในการสร้างเมืองใหม่จึงรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพราะเพียง แค่ 3 ปีก็พร้อมที่จะเปิดเนปีดอ ออกสู่สายตาของชาวโลก และการบริหาร จัดการที่รวดเร็วแบบนี้ ก็คงต้องพึ่งเงินทุนมหาศาลจากแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ ซึ่งประเทศจีน ได้อนุมัติเงินกู้กว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทย ก็อนุมัติเงินกู้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ ผ่านเอ็กซิมแบงค์ เพื่อให้รัฐบาลพม่านำไปใช้ในการสร้างเมืองหลวงใหม่ของประเทศ

แม้ว่ากรุงเนปีดอจะสร้างเสร็จพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ทางการพม่าก็ไม่อนุญาตให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมจนกว่าจะถึงปี พ.ศ. 2555 ยกเว้นผู้ที่มีวีซ่าธุรกิจ จึงสามารถเข้ากรุงเนปีดอได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวยังเสนอให้รัฐบาลพม่าออกวีซ่านักท่องเที่ยว เพื่อต้อนรับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ปี 2013 และการประชุมสุดยอดอาเซียน ปี 2014 ที่กำลังจะมาถึง

สุดท้ายนี้ เราคงต้องจับตาดูกันว่า เมืองหลวงแห่งใหม่ ที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการสร้าง จะสามารถพาพม่าเข้าสู่ยุคใหม่ และนำความเจริญรุ่งเรืองสู่ภูมิภาคแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีนี้ได้หรือไม่...
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เมื่อเอ่ยถึงเมืองหลวงของพม่าหลายจะคนคงจะตอบว่าเป็นย่างกุ้งแต่แท้ที่จริงแล้วนั้นพม่าได้มีการย้ายเมืองหลวงออกไปจากย่างกุ้งตั้งแต่ปี 2548 หรือกว่า 6 ปีแล้วซึ่งเมืองหลวงแห่งใหม่มีชื่อว่ากรุงเนปีดอ
สำหรับเหตุผลในการย้ายเมืองหลวงนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดบ้างก็ว่าเป็นเพราะนายพลตานฉ่วยผู้นำของรัฐบาลทหารพม่าเชื่อคำทำนายของโหรที่กล่าวว่าการย้ายเมืองหลวงประเทศเพราะในอดีตนั้นเมืองหลวงของพม่านั้นจะขึ้นอยู่กับว่ากษัตริย์ที่ปกครองในยุคนั้นต้องการให้เป็นเมืองใดเราจึงเห็นเมืองพุกามอังวะตองอูหงสาวดีที่ล้วนแล้วแต่เคยเป็นเมืองหลวงของพม่ามาแล้วทั้งสิ้น

ทว่าบ้างก็ระบุว่าเหตุผลในการโยกย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ว่าเป็นเพราะจุดยุทธศาสตร์ทางทหารเนื่องจากว่ากองทัพบกของพม่ามีความแข็งแกร่งกว่ากองทัพเรือดังนั้นหากเมืองหลวงยังอยู่ที่ย่างกุ้งการย้ายเมืองหลวงจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดอย่างไรก็ตามไม่ว่าเหตุผลของการย้ายจะเป็นอะไรนั้นวันนี้พม่าได้สถาปนาเมืองหลวงแห่งใหม่ขึ้นมาแล้วนั่นคือกรุงเนปีดอ

กรุงเนปีดอเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปีพ . ศ . 2548 และสร้างเสร็จสิ้นเมื่อปีพ . ศ .คอนโดเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 2551 7 พันตารางกิโลเมตรหรือถ้าเทียบขนาดกับประเทศสิงคโปร์แล้วก็จะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 10 เท่ากรุงเนปีดอตั้งอยู่ในเขตเมืองปินนามาบริเวณตอนกลางของประเทศ385 กิโลเมตร

ผังเมืองของกรุงเนปีดอแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักไม่มีความโซนราชการโซนโรงแรมโซนอุตสาหกรรมและโซนทหารซึ่งปัจจุบันมีประชากรย้ายเข้าไปยังกรุงเนปีดอกว่า 9 แสนคนโดยที่กรุงเนปีดอมีโรงแรมอยู่ทั้งสิ้น 24 แห่งกว่า 1
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: