Before obtaining transactional data

Before obtaining transactional data about multiple unidentified users of communications or other online services when trying to track down a suspect, the government should first demonstrate to a court that the data is needed for its criminal investigation.

This principle addresses the circumstance when the government uses subpoenas to get information in bulk about broad categories of telephone or Internet users, rather than seeking the records of specific individuals that are relevant to an investigation. For example, there have been reported cases of bulk requests for information about everyone that visited a particular web site on a particular day, or everyone that used the Internet to sell products in a particular jurisdiction.
Because such bulk requests for information on classes of unidentified individuals implicate unique privacy interests, this principle applies a standard requiring a showing to the court that the bulk data is relevant to an investigation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนที่จะได้รับข้อมูลธุรกรรมเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ไม่ได้ระบุหลายสื่อสารหรือบริการออนไลน์อื่น ๆ เมื่อคุณพยายามที่ติดตามผู้ต้องสงสัย รัฐบาลควรแรกแสดงให้เห็นถึงศาลว่า ข้อมูลจำเป็นสำหรับการสอบสวนคดีอาญาหลักการนี้เน้นสถานการณ์เมื่อรัฐบาลใช้ subpoenas เพื่อรับข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับประเภทสิ่งของโทรศัพท์ หรืออินเตอร์เนต มากกว่าค้นหาระเบียนของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน ตัวอย่างเช่น ได้รับรายงานกรณีของจำนวนมากร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับทุกคนที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เฉพาะในวันหนึ่ง ๆ หรือคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการขายสินค้าในเขตอำนาจศาลเฉพาะเนื่องจากคำขอดังกล่าวจำนวนมากสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนของบุคคลไม่ได้ระบุอ้างอิงถึงการสนใจเฉพาะส่วน หลักการนี้ใช้เป็นมาตรฐานที่ต้องแสดงต่อศาลว่า ข้อมูลจำนวนมากที่มีเกี่ยวข้องกับการสอบสวน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนที่จะได้รับข้อมูลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ไม่ปรากฏชื่อหลายของการสื่อสารหรือบริการออนไลน์อื่น ๆ เมื่อพยายามที่จะติดตามผู้ต้องสงสัยรัฐบาลควรแสดงให้เห็นถึงศาลว่าข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสอบสวนทางอาญาของตน.

หลักการนี้อยู่สถานการณ์เมื่อรัฐบาลใช้หมายศาล ที่จะได้รับในปริมาณมากเกี่ยวกับประเภทกว้างของโทรศัพท์หรือผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าการแสวงหาบันทึกเฉพาะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการสืบสวน ตัวอย่างเช่นมีได้รับรายงานกรณีของการร้องขอจำนวนมากสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันหนึ่งหรือทุกคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการขายสินค้าในเขตอำนาจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง.
เพราะมีคำขอกลุ่มดังกล่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนที่ไม่ปรากฏชื่อ บุคคลที่พัวพันผลประโยชน์ความเป็นส่วนตัวที่ไม่ซ้ำกันหลักการนี้ใช้มาตรฐานที่กำหนดให้แสดงต่อศาลว่าข้อมูลเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนต่อ A

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนที่จะได้รับการระบุข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ของการสื่อสารหรือบริการออนไลน์อื่น ๆ เมื่อพยายามที่จะติดตามว่า รัฐบาลควรแสดงให้ศาลเห็นว่าเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสอบสวนคดีอาญาของหลักการนี้เน้นสถานการณ์เมื่อรัฐบาลใช้หมายศาลเพื่อรับข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับกว้างประเภทของโทรศัพท์หรือผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าการแสวงหาข้อมูลบุคคลที่เฉพาะเจาะจงที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน ตัวอย่างเช่นมีการรายงานกรณีของการร้องขอจำนวนมากสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับทุกคนที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละวัน หรือทุกคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อขายสินค้าในสังกัด โดยเฉพาะเพราะเป็นกลุ่มเช่นการร้องขอสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนของบุคคลนิรนาม เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ส่วนตัวกัน หลักการนี้ใช้มาตรฐานที่ต้องการแสดงต่อศาลว่า ข้อมูลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน