In this article, we test psychodyna

In this article, we test psychodynamic assumptions about envy and narcissism by examining malicious envy in the context of narcissistic grandiosity and vulnerability. In Study 1, students (N = 192) and community adults (N = 161) completed trait measures of narcissism, envy, and schadenfreude. In Study 2 (N = 121), participants relived an episode of envy, and cognitive-affective components of envy were examined in the context of both self- and informant reports of their envy and narcissism. In Study 3 (N = 69), narcissism was linked to reports of envy covertly induced in the laboratory. Vulnerable narcissism was strongly and consistently related to dispositional envy and schadenfreude (Studies 1-2), as well as to all cognitive-affective components of envy (Study 2). Furthermore, it facilitated envy and schadenfreude toward a high-status peer (Study 3). Grandiose narcissism was slightly negatively related to dispositional envy (Studies 1-2), and it did not predict informant reports of envy or cognitive-affective components of the emotion (Study 2). Finally, it did not exacerbate envy, hostility, or resentment toward a high-status peer (Study 3). The results suggest envy is a central emotion in the lives of those with narcissistic vulnerability and imply that envy should be reconsidered as a symptom accompanying grandiose features in the diagnosis of narcissistic personality disorder.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบทความนี้ เราทดสอบสมมติฐาน psychodynamic envy และ narcissism โดย envy ที่เป็นอันตรายในบริบทของ grandiosity ซึ่งบูชาตัวเองและช่องโหว่การตรวจสอบ ในการศึกษา 1 นักเรียน (N = 192) และผู้ใหญ่ในชุมชน (N = 161) ติดวัด narcissism, envy และ schadenfreude เสร็จสมบูรณ์ ในการศึกษา 2 (N = 121), ผู้เข้าร่วม relived เป็นตอนของ envy และส่วนประกอบที่รับรู้ผลของ envy ถูกตรวจสอบในบริบทของตนเองและผู้ให้ข้อมูลรายงานของ envy narcissism ในการศึกษา 3 (N = 69), narcissism ถูกเชื่อมโยงกับรายงานของ envy ประสงค์เกิดในห้องปฏิบัติการ Narcissism เสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ และขอเกี่ยวการโอนการครอบครอง envy schadenfreude (ศึกษาประกอบรับรู้ผล 1 - 2) รวมทั้งหมดของ envy (เรียน 2) นอกจากนี้ มันอำนวย envy และ schadenfreude ต่อเพียร์สถานะสูง (ศึกษา 3) ยอดเยี่ยม narcissism ถูก envy ลบเล็กน้อยที่เกี่ยวข้องกับการโอนการครอบครอง (ศึกษา 1 - 2) และมันได้ไม่ทำนายว่า ผู้ให้ข้อมูลรายงานของ envy หรือส่วนประกอบที่รับรู้ผลของอารมณ์ (เรียน 2) ในที่สุด มันไม่ได้ไม่ทำให้รุนแรง envy ศัตรู คับแค้นใจต่อเพียร์สถานะสูง (ศึกษา 3) ผลแนะนำ envy เป็นอารมณ์กลางในชีวิตของผู้ที่มีช่องโหว่ซึ่งบูชาตัวเอง และเป็นสิทธิ์แบบว่า ควรทบทวน envy เป็นอาการพร้อมคุณสมบัติยอดเยี่ยมในการวินิจฉัยโรคบุคลิกภาพซึ่งบูชาตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบทความนี้เราจะทำการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับจิตบำบัดอิจฉาและหลงตัวเองโดยการตรวจสอบความอิจฉาที่เป็นอันตรายในบริบทของการโอ้อวดหลงใหลในตัวเองและความเปราะบาง ในการศึกษาครั้งที่ 1 นักเรียน (จำนวน = 192) และผู้ใหญ่ในชุมชน (จำนวน = 161) เสร็จมาตรการลักษณะของการหลงตัวเองอิจฉาและ Schadenfreude ในการศึกษาครั้งที่ 2 (จำนวน = 121), ผู้เข้าร่วมหวนนึกไปตอนของความอิจฉาและองค์ประกอบความรู้ความเข้าใจอารมณ์ของความอิจฉามีการตรวจสอบในบริบทของทั้งตนเองและรายงานแจ้งของความอิจฉาของพวกเขาและหลงตัวเอง ในการศึกษาครั้งที่ 3 (จำนวน = 69) หลงตัวเองได้รับการเชื่อมโยงกับรายงานของความอิจฉาชักนำซ่อนเร้นในห้องปฏิบัติการ หลงตัวเองมีช่องโหว่ที่ถูกอย่างมากและที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อความอิจฉา dispositional และ Schadenfreude (การศึกษา 1-2), เช่นเดียวกับทุกองค์ประกอบความรู้ความเข้าใจอารมณ์ของความอิจฉา (การศึกษา 2) นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกและความอิจฉา Schadenfreude ต่อเพื่อนสถานะสูง (มีการศึกษา 3) หลงตัวเองยิ่งใหญ่เล็กน้อยที่เกี่ยวข้องในเชิงลบกับความอิจฉา dispositional (การศึกษา 1-2) และมันก็ไม่ได้คาดการณ์รายงานแจ้งของความอิจฉาหรือส่วนประกอบความรู้ความเข้าใจอารมณ์ของอารมณ์ความรู้สึก (การศึกษา 2) ในที่สุดมันก็ไม่ได้ทำให้รุนแรงอิจฉาริษยาเป็นปรปักษ์หรือความไม่พอใจที่มีต่อเพื่อนสถานะสูง (มีการศึกษา 3) ผลการวิจัยแนะนำอิจฉาเป็นอารมณ์กลางในชีวิตของผู้ที่มีความเปราะบางและหลงตัวเองหมายความว่าอิจฉาควรได้รับการพิจารณาเป็นอาการที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ในการวินิจฉัยโรคหลงตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบทความนี้เราทดสอบสมมติฐาน psychodynamic เกี่ยวกับความอิจฉาและหลงตัวเอง โดยตรวจสอบที่เป็นอันตรายริษยาในบริบทของความโอ้อวดหลงตัวเองและความอ่อนแอ การศึกษาที่ 1 นักเรียน ( N   =   192 ) และผู้ใหญ่ในชุมชน ( N   =   161 ) เสร็จสมบูรณ์แต่ละมาตรการของการหลงตัวเอง ริษยา และไอ่เจ้าชวาเคนฟอยส์ . ในการศึกษาที่ 2 ( n =    121 ) ผู้เข้าร่วม relived ตอนริษยาการรับรู้อารมณ์และองค์ประกอบของความอิจฉาโดยทำการศึกษาในบริบทของทั้งตนเองและสายรายงานของความอิจฉาและตัวเอง ในการศึกษา 3 ( N   =   69 ) , ตัวเองถูกเชื่อมโยงกับรายงานของความอิจฉาแอบลักลอบนำปฏิบัติการ ความเสี่ยงการหลงตัวเองเป็นอย่างมากและอย่างต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับอิจฉา dispositional ไอ่เจ้าชวาเคนฟอยส์ ( การศึกษาและ 1-2 )เช่นเดียวกับทุกองค์ประกอบของปัญญาอารมณ์ริษยา ( การศึกษา ) นอกจากนี้ยังเกิดความอิจฉาและไอ่เจ้าชวาเคนฟอยส์ต่อเพื่อนระดับสูง ( เรียน 3 ) มีความสัมพันธ์ทางลบกับตัวเองเล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ dispositional ริษยา ( การศึกษา 1-2 ) และมันไม่ได้ทำนายสายรายงานของความอิจฉา หรือรับรู้อารมณ์ องค์ประกอบของอารมณ์ ( การศึกษา ) สุดท้ายก็ไม่ได้ยิ่งอิจฉาความเกลียดชัง หรือความแค้นที่มีต่อเพื่อนระดับสูง ( เรียน 3 ) ชี้ให้เห็นว่าอิจฉาเป็นอารมณ์หลักในชีวิตของผู้ที่มีความเปราะบาง และหลงตัวเองแปลว่าอิจฉา ควรพิจารณาเป็นอาการที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ในการวินิจฉัยของโรคหลงตัวเอง