The sugar cane plant of four Maurit

The sugar cane plant of four Mauritian cane varieties and of three ages was successfully separated into fibres of its component parts by means of a simple physical method specially developed for the purpose. The use of a 1.18 mm sieve ensured complete separation of fibres from pith, of which the ratio gives an indication of the milling quality of the cane variety. The four cane varieties under study showed a fibre/pith ratio approaching one, indicating good millability. In terms of % cane the greatest percentage of dry mass of fibre was extracted from the rind. For rind this percentage decreased with the age of the cane sample for all the varieties.

The rind fibres and fines showed the highest carbon content and the green leaf fibres and fines the lowest. The rind also exhibited the highest GCV. The GCV values mirrored the carbon content of the fibres. The FTIR spectra of the components were typical of lignocellulosic material and rind fibres exhibited the greatest crystallinity. All the components were thermally stable up to a temperature of 200 °C. Thereafter, pyrolysis occurred at approximately 300 and 350 °C corresponding to the decomposition of hemicellulose and lignin and cellulose and lignin respectively. Two exotherms were apparent in the DSC curves: one at 350 °C and the other between 440 and 500 °C. The fibres from the rind and stalk showed clear trends in their properties.

This study has furnished information on the properties of the different fibres which can be extracted from the sugar cane plant. This will assist in determining suitable end-uses for these fibres, which will add value to the crop.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรงงานน้ำตาลอ้อยของสี่สายพันธุ์อ้อยมอริเชียสและสามวัยถูกแยกออกมาประสบความสำเร็จเป็นเส้นใยของชิ้นส่วนโดยใช้วิธีการทางกายภาพวิธีง่าย ๆ พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อวัตถุประสงค์ การใช้ 1.18 มมตะแกรงมั่นใจแยกสมบูรณ์ของเส้นใยจากแก่นซึ่งอัตราส่วนให้ข้อบ่งชี้ของคุณภาพการสีของความหลากหลายอ้อยด้วย สี่พันธุ์อ้อยภายใต้การศึกษาแสดงให้เห็นว่าอัตราการใช้เส้นใย / แก่นใกล้หนึ่งแสดงให้เห็น millability ดี ในแง่ของอ้อย% เปอร์เซ็นต์ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลแห้งของเส้นใยถูกสกัดจากเปลือก สำหรับเปลือกเปอร์เซ็นต์นี้ลดลงตามอายุของกลุ่มตัวอย่างอ้อยสำหรับทุกสายพันธุ์ได้.

เส้นใยเปลือกและปรับแสดงให้เห็นว่าปริมาณคาร์บอนสูงสุดและเส้นใยใบสีเขียวและปรับต่ำสุด เปลือกยังจัดแสดง GCV สูงสุด ค่า GCV สะท้อนปริมาณคาร์บอนของเส้นใย สเปกตรัม FTIR ขององค์ประกอบที่เป็นเรื่องปกติของวัสดุและเปลือกลิกโนเซลลูโลสเส้นใยจัดแสดงเป็นผลึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด องค์ประกอบทั้งหมดที่มีเสถียรภาพความร้อนถึงอุณหภูมิ 200 ° C หลังจากนั้นไพโรไลซิเกิดขึ้นที่ประมาณ 300 และ 350 องศาเซลเซียสที่สอดคล้องกับการสลายตัวของเฮมิเซลลูโลสและลิกนินเซลลูโลสและลิกนินตามลำดับ สอง exotherms เห็นได้ชัดในกราฟ DSC นี้: หนึ่งที่ 350 ° C และอื่น ๆ ระหว่าง 440 และ 500 องศาเซลเซียส เส้นใยจากเปลือกและก้านแสดงให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนในคุณสมบัติของพวกเขา.

การศึกษาครั้งนี้มีข้อมูลที่ได้รับการตกแต่งเกี่ยวกับคุณสมบัติของเส้นใยที่แตกต่างกันซึ่งสามารถสกัดได้จากพืชอ้อยน้ำตาล นี้จะช่วยในการพิจารณาความเหมาะสมสิ้นสุดการใช้งานสำหรับเส้นใยเหล่านี้ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อ้อยอ้อยพันธุ์และอนุรักษ์พืชสี่สามวัยก็สามารถแยกเป็นเส้นใยของส่วนประกอบ โดยวิธีทางกายภาพง่ายการพัฒนาเป็นพิเศษสำหรับวัตถุประสงค์ ใช้ตะแกรงเป็น 1.18 มม. มั่นใจแยกเส้นใยจากไขสันหลัง ซึ่งอัตราส่วนให้ข้อบ่งชี้ของคุณภาพการสีของอ้อยที่หลากหลาย สี่ อ้อยพันธุ์การศึกษาพบว่าอัตราส่วนไฟเบอร์บริเวณใกล้หนึ่ง แสดงดี millability . ในแง่ของ % อ้อยร้อยละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลแห้งของเส้นใยที่สกัดจากเปลือก . สำหรับเปลือกร้อยละนี้ลดลงตามอายุของตัวอย่างอ้อยพันธุ์ทั้งหมดแล้วใย และค่าปรับ มีปริมาณคาร์บอนสูง และเส้นใยจากใบสีเขียวและปรับต่ำสุด แล้วยังแสดง gcv สูงสุด การ gcv ค่าสะท้อนปริมาณคาร์บอนของเส้นใย ( ช่วงขององค์ประกอบที่เป็นปกติของ lignocellulosic วัสดุเปลือกและเส้นใยมีความเป็นผลึกมากที่สุด ส่วนประกอบทั้งหมดเป็นปริมาณคงที่ในอุณหภูมิ 200 องศา หลังจากนั้น ไพโรไลซิสเกิดขึ้นประมาณ 300 และ 350 องศา C ที่เกี่ยวข้องกับการสลายตัวของเฮมิเซลลูโลสและลิกนินและเซลลูโลส และลิกนิน ตามลำดับ สองมุนินทร์ได้ปรากฏใน DSC เส้นโค้ง : หนึ่งที่ 350 องศา C และอื่น ๆ ระหว่างเธอและ 500 ° C . เส้นใยจากเปลือกและลำต้น พบแนวโน้มที่ชัดเจนในคุณสมบัติของพวกเขาการศึกษานี้มีการตกแต่งข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของเส้นใยที่แตกต่างกันซึ่งสามารถสกัดได้จากอ้อยโรงงาน นี้จะช่วยในการกำหนดความเหมาะสมจบใช้เส้นใยเหล่านี้ ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับพืช