This paper studies Facebook users'

This paper studies Facebook users' learning-based attitude formation and the relationship between member attitude and self-disclosure. Through the theoretical lens of learning theories, we recognize the key antecedents to member attitude toward a social networking as stemming from classical conditioning, operant conditioning, and social learning-related factors. In addition, we explore the underlying process through which member attitude affects self-disclosure extent and theorize the mediating role of site usage rate on the relationship between attitude and self-disclosure extent. Analysis of 822 survey data results provides strong support for the role of learning theories in explaining Facebook members' attitude development. The results also confirm a significant, partial mediating effect of site usage rate. A series of post-hoc analyses on gender difference further reveal that attitude formation mechanisms remain constant between male and female Facebook users; gender difference exists on the association between attitude and self-disclosure extent and the association between site usage rate and self-disclosure extent; and the mediating effect of site usage rate exists in male user group only. Our research, therefore, contributes to the literature on social networking sites, as well as providing behavioral analysis useful to the service providers of these sites.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษนี้ศึกษา Facebook ผู้ใช้เรียนรู้ทัศนคติก่อตัวและความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติของสมาชิกและการเปิดเผยตนเอง ผ่านเลนส์ทฤษฎีของทฤษฎีการเรียนรู้ เรารู้จัก antecedents คีย์เพื่อสมาชิกทัศนคติต่อสังคมเป็นเกิดจากแบบดั้งเดิม operant ปรับ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ทางสังคม นอกจากนี้ เราสำรวจกระบวนการต้นแบบผ่านสมาชิกซึ่งทัศนคติมีผลต่อระดับการเปิดเผยตนเอง และทฤษฎีบทบาท mediating ของอัตราการใช้งานไซต์ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติและขอบเขตการเปิดเผยตนเอง วิเคราะห์ผลข้อมูลสำรวจ 822 ให้แรงสนับสนุนบทบาทของการเรียนรู้ทฤษฎีในการอธิบายการพัฒนาทัศนคติของสมาชิก Facebook ผลการยืนยันสำคัญ บางส่วน mediating ผลของอัตราการใช้งานเว็บไซต์ ชุดเฉพาะกิจลงวิเคราะห์ในเพศความแตกต่างเพิ่มเติมแสดงว่า กลไกการก่อตัวของทัศนคติระหว่างชาย และหญิงผู้ใช้ Facebook คงต้อง เพศความแตกต่างอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติ และขอบเขตการเปิดเผยตนเอง และความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการใช้งานไซต์และขอบเขตการเปิดเผยตนเอง และผลของอัตราการใช้งานไซต์ mediating อยู่ในกลุ่มผู้ชายเท่านั้น การวิจัยของเรา ดังนั้น เกิดวรรณกรรมสังคมเครือข่ายเว็บไซต์ รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ให้ผู้ให้บริการของเว็บไซต์เหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระดาษนี้ศึกษาการเรียนรู้ตามที่ผู้ใช้ Facebook 'ก่อทัศนคติและความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติของสมาชิกและการเปิดเผยตนเอง ผ่านเลนส์ทางทฤษฎีของทฤษฎีการเรียนรู้ที่เราตระหนักถึงบุคคลสำคัญในการทัศนคติของสมาชิกที่มีต่อเครือข่ายทางสังคมเป็นที่เกิดจากเครื่องคลาสสิกผ่าตัดปรับอากาศและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ทางสังคม- นอกจากนี้เราสำรวจกระบวนการพื้นฐานผ่านที่มีผลต่อทัศนคติของสมาชิกขอบเขตการเปิดเผยตนเองและทฤษฎีบทบาทไกล่เกลี่ยของเว็บไซต์ของอัตราการใช้งานที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติและขอบเขตการเปิดเผยตนเอง การวิเคราะห์ 822 ผลการสำรวจข้อมูลให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับบทบาทของทฤษฎีการเรียนรู้ในการอธิบายการพัฒนาทัศนคติสมาชิก Facebook ' ผลยังยืนยันอย่างมีนัยสำคัญผล mediating บางส่วนของเว็บไซต์ของอัตราการใช้งาน ชุดวิเคราะห์ post-hoc กับความแตกต่างทางเพศต่อไปเผยให้เห็นว่ากลไกการสร้างทัศนคติที่คงที่ระหว่างเพศชายและเพศหญิงผู้ใช้ Facebook; ความแตกต่างทางเพศที่มีอยู่บนความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติและขอบเขตการเปิดเผยตนเองและความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการใช้งานเว็บไซต์และขอบเขตการเปิดเผยตัวเองนั้น และผลการไกล่เกลี่ยของเว็บไซต์ของอัตราการใช้งานที่มีอยู่ในกลุ่มผู้ใช้ผู้ชายคนเดียว การวิจัยของเราจึงมีส่วนช่วยในหนังสือที่เกี่ยวกับเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเช่นเดียวกับการวิเคราะห์พฤติกรรมประโยชน์ในการให้บริการของเว็บไซต์เหล่านี้