Greece joined the European Communit

Greece joined the European Communities (subsequently subsumed by the European Union) on 1 January 1981, ushering in a period of sustained growth. Widespread investments in industrial enterprises and heavy infrastructure, as well as funds from the European Union and growing revenues from tourism, shipping and a fast-growing service sector raised the country's standard of living to unprecedented levels. The country adopted the Euro in 2001 and over the next 7 years the country's GDP per capita nearly tripled, from $12,400 in 2001 to $31,700 in 2008.[1] The Greek government, encouraged by the European Commission, European Central Bank, private banking institutions and the Greek business community also took out loans to pay Greek and foreign infrastructure companies for a wide variety of infrastructure projects such as those related to the 2004 Summer Olympic Games in Athens.[2][not in citation given] Government deficits were also consistently underreported.[3] As the Financial crisis of 2007–08 began to affect Greece's economy, the country's GDP fell by nearly 20% from 2008 to 2010 and the government's capacity to repay its creditors was drastically reduced.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรีซเข้าร่วมชุมชนยุโรป (ต่อ subsumed โดยสหภาพยุโรป) บน 1 1981 มกราคม ushering ในรอบระยะเวลาของ sustained เติบโต การลงทุนในการประกอบการ และโครงสร้างพื้นฐานหนัก รวมทั้งเงินจากสหภาพยุโรปและการเติบโตรายได้จากการท่องเที่ยว จัดส่งสินค้า และบริการภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วแพร่หลายขึ้นในประเทศมาตรฐานของที่อยู่อาศัยระดับประวัติการณ์ ประเทศโดยกลุ่มในปีค.ศ. 2001 และ 7 ปีต่อ GDP ของประเทศต่อ capita เกือบสาม เท่า จาก $12,400 ในปีค.ศ. 2001 ถึง $31,700 ในปี 2008 [1] รัฐบาลกรี แรงกระตุ้นจากสถาบันธนบดียุโรปเสริม ยุโรป ธนาคารกลาง และชุมชนธุรกิจกรีกยังเอาออกเงินกู้จ่ายกรีก และบริษัทโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศหลากหลายโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่นที่เกี่ยวข้องกับการ 2004 โอลิมปิกฤดูร้อนในเอเธนส์ [2] [ไม่ในได้รับการอ้างอิง] รัฐบาลขาดดุลอย่างต่อเนื่อง underreported ยังได้ [3] เป็นวิกฤตการณ์ทางการเงินของ 2007 – 08 เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของกรีซ GDP ของประเทศลดลงเกือบ 20% จาก 2008 กับ 2010 และช่วยลดกำลังการผลิตของรัฐบาลชำระเจ้าหนี้ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรีซเข้าร่วมประชาคมยุโรป (วิทยภายหลังจากสหภาพยุโรป) วันที่ 1 มกราคม 1981 ในการนำไปสู่​​ช่วงเวลาของการเติบโตอย่างยั่งยืน การลงทุนที่แพร่หลายในสถานประกอบการอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานหนักเช่นเดียวกับเงินทุนจากสหภาพยุโรปและการเจริญเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวการขนส่งและภาคบริการที่เติบโตอย่างรวดเร็วยกมาตรฐานของประเทศที่อาศัยอยู่ในระดับที่ไม่เคยปรากฏมา ประเทศที่นำมาใช้เงินยูโรในปี 2001 และในอีก 7 ปีจีดีพีของประเทศต่อหัวเกือบเท่าตัวจาก 12,400 $ ในปี 2001 เพื่อ $ 31,700 ในปี 2008 [1] รัฐบาลกรีกได้รับการสนับสนุนโดยคณะกรรมาธิการยุโรป, ธนาคารกลางยุโรปสถาบันการเงินเอกชน และชุมชนธุรกิจกรีกยังเอาออกเงินให้กู้ยืมที่จะจ่ายกรีกและโครงสร้างพื้นฐานของ บริษัท ต่างประเทศสำหรับความหลากหลายของโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่นผู้ที่เกี่ยวข้องกับ 2004 กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในกรุงเอเธนส์. [2] [ไม่ได้อยู่ในการอ้างอิงได้รับ] รัฐบาลขาดดุลนั้นยังมีอย่างต่อเนื่อง underreported. [3] ในฐานะที่เป็นวิกฤตการณ์ทางการเงินของ 2007-08 เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของกรีซจีดีพีของประเทศลดลงเกือบ 20% 2008-2010 และความสามารถของรัฐบาลที่จะชำระคืนเจ้าหนี้ได้รับการลดลงอย่างมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศกรีซเข้าร่วมประชาคมยุโรป ( ต่อมาโดยวิทยสหภาพยุโรป ) เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1981 ushering ในรอบระยะเวลาของการเติบโตอย่างยั่งยืน . กระจายการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่หนัก ตลอดจนเงินทุนจากสหภาพยุโรป และเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวการจัดส่งสินค้าและภาคบริการเติบโตอย่างรวดเร็ว ยกมาตรฐานของประเทศอยู่ในระดับที่เป็นประวัติการณ์ ประเทศประกาศใช้ยูโร ในปี 2001 และในอีก 7 ปีของประเทศ GDP ต่อหัวเกือบ 3 เท่า จาก $ 12400 ในปี 2001 ถึง $ 31700 ในปี 2008 [ 1 ] รัฐบาลกรีกได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป ธนาคารกลางยุโรปสถาบันการธนาคารส่วนบุคคลและธุรกิจชุมชนกรีกยังกู้เงินมาจ่าย กรีก และต่างประเทศ บริษัท โครงสร้างพื้นฐานสำหรับหลากหลายของโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่นผู้ที่เกี่ยวข้องกับฤดูร้อน 2004 โอลิมปิกเกมส์ในเอเธนส์ [ 2 ] [ ไม่ได้ ในการอ้างอิงให้ ] รัฐบาลขาดดุล ยังเสมอ underreported .[ 3 ] เป็นวิกฤตการณ์ทางการเงินของ 2007 – 08 เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของกรีซ , GDP ของประเทศลดลงเกือบ 20% จากปี 2553 และความสามารถของรัฐบาลที่จะจ่ายคืนเจ้าหนี้ก็ลดลงอย่างมาก