In 1995, the International Agency f

In 1995, the International Agency for Research of
Cancer [8] evaluated wood dust as being carcinogenic
to humans (Group 1). The conclusion was based on a
substantial amount of epidemiological evidence, despite
the sparse knowledge about the underlying mechanisms
and pathways. The studies showed the strongest correlation
between nasal cancer and exposure to dust from
hardwood, especially oak and beech [9]. However, sinonasal
cancer among employees who worked with other
wood types and species has also been reported [8].
In addition to cancer, wood dust exposure is also associated
with non-malignant health effects like impaired
lung function, occupational asthma, rhinitis and allergic
contact dermatitis [10–15]. We therefore tested whether
an indirect pathway involving inflammation and oxidative
stress was related to DNA strand break formation,
which is a potential indicator of a carcinogenic mechanism
[16].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1995 หน่วยงานนานาชาติเพื่อการวิจัยของฝุ่นไม้เป็น carcinogenic ประเมินมะเร็ง [8]กับมนุษย์ (กลุ่ม 1) บทสรุปที่เป็นไปตามหลักฐานความ จำนวนมากแม้มีบ่อรู้กลไกต้นแบบและมนต์ ศึกษาพบความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างโรคมะเร็งโพรงจมูกและการสัมผัสกับฝุ่นละอองจากไม้ โดยเฉพาะโอ๊คและบีช [9] อย่างไรก็ตาม sinonasalโรคมะเร็งในหมู่พนักงานที่ทำงาน ด้วยกันชนิดไม้และชนิดนอกจากนี้ยังได้รายงาน [8]นอกจากมะเร็ง ฝุ่นไม้แสงก็เกี่ยวข้องกับสุขภาพไม่ร้ายที่ลักษณะพิเศษเช่นความบกพร่องทางด้านทำงานของปอด โรคหอบหืดอาชีว rhinitis และภูมิแพ้ติดต่ออักเสบ [10-15] เราจึง ทดสอบว่าทางเดินเป็นทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ และ oxidativeความเครียดเกี่ยวข้องกับ DNA สแตรนด์แบ่งผู้แต่งซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ศักยภาพของกลไก carcinogenic[16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1995
หน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง[8]
ประเมินฝุ่นไม้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์(กลุ่มที่ 1) ข้อสรุปที่อยู่บนพื้นฐานของจำนวนมากของหลักฐานทางระบาดวิทยาแม้จะมีความรู้ที่กระจัดกระจายเกี่ยวกับกลไกและทางเดิน การศึกษาแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างจมูกโรคมะเร็งและการสัมผัสกับฝุ่นละอองจากไม้เนื้อแข็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้โอ๊คและบีช[9] อย่างไรก็ตามทางจมูกมะเร็งในหมู่พนักงานที่ทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ประเภทไม้และพันธุ์นอกจากนี้ยังได้รับรายงาน [8]. นอกจากจะเป็นมะเร็งสัมผัสฝุ่นไม้ยังเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่ร้ายแรงเช่นความบกพร่องการทำงานของปอดหอบหืดอาชีวโรคจมูกอักเสบและแพ้ติดต่อโรคผิวหนัง [10-15] ดังนั้นเราจึงทดสอบว่าทางเดินอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบและ oxidative ความเครียดที่เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอก่อพักซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่อาจเกิดขึ้นจากกลไกการเกิดโรคมะเร็ง[16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1995 , หน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งของ
[ 8 ] ประเมิน ฝุ่นไม้ เป็นสารก่อมะเร็ง
มนุษย์ ( กลุ่มที่ 1 ) สรุปคือ ตามหลักฐานทางระบาดวิทยา
จำนวนมากแม้จะมี

ป่าโปร่ง ความรู้เกี่ยวกับกลไกและแนวทาง . การศึกษานี้ได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งที่จมูกและการสัมผัสกับ

ฝุ่นจากไม้เนื้อแข็งโดยเฉพาะไม้โอ๊คและบีช [ 9 ] อย่างไรก็ตาม มะเร็ง sinonasal
ของพนักงานที่ทำงานกับไม้ประเภทอื่น
และชนิดนอกจากนี้ยังได้รายงาน [ 8 ] .
นอกจากมะเร็ง , ผงไม้ แสงยังเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ไม่ร้าย

ปอดที่มีอาชีพ โรคหืด โรคจมูกอักเสบ และผิวหนังอักเสบแพ้
[ 10 – 15 ] เราจึงทดสอบว่า
อ้อมเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบและภาวะเครียดออกซิเดชัน
เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอเกลียวเชือกแบ่งรูป
ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ศักยภาพของการพัฒนากลไก
[ 16 ]