Methane is important for electrical

Methane is important for electrical generation by burning it as a fuel in a gas turbine or steam generator. Compared to other hydrocarbon fuels, burning methane produces less carbon dioxide for each unit of heat released. At about 891 kJ/mol, methane's heat of combustion is lower than any other hydrocarbon but the ratio of the heat of combustion (891 kJ/mol) to the molecular mass (16.0 g/mol, of which 12.0 g/mol is carbon) shows that methane, being the simplest hydrocarbon, produces more heat per mass unit (55.7 kJ/g) than other complex hydrocarbons. In many cities, methane is piped into homes for domestic heating and cooking purposes. In this context it is usually known as natural gas, which is considered to have an energy content of 39 megajoules per cubic meter, or 1,000 BTU per standard cubic foot.

Methane in the form of compressed natural gas is used as a vehicle fuel and is claimed to be more environmentally friendly than other fossil fuels such as gasoline/petrol and diesel.[19] Research into adsorption methods of methane storage for use as an automotive fuel has been conducted

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีเทนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างไฟฟ้า โดยการเผาไหม้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องกำเนิดไอน้ำหรือกังหันแก๊ส เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ เขียนมีเทนผลิตคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าสำหรับแต่ละหน่วยของความร้อนที่ปล่อยออกมา ที่ประมาณ 891 kJ/โมล การเผาไหม้ของความร้อนของมีเทนคือต่ำกว่าไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ แต่อัตราการสันดาปของความร้อน (891 kJ/โมล) กับมวลโมเลกุล (16.0 กรัม/โมล ที่ 12.0 กรัม/โมลเป็นคาร์บอน) แสดงว่า มีเทน เป็นไฮโดรคาร์บอนที่ง่ายที่สุด สร้างความร้อนเพิ่มเติมต่อหน่วยมวล (55.7 kJ/g) กว่าไฮโดรคาร์บอนที่ซับซ้อนอื่น ๆ ในหลายเมือง มีเทนจะส่งผ่านเข้าไปในบ้านความร้อนภายในประเทศและการทำอาหารเพื่อวัตถุประสงค์ ในบริบทนี้มันมักจะเรียกกันว่าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งถือว่ามีเนื้อหาพลังงานของ 39 megajoules ต่อลูกบาศก์เมตร 1000 BTU ต่อลูกบาศก์ฟุตมาตรฐานมีเทนในก๊าซธรรมชาติใช้เป็นเชื้อเพลิงรถ และอ้างว่า เป็นมิตรกว่าอื่น ๆ เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมัน/น้ำมันเบนซินและดีเซล มีการดำเนินการวิจัย [19] เป็นวิธีการดูดซับเก็บมีเทนสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์การ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก๊าซมีเทนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากการเผาไหม้เป็นเชื้อเพลิงในกังหันก๊าซหรืออบไอน้ำเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ การเผาไหม้ก๊าซมีเทนผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยสำหรับหน่วยของความร้อนที่ปล่อยออกมาแต่ละคน อยู่ที่ประมาณ 891 กิโลจูล / โมลความร้อนก๊าซมีเทนของการเผาไหม้ต่ำกว่าไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ แต่อัตราส่วนของความร้อนของการเผาไหม้ (891 กิโลจูล / โมล) เพื่อมวลโมเลกุล (16.0 กรัม / โมลซึ่ง 12.0 กรัม / โมลเป็นคาร์บอน) แสดงให้เห็นว่าก๊าซมีเทนเป็นสารไฮโดรคาร์บอนที่ง่ายที่สุดที่ก่อให้เกิดความร้อนมากขึ้นต่อหน่วยมวล (55.7 กิโลจูล / g) มากกว่าไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ ที่ซับซ้อน ในหลาย ๆ เมืองมีเทนประปาเข้าไปในบ้านเพื่อให้ความร้อนในประเทศและวัตถุประสงค์ในการปรุงอาหาร ในบริบทนี้เป็นที่รู้จักกันมักจะเป็นก๊าซธรรมชาติซึ่งถือว่ามีปริมาณการใช้พลังงานของ 39 megajoules ต่อลูกบาศก์เมตรหรือ 1,000 บีทียูต่อลูกบาศก์ฟุตมาตรฐาน. มีเทนในรูปแบบของก๊าซธรรมชาติอัดที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานพาหนะและ อ้างว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่น ๆ เช่นน้ำมัน / เบนซินและดีเซล. [19] การวิจัยเป็นวิธีการดูดซับของการจัดเก็บก๊าซมีเทนเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงยานยนต์ที่ได้รับการดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก๊าซมีเทนเป็นสำคัญสำหรับการผลิตไฟฟ้าโดยการเผาเป็นเชื้อเพลิงในกังหันก๊าซหรือเครื่องกำเนิดไอน้ำ เปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆการเผาไหม้ก๊าซมีเทนผลิตคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าสำหรับแต่ละหน่วยของความร้อนที่ปล่อยออกมา ที่เกี่ยวกับ 891 กิโลจูล / โมลของมีเทนความร้อนของการเผาไหม้กว่าอื่นใด ไฮโดรคาร์บอน แต่อัตราส่วนของความร้อนจากการเผาไหม้ ( 891 kJ / mol ) มวลโมเลกุล ( 16.0 กรัม / โมลที่ 12.0 g / mol เป็นคาร์บอน ) แสดงให้เห็นว่า มีเทน เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ผลิตความร้อนมากขึ้นต่อมวลหน่วย ( kJ / 55.7 กรัม ) สูงกว่าไฮโดรคาร์บอนที่ซับซ้อนอื่น ๆ ในหลายเมือง , มีเทนเป็นประปาในบ้านร้อน ภายในประเทศ และการปรุงอาหาร ในบริบทนี้มันมักจะเรียกว่าเป็นก๊าซธรรมชาติ ซึ่งถือว่ามีปริมาณพลังงาน 39 เมกะจูลต่อบาศก์เมตรหรือ 1 ,000 บีทียูต่อลูกบาศก์ฟุต .

มีเทนในรูปแบบของการใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง และใช้เป็นพาหนะถูกอ้างว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน / เบนซินและดีเซล [ 19 ] การวิจัยในวิธีการดูดซับก๊าซมีเทนกระเป๋าสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงยานยนต์มีวัตถุประสงค์