ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีว การแปล - ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีว ไทย วิธีการพูด

ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดด

ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จ.หนองคาย ภูทอกมี 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ตามปกติ ในอดีตอาณาบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย ต่อมา พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณะธรรมของภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ในเวลาต่อมา ก่อนที่พระอาจารย์จวนจะละสังขาร ได้เล็งเห็นการณ์ไกลที่จะช่วยเหลือชาวบ้านแถวนี้ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและ ถาวร เป็นการตอบแทนบุญคุณญาติโยมที่มีอุปการะ จึงได้ริเริ่มจัดสร้างสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือการท่อง เที่ยวในเชิงการแสวงบุญหรือธรรมจาริก นักท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากการเที่ยวชมธรรมชาติคือขุนเขาลำเนาไพรและได้ ศึกษาพุทธศาสนา ส่วนชาวบ้านจะได้ประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าและธุรกิจร้านอาหาร (เงินจะสะพัด) นี่คือการช่วยเหลือประชาชนในแนวทางของพระอริยะ ส่วนพระที่ช่วยเหลือประชาชนโดยการบอกเลขใบ้หวย เป็นการช่วยเหลือที่ไม่จีรังยั่งยืน
การขึ้นภูทอกนั้น ท่านพระอาจารย์จวนเริ่มก่อสร้างบันไดไม้สำหรับไต่ขึ้นไปในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม บันไดทั้ง 7 ชั้น แตกต่างกัน ดังนี้
ชั้นที่ 1 เมื่อนักแสวงบุญเดินผ่านประตูสวรรค์เข้าไป แม้จะไม่มีป้ายบอก แต่ก็ถือว่าเข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณชั้นที่ 1 แล้ว ชั้นที่หนึ่งนี้นักแสวงบุญจะได้สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าหลากชนิดนานาพันธุ์
ชั้นที่ 2 เป็น บันไดไม้ยาวทอดรับจากชั้นที่ 1 เมื่อเดินตามสะพานไม้ไปเรื่อยๆ จะเห็นสถานีวิทยุชุมชนของวัดอยู่ด้านขวามือ ชั้นที่หนึ่งและสองมีทัศนียภาพที่ไม่ต่างกันมากนัก
ชั้นที่ 3 เป็นสะพานเวียนรอบเขา สภาพเป็นป่าเขามืดครึ้ม มีโขดหินลานหิน สุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทาง ทางซ้ายมือเป็นทางลัดผ่านชั้น 4 ไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลยซึ่งเป็นทางค่อนข้างชัน ผ่านซอกหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ส่วนทางขวามือเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4 แล้ววกขึ้นชั้นที่ 5 เป็นทางอ้อม (ขอแนะนำว่าควรขึ้นทางนี้ แล้วลงทางนั้น(ทางลัด)
ชั้นที่ 4 เป็น สะพานลอยไต่เวียนรอบเขา มองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกัน เรียกว่า “ดงชมพู” ทิศตะวันออกจดกับภูลังกา เขตอำเภอเซกา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบ มีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่าน มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ โดยเฉพาะมีฝูงกามาอาศัยอยู่มาก จึงเรียกกันว่า ภูรังกา แล้วเพี้ยนมาเป็นภูลังกาในที่สุด ชั้นที่ 4 นี้ จะเป็นที่พักของแม่ชี รอบชั้นมีระยะทางประมาณ 400 เมตร มีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะๆ
ชั้นที่ 5 หรือชั้นกลาง เป็นชั้นที่สำคัญที่สุดแต่ไม่ได้สวยที่สุด (สวยที่สุดคือชั้น 6) มีศาลากลางและกุฏิที่อาศัยของพระ และเป็นที่เก็บศพของพระอาจารย์จวนไว้ด้วย ตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ เช่น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำฤาษี ฯลฯ ตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็นลานกว้างอยู่ราว 20 แห่ง มีหน้าผาชื่อต่างๆ กัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต ฯลฯ ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหาร อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย มองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจน และมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6
ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา มีความยาว 400 เมตร เป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชั้นนี้อยู่หลังพระปางนาคปรกซึ่งเป็นปากทางเข้าเมืองพญา นาค
ชั้นที่ 7 จากชั้นที่หกขึ้นมาชั้นที่เจ็ด จะมีบันไดไม้พาดขึ้นมา แต่เมื่อเดินถึงดาดฟ้าชั้นที่เจ็ดแล้ว จะพบแต่ป่าร่มครึ้มสวยงาม ไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับมนุษย์ หากนักท่องเที่ยวโชคดีหน่อยอาจเจองูระหว่างทาง ดังนั้นนักท่องเที่ยวทั่วไปอาจไม่ต้องขึ้นชั้น 7 ก็ได้

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ภูทอกในภาษาอีสานแปลว่าภูเขาที่โดดเดี่ยวเป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคนตำบลนาแสงอำเภอศรีวิไลจ.หนองคายภูทอกมี 2 ลูกคือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อยส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือภูทอกน้อยส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไปยังไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ตามปกติในอดีตอาณาบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายต่อมาพระอาจารย์จวนกุลเชฏโฐได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียรเพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรมเนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะแก่การบำเพ็ญสมณะธรรมของภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไปในเวลาต่อมาก่อนที่พระอาจารย์จวนจะละสังขารเป็นการตอบแทนบุญคุณญาติโยมได้เล็งเห็นการณ์ไกลที่จะช่วยเหลือชาวบ้านแถวนี้ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและถาวรที่มีอุปการะจึงได้ริเริ่มจัดสร้างสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบๆ ภูทอกเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์คือการท่องเที่ยวในเชิงการแสวงบุญหรือธรรมจาริกนักท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากการเที่ยวชมธรรมชาติคือขุนเขาลำเนาไพรและได้ศึกษาพุทธศาสนาส่วนชาวบ้านจะได้ประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าและธุรกิจร้านอาหาร (เงินจะสะพัด) นี่คือการช่วยเหลือประชาชนในแนวทางของพระอริยะส่วนพระที่ช่วยเหลือประชาชนโดยการบอกเลขใบ้หวยเป็นการช่วยเหลือที่ไม่จีรังยั่งยืน การขึ้นภูทอกนั้นท่านพระอาจารย์จวนเริ่มก่อสร้างบันไดไม้สำหรับไต่ขึ้นไปในปีพ.ศ. 2512 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้นใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มบันไดทั้ง 7 ชั้นแตกต่างกันดังนี้ ชั้นที่ 1 เมื่อนักแสวงบุญเดินผ่านประตูสวรรค์เข้าไปแม้จะไม่มีป้ายบอกแต่ก็ถือว่าเข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณชั้นที่ 1 แล้วชั้นที่หนึ่งนี้นักแสวงบุญจะได้สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าหลากชนิดนานาพันธุ์ ชั้นที่ 2 เป็นบันไดไม้ยาวทอดรับจากชั้นที่ 1 เมื่อเดินตามสะพานไม้ไปเรื่อย ๆ จะเห็นสถานีวิทยุชุมชนของวัดอยู่ด้านขวามือชั้นที่หนึ่งและสองมีทัศนียภาพที่ไม่ต่างกันมากนัก ชั้นที่ 3 เป็นสะพานเวียนรอบเขาสภาพเป็นป่าเขามืดครึ้มมีโขดหินลานหินสุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทางทางซ้ายมือเป็นทางลัดผ่านชั้น 4 ไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลยซึ่งเป็นทางค่อนข้างชันผ่านซอกหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ส่วนทางขวามือเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4 แล้ววกขึ้นชั้นที่ 5 เป็นทางอ้อม (ขอแนะนำว่าควรขึ้นทางนี้แล้วลงทางนั้น(ทางลัด) ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขามองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ย ๆ สลับกันเรียกว่า "ดงชมพู" ทิศตะวันออกจดกับภูลังกาเขตอำเภอเซกาซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบมีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่านมีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่โดยเฉพาะมีฝูงกามาอาศัยอยู่มากจึงเรียกกันว่าภูรังกาแล้วเพี้ยนมาเป็นภูลังกาในที่สุดชั้นที่ 4 นี้จะเป็นที่พักของแม่ชีรอบชั้นมีระยะทางประมาณ 400 เมตรมีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะ ๆ ชั้นที่ 5 หรือชั้นกลางเป็นชั้นที่สำคัญที่สุดแต่ไม่ได้สวยที่สุด (สวยที่สุดคือชั้น 6) มีศาลากลางและกุฏิที่อาศัยของพระและเป็นที่เก็บศพของพระอาจารย์จวนไว้ด้วยตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำเช่นถ้ำเหล็กไหลถ้ำแก้วถ้ำฤาษีฯลฯ ตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็นลานกว้างอยู่ราว 20 แห่งมีหน้าผาชื่อต่าง ๆ กันเช่นผาเทพนิมิตรผาหัวช้างผาเทพสถิตฯลฯ ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหารอันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วยมองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจนและมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6 ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขามีความยาว 400 เมตรเป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบๆ ภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชั้นนี้อยู่หลังพระปางนาคปรกซึ่งเป็นปากทางเข้าเมืองพญานาค ชั้นที่ 7 จากชั้นที่หกขึ้นมาชั้นที่เจ็ดจะมีบันไดไม้พาดขึ้นมาแต่เมื่อเดินถึงดาดฟ้าชั้นที่เจ็ดแล้วจะพบแต่ป่าร่มครึ้มสวยงามไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับมนุษย์หากนักท่องเที่ยวโชคดีหน่อยอาจเจองูระหว่างทางดังนั้นนักท่องเที่ยวทั่วไปอาจไม่ต้องขึ้นชั้น 7 ก็ได้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ภูทอกในภาษาอีสานแปลว่าภูเขาที่โดดเดี่ยวเป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคนตำบลนาแสงอำเภอศรีวิไลจ. หนองคายภูทอกมี 2 ลูกคือภูทอกใหญ่และภู ทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ในอดีตอาณาบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายต่อมาพระอาจารย์จวนกุลเชฏโฐ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรมเนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ ในเวลาต่อมาก่อนที่พระอาจารย์จวนจะละสังขาร ถาวร ๆ ภูทอก คือการท่อง ศึกษาพุทธศาสนา (เงินจะสะพัด)
พ.ศ. 2512 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้นใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มบันไดทั้ง 7 ชั้นแตกต่างกันดังนี้
ชั้นที่ 1 แม้จะไม่มีป้ายบอก 1 แล้ว
2 เป็นบันไดไม้ยาวทอดรับจากชั้นที่ 1 เมื่อเดินตามสะพานไม้ไปเรื่อย ๆ
3 เป็นสะพานเวียนรอบเขาสภาพเป็นป่าเขามืดครึ้มมีโขดหินลานหินสุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทางทางซ้ายมือเป็นทางลัดผ่านชั้น 4 ไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลยซึ่งเป็นทางค่อนข้างชัน 4 แล้ววกขึ้นชั้นที่ 5 เป็นทางอ้อม (ขอแนะนำว่าควรขึ้นทางนี้แล้วลงทางนั้น (ทางลัด)
ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขา สลับกันเรียกว่า "ดงชมพู" ทิศตะวันออกจดกับภูลังกาเขตอำเภอเซกาซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบมีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่านมีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่โดยเฉพาะมีฝูงกามาอาศัยอยู่มากจึงเรียกกันว่าภูรังกา แล้วเพี้ยนมาเป็นภูลังกาในที่สุดชั้นที่ 4 นี้จะเป็นที่พักของแม่ชีรอบชั้นมีระยะทางประมาณ 400 เมตร
5 หรือชั้นกลาง (สวยที่สุดคือชั้น 6) มีศาลากลางและกุฏิที่อาศัยของพระ ตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำเช่นถ้ำเหล็กไหลถ้ำแก้วถ้ำฤาษี ฯลฯ ตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็นลานกว้างอยู่ราว 20 แห่งมีหน้าผาชื่อต่างๆกันเช่นผาเทพนิมิตรผาหัวช้างผาเทพสถิต ฯลฯ และมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6
ชั้นที่ 6 มีความยาว 400 เมตร ๆ ภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุด นาค
ชั้นที่ 7 จากชั้นที่หกขึ้นมาชั้นที่เจ็ดจะมีบันไดไม้พาดขึ้นมา จะพบ แต่ป่าร่มครึ้มสวยงามไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับมนุษย์ 7 ก็ได้

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ภูทอกในภาษาอีสานแปลว่าภูเขาที่โดดเดี่ยวเป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร ( วัดภูทอก ) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคนตำบลนาแสงอำเภอศรีวิไล . . . .หนองคายภูทอกมี 2 ลูกคือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อยส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือภูทอกน้อยส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไปยังไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ตามปกติมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายต่อมาพระอาจารย์จวนกุลเชฏโฐได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียรเพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรมเนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบในเวลาต่อมาก่อนที่พระอาจารย์จวนจะละสังขารได้เล็งเห็นการณ์ไกลที่จะช่วยเหลือชาวบ้านแถวนี้ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและถาวรเป็นการตอบแทนบุญคุณญาติโยมที่มีอุปการะจะภูทอกเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์คือการท่องเที่ยวในเชิงการแสวงบุญหรือธรรมจาริกนักท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากการเที่ยวชมธรรมชาติคือขุนเขาลำเนาไพรและได้ศึกษาพุทธศาสนา( เงินจะสะพัด ) นี่คือการช่วยเหลือประชาชนในแนวทางของพระอริยะส่วนพระที่ช่วยเหลือประชาชนโดยการบอกเลขใบ้หวยเป็นการช่วยเหลือที่ไม่จีรังยั่งยืน
การขึ้นภูทอกนั้นท่านพระอาจารย์จวนเริ่มก่อสร้างบันไดไม้สำหรับไต่ขึ้นไปในปีพ . ศ . 2512 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้นใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มบันไดทั้ง 7 ชั้นแตกต่างกันดังนี้
ชั้นที่ 1 เมื่อนักแสวงบุญเดินผ่านประตูสวรรค์เข้าไปแม้จะไม่มีป้ายบอกแต่ก็ถือว่าเข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณชั้นที่แล้วชั้นที่หนึ่งนี้นักแสวงบุญจะได้สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าหลากชนิดนานาพันธุ์
1ชั้นที่ 2 เป็นบันไดไม้ยาวทอดรับจากชั้นที่ 1 เมื่อเดินตามสะพานไม้ไปเรื่อยๆจะเห็นสถานีวิทยุชุมชนของวัดอยู่ด้านขวามือชั้นที่หนึ่งและสองมีทัศนียภาพที่ไม่ต่างกันมากนัก
ชั้นที่ 3 เป็นสะพานเวียนรอบเขาสภาพเป็นป่าเขามืดครึ้มมีโขดหินลานหินสุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทางทางซ้ายมือเป็นทางลัดผ่านชั้น 4 ไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลยซึ่งเป็นทางค่อนข้างชันส่วนทางขวามือเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4 แล้ววกขึ้นชั้นที่ 5 เป็นทางอ้อม ( ขอแนะนำว่าควรขึ้นทางนี้แล้วลงทางนั้น ( ทางลัด )
ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขามองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆสลับกันเรียกว่า " ดงชมพู " ทิศตะวันออกจดกับภูลังกาเขตอำเภอเซกาซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบมีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่านโดยเฉพาะมีฝูงกามาอาศัยอยู่มากจึงเรียกกันว่าภูรังกาแล้วเพี้ยนมาเป็นภูลังกาในที่สุดชั้นที่ 4 นี้จะเป็นที่พักของแม่ชีรอบชั้นมีระยะทางประมาณ 400 เมตรมีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะๆ
ชั้นที่ 5 หรือชั้นกลางเป็นชั้นที่สำคัญที่สุดแต่ไม่ได้สวยที่สุด ( สวยที่สุดคือชั้น 6 ) มีศาลากลางและกุฏิที่อาศัยของพระและเป็นที่เก็บศพของพระอาจารย์จวนไว้ด้วยตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำเช่นถ้ำแก้วถ้ำฤาษีฯลฯตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็นลานกว้างอยู่ราว 20 แห่งมีหน้าผาชื่อต่างๆ ' เช่นผาเทพนิมิตรผาหัวช้างผาเทพสถิตฯลฯถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหารมองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจนและมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่
6ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขามีความยาว 400 เมตรเป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบจะภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุดนาค
ชั้นที่ 7 จากชั้นที่หกขึ้นมาชั้นที่เจ็ดจะมีบันไดไม้พาดขึ้นมาแต่เมื่อเดินถึงดาดฟ้าชั้นที่เจ็ดแล้วจะพบแต่ป่าร่มครึ้มสวยงามไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับมนุษย์หากนักท่องเที่ยวโชคดีหน่อยอาจเจองูระหว่างทาง7 ก็ได้

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: