มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัยจากวิธีดั้งเดิมที่สุด หม้อหุงข้าวมีชื่อเรี การแปล - มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัยจากวิธีดั้งเดิมที่สุด หม้อหุงข้าวมีชื่อเรี ไทย วิธีการพูด

มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัยจากวิธี

มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัยจากวิธีดั้งเดิมที่สุด หม้อหุงข้าวมีชื่อเรียกว่า คามาโดะ ปรากฏในยุคสมัยโคฟุน (ประมาณ ค.ศ. 300-710) คามาโดะ เป็นเตา ธรรมดาๆ ที่สร้างจาก ดิน และ เสริมด้วยเศษอิฐ ที่แตกหรือหัก แล้วมาหลอมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และทนทานต่อความร้อน โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มทั้งข้าว แกง หรือ ซุป ต่างๆ มีข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่เลย คือ คามาโดะนั้น ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ต่อมา ในสมัยนารา-เฮอัน (ค.ศ.710-794) วิวัฒนาการ ของหม้อหุงข้าว ก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็น โอกิ-คามาโดะ มีแนวคิดให้ถูกสร้างขึ้นให้ใช้งานกลางแจ้ง มีภาชนะ แยกส่วน สำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่า ฮากามะ ซึ่งเป็นสิ้นส่วนภาชนะที่ใช้สำหรับทิ้งลงไปในหลุมที่ถูกขุดไว้ด้านล่างโดยมี กองฟืนสำหรับหุงต้มกลบไว้อีกที ในภายหลังการประดิษฐ์ภาชนะบรรจุข้าวสำหรับหุง ถูกสร้างขึ้นมาแก้ปัญหาข้อนี้โดยเฉพาะ โดยเน้นไปที่รูปแบบลักษณะเป็นทรงรี ถูกตีขึ้นด้วยโลหะ เรียกว่า โอกามะ ชาวญี่ปุ่นเรียก หม้อหุงข้าว ชนิดนี้ว่า มูชิ คามาโดะ กลางทศวรรษ 1920 ญี่ปุ่นเริ่มมีการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์หม้อหุงข้าว ที่ใช้ไฟฟ้าขึ้นเป็นครั้งแรก สำเร็จในปี 1940 โดยบริษัท ที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง มิตซูบิชิ อิเลคทริก เป็นหม้อหุงข้าวที่มีหม้อ และใช้ขดลวดนำความร้อนขดอยู่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ดูใกล้เคียงกับหม้อหุงข้าวในปัจจุบันที่สุด และในภายหลังบริษัทมัตซูชิตะ และโซนี่ก็ได้ผลิตหม้อหุงข้าวออกจำหน่าย เช่นเดียวกับ มิตซูบิชิ อิเลคทรอนิค แต่ความนิยมและเรื่องของการใช้งานนั้นก็ยังไม่ประสบ ความสำเร็จเท่าที่ควร กระทั่งวันที่ 10 ธันวาคม ปี 1956 บริษัท โตชิบา ก็ได้นำหม้อหุงข้าวที่ทำงานอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคำนวณเวลานั่งเฝ้า และทำการวางจำหน่ายทั้งหมด 700 เครื่อง ผลคือโตชิบาประสบความสำเร็จในการตลาดครั้งนี้ พอเริ่มรู้ทิศทางและความต้องการดีแล้ว โตชิบาก็เริ่มผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอัตโนมัติ เพิ่มอีก 200,000 เครื่อง ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ซึ่งใน 4 ปี ต่อมาหม้อหุงข้าวไฟฟ้าก็เป็นที่แพร่หลายไปเกือบครึ่ง ประเทศ หากวิเคราะห์ดูแล้ว สาเหตุหนึ่งที่บริษัทโตชิบา ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ก็คงเนื่องมาจากเวลาและสายการผลิตที่รวดเร็ว และความแม่นยำ ในการวิเคราะห์ความต้องการตลาด
คุณสมบัติของหม้อหุงข้าไฟฟ้า คือในขั้นตอนการหุงข้าว ในตอนนั้นจะใช้เวลาเพียง 20 นาที ซึ่งหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในยุคนั้นจะมี 2 ชั้น ชั้นนอกสำหรับบรรจุน้ำ ส่วนชั้นในสำหรับบรรจุข้าว รูปแบบเทคโนโลยีหม้อหุงข้าวนี้ถูกใช้อยู่นานถึง 9 ปี ทั่วเอเชีย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นหม้อหุงข้าวในยุคปัจจุบัน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัยจากวิธีดั้งเดิมที่สุดหม้อหุงข้าวมีชื่อเรียกว่าคามาโดะปรากฏในยุคสมัยโคฟุน (ประมาณค.ศ. 300-710) คามาโดะเป็นเตาธรรมดา ๆ ที่สร้างจากดินและเสริมด้วยเศษอิฐที่แตกหรือหักแล้วมาหลอมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อความร้อนโดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มทั้งข้าวแกงหรือซุปต่าง ๆ มีข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่เลยคือคามาโดะนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ต่อมา ในสมัยนารา-เฮอัน (ค.ศ.710-794) วิวัฒนาการ ของหม้อหุงข้าว ก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็น โอกิ-คามาโดะ มีแนวคิดให้ถูกสร้างขึ้นให้ใช้งานกลางแจ้ง มีภาชนะ แยกส่วน สำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่า ฮากามะ ซึ่งเป็นสิ้นส่วนภาชนะที่ใช้สำหรับทิ้งลงไปในหลุมที่ถูกขุดไว้ด้านล่างโดยมี กองฟืนสำหรับหุงต้มกลบไว้อีกที ในภายหลังการประดิษฐ์ภาชนะบรรจุข้าวสำหรับหุง ถูกสร้างขึ้นมาแก้ปัญหาข้อนี้โดยเฉพาะ โดยเน้นไปที่รูปแบบลักษณะเป็นทรงรี ถูกตีขึ้นด้วยโลหะ เรียกว่า โอกามะ ชาวญี่ปุ่นเรียก หม้อหุงข้าว ชนิดนี้ว่า มูชิ คามาโดะ กลางทศวรรษ 1920 ญี่ปุ่นเริ่มมีการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์หม้อหุงข้าว ที่ใช้ไฟฟ้าขึ้นเป็นครั้งแรก สำเร็จในปี 1940 โดยบริษัท ที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง มิตซูบิชิ อิเลคทริก เป็นหม้อหุงข้าวที่มีหม้อ และใช้ขดลวดนำความร้อนขดอยู่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ดูใกล้เคียงกับหม้อหุงข้าวในปัจจุบันที่สุด และในภายหลังบริษัทมัตซูชิตะ และโซนี่ก็ได้ผลิตหม้อหุงข้าวออกจำหน่าย เช่นเดียวกับ มิตซูบิชิ อิเลคทรอนิค แต่ความนิยมและเรื่องของการใช้งานนั้นก็ยังไม่ประสบ ความสำเร็จเท่าที่ควร กระทั่งวันที่ 10 ธันวาคม ปี 1956 บริษัท โตชิบา ก็ได้นำหม้อหุงข้าวที่ทำงานอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคำนวณเวลานั่งเฝ้า และทำการวางจำหน่ายทั้งหมด 700 เครื่อง ผลคือโตชิบาประสบความสำเร็จในการตลาดครั้งนี้ พอเริ่มรู้ทิศทางและความต้องการดีแล้ว โตชิบาก็เริ่มผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอัตโนมัติ เพิ่มอีก 200,000 เครื่อง ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ซึ่งใน 4 ปี ต่อมาหม้อหุงข้าวไฟฟ้าก็เป็นที่แพร่หลายไปเกือบครึ่ง ประเทศ หากวิเคราะห์ดูแล้ว สาเหตุหนึ่งที่บริษัทโตชิบา ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ก็คงเนื่องมาจากเวลาและสายการผลิตที่รวดเร็ว และความแม่นยำ ในการวิเคราะห์ความต้องการตลาด คุณสมบัติของหม้อหุงข้าไฟฟ้า คือในขั้นตอนการหุงข้าว ในตอนนั้นจะใช้เวลาเพียง 20 นาที ซึ่งหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในยุคนั้นจะมี 2 ชั้น ชั้นนอกสำหรับบรรจุน้ำ ส่วนชั้นในสำหรับบรรจุข้าว รูปแบบเทคโนโลยีหม้อหุงข้าวนี้ถูกใช้อยู่นานถึง 9 ปี ทั่วเอเชีย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นหม้อหุงข้าวในยุคปัจจุบัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
หม้อหุงข้าวมีชื่อเรียกว่าคามาโดะปรากฏในยุคสมัยโคฟุน (ประมาณ ค.ศ. 300-710) คามาโดะเป็นเตาธรรมดา ๆ ที่สร้างจากดินและเสริมด้วยเศษอิฐที่แตกหรือหักแล้วมาหลอมเพื่อ เพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อความร้อน แกงหรือซุปต่างๆมีข้อเสียที่เป็นปฐมวัยใหญ่เลยคือคามาโดะนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ต่อมาในสมัยนารา - เฮอัน (ค.ศ. 710-794) วิวัฒนาการของหม้อหุงข้าวก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้งโดย ครั้งนี้เป็นโอกิ - คามาโดะ มีภาชนะแยกส่วนสำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่าฮากามะ กองฟืนสำหรับหุงต้มกลบไว้อีกที โดยเน้นไปที่รูปแบบลักษณะเป็นทรงรีถูกตีขึ้นด้วยโลหะเรียกว่าโอกามะชาวญี่ปุ่นเรียกหม้อหุงข้าวชนิดนี้ว่ามูชิคามาโดะกลางทศวรรษ 1920 ที่ใช้ไฟฟ้าขึ้นเป็นครั้งแรกสำเร็จในปี 1940 โดย บริษัท ที่เราคุ้นหูกันดีอย่างมิตซูบิชิอิเลคทริกเป็นหม้อหุงข้าวที่มีหม้อ และในภายหลัง บริษัท มัตซูชิตะ เช่นเดียวกับมิตซูบิชิอิเลคทรอนิค ความสำเร็จเท่าที่ควรกระทั่งวันที่ 10 ธันวาคมปี 1956 บริษัท โตชิบา โดยไม่ต้องคำนวณเวลานั่งเฝ้าและทำการวางจำหน่ายทั้งหมด 700 เครื่อง เพิ่มอีก 200,000 เครื่องในระยะเวลาเพียง 1 เดือนซึ่งใน 4 ปี ประเทศหากวิเคราะห์ดูแล้วสาเหตุหนึ่งที่ บริษัท โตชิบาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ และความแม่นยำ
คือในขั้นตอนการหุงข้าวในตอนนั้นจะใช้เวลาเพียง 20 นาทีซึ่งหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในยุคนั้นจะมี 2 ชั้นชั้นนอกสำหรับบรรจุน้ำส่วนชั้นในสำหรับบรรจุข้าว 9 ปีทั่วเอเชีย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัยจากวิธีดั้งเดิมที่สุดหม้อหุงข้าวมีชื่อเรียกว่าคามาโดะปรากฏในยุคสมัยโคฟุน ( ประมาณค . ศ .300-710 ) คามาโดะเป็นเตาธรรมดาๆที่สร้างจากดินและเสริมด้วยเศษอิฐที่แตกหรือหักแล้วมาหลอมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อความร้อนโดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มทั้งข้าวแกงค็อคซุปต่างๆความคามาโดะนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ต่อมาในสมัยนารา - เฮอัน ( ค . ศ .710-794 ) วิวัฒนาการของหม้อหุงข้าวก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้งโดยครั้งนี้เป็นโอกิ - คามาโดะมีแนวคิดให้ถูกสร้างขึ้นให้ใช้งานกลางแจ้งมีภาชนะแยกส่วนสำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่าฮากามะกองฟืนสำหรับหุงต้มกลบไว้อีกทีในภายหลังการประดิษฐ์ภาชนะบรรจุข้าวสำหรับหุงถูกสร้างขึ้นมาแก้ปัญหาข้อนี้โดยเฉพาะโดยเน้นไปที่รูปแบบลักษณะเป็นทรงรีถูกตีขึ้นด้วยโลหะเรียกว่าโอกามะชาวญี่ปุ่นเรียกชนิดนี้ว่ามูชิคามาโดะกลางทศวรรษ 1920 ญี่ปุ่นเริ่มมีการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์หม้อหุงข้าวที่ใช้ไฟฟ้าขึ้นเป็นครั้งแรกสำเร็จในปี 1940 โดยบริษัทที่เราคุ้นหูกันดีอย่างมิตซูบิชิอิเลคทริกเป็นหม้อหุงข้าวที่มีหม้อซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ดูใกล้เคียงกับหม้อหุงข้าวในปัจจุบันที่สุดและในภายหลังบริษัทมัตซูชิตะและโซนี่ก็ได้ผลิตหม้อหุงข้าวออกจำหน่ายเช่นเดียวกับมิตซูบิชิอิเลคทรอนิค
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: