อธิบายแบบตามเข้าใจของฉันก็คือ ตอนนี

อธิบายแบบตามเข้าใจของฉันก็คือ ตอนนี้ฉันมีดอกกุหลายอยู่ในมือ กุหลาบมีอยู่เพราะฉันรับรู้ว่ามันมีนะ ขณะที่ฉันมอบดอกกุหลาบให้คุณ เราทั้งคู่มองดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบนั้นมีอยู่ แต่เมื่อคุณรับแล้วเดินจากฉันไป ดอกกุหลาบก็ยังมีอยู่ เพราะฉันไม่รับรู้ว่ามันมีอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่คุณรับรู้ว่าดอกกุหลาบยังมีอยู่ ดังนั้นมันจึงมีอยู่

Explain according to my understanding is Now I'm a rose in his hand. The rose is because I realized that it does. While I give a rose to you. We both looked at the rose roses that exists, but when you get and then walked away from me.Because I don't know whether it exists anymore. But you know rose also. So it exists



คือปรากฏการณ์เป็นอะไรที่เชื่อมโยงความคิดของแต่ละคนไว้ด้วยกันก็เหมือนกับฉันไปเรียนที่มหาลัยstamford ฉันรู้ว่ามันมีอยู่จริงเพราะฉันยืนอยู่แต่พอเลิกเรียนฉันกลับบ้านไป เพื่อนคนอื่นก็ยังอยู่ที่นี้ก็แปลว่ามหาลัยนี้เป็นความจริง คือ มันเป็นเรื่องที่ถึงเราจะไม่เห็นไม่รับรู้แล้วแต่ถ้ามีคนอื่นยังเห็นและรับรู้ก็จะแสดงถึงตัวตนของวัตถุนั้น ดูอย่างเรื่องของสี คุณเห็นสีชมพู สีน้ำเงิน และ มันต่างกันยังไง ขึ้นอยู่กับมุมมองของจิตแต่ประสบการณ์มันทำให้คุณรู้ว่านี้คือสีอะไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อธิบายแบบตามเข้าใจของฉันก็คือตอนนี้ฉันมีดอกกุหลายอยู่ในมือกุหลาบมีอยู่เพราะฉันรับรู้ว่ามันมีนะขณะที่ฉันมอบดอกกุหลาบให้คุณเราทั้งคู่มองดอกกุหลาบดอกกุหลาบนั้นมีอยู่แต่เมื่อคุณรับแล้วเดินจากฉันไปดอกกุหลาบก็ยังมีอยู่เพราะฉันไม่รับรู้ว่ามันมีอยู่อีกต่อไปแล้วแต่คุณรับรู้ว่าดอกกุหลาบยังมีอยู่ดังนั้นมันจึงมีอยู่ อธิบายตามความเข้าใจของฉันคือตอนนี้ผมดอกกุหลาบในมือ กุหลาบเป็น เพราะผมรู้ว่า มันไม่ ในขณะที่ให้ดอกกุหลาบคุณ เรามองกุหลาบกุหลาบที่มีอยู่ แต่เมื่อคุณได้รับ และจากนั้น เดินไปจากฉัน เพราะฉันไม่รู้ว่า มันอยู่อีกต่อไป แต่คุณรู้ว่าโรสยัง มีอยู่ดังนั้น คือปรากฏการณ์เป็นอะไรที่เชื่อมโยงความคิดของแต่ละคนไว้ด้วยกันก็เหมือนกับฉันไปเรียนที่มหาลัยstamford ฉันรู้ว่ามันมีอยู่จริงเพราะฉันยืนอยู่แต่พอเลิกเรียนฉันกลับบ้านไปเพื่อนคนอื่นก็ยังอยู่ที่นี้ก็แปลว่ามหาลัยนี้เป็นความจริงคือมันเป็นเรื่องที่ถึงเราจะไม่เห็นไม่รับรู้แล้วแต่ถ้ามีคนอื่นยังเห็นและรับรู้ก็จะแสดงถึงตัวตนของวัตถุนั้นดูอย่างเรื่องของสีคุณเห็นสีชมพูสีน้ำเงินและมันต่างกันยังไงขึ้นอยู่กับมุมมองของจิตแต่ประสบการณ์มันทำให้คุณรู้ว่านี้คือสีอะไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อธิบายแบบตามเข้าใจของฉันก็คือตอนนี้ฉันมีดอกกุหลายอยู่ในมือ ขณะที่ฉันมอบดอกกุหลาบให้คุณเราทั้งคู่มองดอกกุหลาบดอกกุหลาบนั้นมีอยู่ แต่เมื่อคุณรับแล้วเดินจากฉันไปดอกกุหลาบก็ยังมีอยู่ แต่คุณรับรู้ว่าดอกกุหลาบยังมีอยู่ดังนั้นมันจึงมีอยู่อธิบายตามความเข้าใจของฉันตอนนี้ฉันดอกกุหลาบในมือของเขา กุหลาบเป็นเพราะฉันรู้ว่ามันไม่ ในขณะที่ฉันให้ดอกกุหลาบให้กับคุณ เราทั้งสองมองไปที่ดอกกุหลาบดอกกุหลาบที่มีอยู่ แต่เมื่อคุณได้รับแล้วเดินออกไปจาก me.Because ผมไม่ทราบว่ามันมีอยู่อีกต่อไป แต่คุณรู้ว่ายังปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นจึง คือ ดูอย่างเรื่องของสีคุณเห็นสีชมพูสีน้ำเงินและมันต่างกันยังไง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อธิบายแบบตามเข้าใจของฉันก็คือตอนนี้ฉันมีดอกกุหลายอยู่ในมือกุหลาบมีอยู่เพราะฉันรับรู้ว่ามันมีนะขณะที่ฉันมอบดอกกุหลาบให้คุณเราทั้งคู่มองดอกกุหลาบดอกกุหลาบนั้นมีอยู่แต่เมื่อคุณรับแล้วเดินจากฉันไปเพราะฉันไม่รับรู้ว่ามันมีอยู่อีกต่อไปแล้วแต่คุณรับรู้ว่าดอกกุหลาบยังมีอยู่ดังนั้นมันจึงมีอยู่

อธิบายตามความเข้าใจของผมคือ ตอนนี้ผมเป็นกุหลาบอยู่ในมือของเขา กุหลาบเป็นเพราะฉันได้ตระหนักว่า มันไม่ ในขณะที่ฉันให้ดอกกุหลาบเธอ เราสองคนมองกุหลาบดอกนั้นมีอยู่ แต่เมื่อคุณได้รับแล้วเดินจากไปจากฉัน เพราะฉันไม่รู้ว่ามันมีอยู่แล้ว แต่คุณรู้เพิ่มขึ้นด้วย แล้วมันมีอยู่



คือปรากฏการณ์เป็นอะไรที่เชื่อมโยงความคิดของแต่ละคนไว้ด้วยกันก็เหมือนกับฉันไปเรียนที่มหาลัยฉันรู้ว่ามันมีอยู่จริงเพราะฉันยืนอยู่แต่พอเลิกเรียนฉันกลับบ้านไปสแตมฟอร์ดความมันเป็นเรื่องที่ถึงเราจะไม่เห็นไม่รับรู้แล้วแต่ถ้ามีคนอื่นยังเห็นและรับรู้ก็จะแสดงถึงตัวตนของวัตถุนั้นดูอย่างเรื่องของสีคุณเห็นสีชมพูสีน้ำเงินและมันต่างกันยังไง