จรรยาบรรณของนักบัญชีเพื่อการจัดการ
วิชาชีพบัญชีเป็นวิชาชีพอิสระแขนงหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีเป็นผู้ให้ข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้องเชื่อถือได้แก่ผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ปัจจุบันการนำเสนอข้อมูลออนไลน์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ดังนั้น ถ้าไม่มีจริยธรรมในวิชาชีพ อาจทำให้เกิดความสูญเสียมากมายมหาศาลในวงกว้าง ระดับโลกได้ ส่งผลให้วิชาชีพนักบัญชีเพื่อการจัดการมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจมากขึ้น ในสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันรุนแรง ถ้าหากนักบัญชีเพื่อการจัดการขาดจริยธรรมสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจของตลาดจะผันผวนได้ มาตรฐานวิชาชีพจึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการควบคุมดูแลนักบัญชีเพื่อการจัดการในด้านจริยธรรมทางวิชาชีพ สมาคมวิชาชีพนักบัญชีเพื่อการจัดการแห่งแรกได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศแคนาดา คือ Society of Management Accountants of Canada ประเทศอังกฤษมีสถาบันวิชาชีพ คือ Institute of Chartered Management Accountants: ICMA ประเทศออสเตรเลียมีสถาบันวิชาชีพ คือ Institute of Chartered Accountants in Australia ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกาได้ก่อตั้งสถาบันวิชาชีพนักบัญชีเพื่อการจัดการ (Institute of Management Accountants: IMA) IMA เป็นองค์กรวิชาชีพนักบัญชีเพื่อการจัดการที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิกที่เป็นนักบัญชีจำนวนมาก มีหน้าที่หลักในการจัดการและกำหนดคุณสมบัติของนักบัญชีเพื่อการจัดการ และมีหน้าที่จัดการทดสอบผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นนักบัญชีเพื่อการจัดการรับอนุญาต (Certified Management Accountant: CMA) สำหรับในประเทศแคนาดามีการจัดทดสอบเพื่อให้นักบัญชีเพื่อการจัดการมีโอกาสได้รับอนุญาตให้เป็นนักบัญชีอุตสาหกรรมขึ้นทะเบียน (Registered Industrial Accountants: RIA) นอกจากนี้ IMA ยังเป็นองค์กรที่มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมทางวิชาชีพของนักบัญชีเพื่อการจัดการ ซึ่งมาตรฐานจริยธรรมทางวิชาชีพของIMA ได้กำหนดความรับผิดชอบของนักบัญชีเพื่อการจัดการไว้ 4 ประการ ดังนี้ (Hilton. 2002)
1. ความสามารถ นักบัญชีเพื่อการจัดการต้องเรียนรู้พัฒนาความรู้และทักษะทางวิชาชีพ ต้องติดตามกฎหมาย ข้อบังคับและมาตรฐานวิชาชีพอย่างสม่ำเสมอ ต้องจัดทำรายงานทางการเงินที่ครบถ้วนโปร่งใส และจะแสดงความเห็นในงบการเงินก็ต่อเมื่อได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเชื่อถือได้แล้ว
2. การรักษาความลับ นักบัญชีเพื่อการจัดการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กร เว้นแต่ได้รับมอบหมายให้เปิดเผย หรือจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฏข้อบังคับ
3. ความซื่อสัตย์ นักบัญชีเพื่อการจัดการต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และวิชาชีพ ไม่รับประโยชน์หรือทรัพย์สินที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่
4. ความเป็นกลาง นักบัญชีเพื่อการจัดการต้องนำเสนอข้อมูลด้วยความเป็นธรรม ไม่มีอคติหรือความลำเอียง และต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องและมีกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงินได้อย่างครบถ้วน
ถึงแม้ว่าในประเทศไทยยังไม่มีสถาบันวิชาชีพนักบัญชีเพื่อการจัดการโดยเฉพาะและยังไม่มีการทดสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นนักบัญชีเพื่อการจัดการรับอนุญาตเหมือนในต่างประเทศ แต่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูลทางการบัญชีเพื่อการบริหารหรือเป็นนักบัญชีเพื่อการจัดการ นักบัญชีก็ควรต้องมีคุณสมบัติเฉพาะและมีความรับผิดชอบต่อการนำเสนอข้อมูลด้วยเช่นกัน ซึ่งสภาวิชาชีพบัญชีฯได้กำหนดข้อบังคับฉบับที่ 19 เรื่อง จรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2553 เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้ถูกต้องตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพบัญชี (สภาวิชาชีพบัญชีฯ. 2553)
จรรยาบรรณทางวิชาชีพการบัญชี ประกอบด้วย 10 ข้อ ต่อไปนี้
1. ความโปร่งใส
2. ความเป็นอิสระ
3. ความเที่ยงธรรม
4. ความซื่อสัตย์สุจริต
5. ความรู้ความสามารถ
6. มาตรฐานในการปฏิบัติงาน
7. รักษาความลับ
8. ความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ
9. ความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ผู้เป็นหุ้นส่วน บุคคล หรือนิติบุคคลที่ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ให้
10. ความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพ และจรรยาบรรณทั่วไป