1. IntroductionTwo of the most comm

1. Introduction
Two of the most commonly consumed dietary supplements in the Western world are fish oils containing long chain n-3 polyunsaturated fatty acids (LC n-3 PUFA) and multivitamins [1,2]. The high prevalence of multivitamin use can be attributed to the fact that vitamin deficiencies are common, even in affluent countries [3]. The high prevalence of fish oil use may be in response to recent health messages, made by respected medical authorities such as the American Heart Association, advocating the benefits of increasing dietary LC n-3 PUFA intake.

Extensive research has explored the effects of multivitamin and fish oil supplementation in isolation, however, examination into their combined effect on human health remains scarce. Data from the National Health and Nutrition Examination Survey suggests that users of complementary medicine are most likely to use more than one supplement [4] meaning that many people are using both vitamin and fish oil supplements at the same time. There is also some preliminary evidence to suggest that vitamins and fish oils may have synergistic effects. Vitamin and mineral co-factors can influence the biosynthesis of LC n-3 PUFA, altering levels of LC n-3 PUFA measured in vivo [5,6,7]. In particular, a preclinical study demonstrated that an experimentally induced folic acid deficiency was associated with a fall in LC n-3 PUFA levels, suggesting that low levels of antioxidant vitamins may increase lipid peroxidation [7]. Based on their frequency of use and potentially synergistic actions, there is a clear need to understand how multivitamins and fish oils combine to affect potential health outcomes.

The present study investigated the effects of fish oil supplementation, with and without the addition of a multivitamin, on LC n-3 PUFA and LC n-6 PUFA incorporation measured in red blood cells. Healthy elderly participants (n = 160) were randomized into four groups to receive daily: (1) 6 g of fish oil; (2) 6 g of fish oil plus a multivitamin; (3) 3 g of fish oil and a multivitamin; or (4) a placebo in a double-blind, parallel groups design. The primary outcome of this trial was the effect of treatment on cognitive and cardiovascular function, which has been previously published [8]. This paper is concerned with the secondary aim of this trial which was to examine how high and low dosages of fish oil, in combination with a multivitamin, affected the incorporation of LC n-3 PUFA into erythrocytes. Specifically, in participants taking fish oil, we predicted increases in both EPA and DHA given that these were provided in balanced proportions in the fish oil supplements; and a dose response effect between consumption of 3 g and 6 g of fish oil. Additionally, we also examined whether combining 6 g of fish oil with a daily multivitamin increased LC n-3 PUFA red blood cell incorporation, over and above the effects of fish oil alone.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทนำสองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้มากที่สุดในโลกตะวันตกคือน้ำมันปลาที่ประกอบด้วยยาวโซ่ n-3 ไม่อิ่มตัวกรดไขมัน (LC n-3 PUFA) และวิตามิน [1, 2] ความชุกสูงของการใช้วิตามินอาจเป็นเพราะในความจริงที่ว่า ขาดวิตามินทั่วไป แม้ในประเทศร่ำรวย [3] ความชุกสูงของการใช้น้ำมันปลาอาจจะตอบข้อความล่าสุดสุขภาพ ทำ โดยหน่วยงานทางการแพทย์ยอมรับเช่นสมาคมหัวใจอเมริกัน สนับสนุนประโยชน์ของการบริโภค n-3 PUFA LC อาหารที่เพิ่มขึ้นวิจัยได้สำรวจผลกระทบของการเสริมน้ำมันปลาและวิตามินในการแยก ตรวจสอบผลรวมของสุขภาพของมนุษย์ยังคงขาดแคลน ข้อมูลสุขภาพแห่งชาติและสำรวจตรวจสอบโภชนาการแนะนำผู้ใช้ของแพทย์ทางเลือกมักจะใช้อาหารเสริมมากกว่าหนึ่ง [4] หมายความ ว่า คนใช้น้ำมันปลาและวิตามินเสริมในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเบื้องต้นแนะนำว่า วิตามินน้ำมันปลาอาจมีผลเสริมฤทธิ์กัน ปัจจัยร่วมวิตามินและแร่ธาตุสามารถมีอิทธิพลต่อการสังเคราะห์ของ LC n-3 PUFA เปลี่ยนระดับของ LC n-3 PUFA วัดในสัตว์ทดลอง [5,6,7] โดยเฉพาะ การศึกษาแผ่นพับแสดงให้เห็นว่า การขาดเม็ดเกิดสมมติฐานได้เชื่อมโยงกับฤดูใบไม้ร่วงใน LC n-3 PUFA ระดับ แนะนำว่า วิตามินสารต้านอนุมูลอิสระในระดับต่ำอาจเพิ่มไขมัน peroxidation [7] จากความถี่ของการใช้งานและการดำเนินการอาจทำงานร่วมกัน มีการล้างต้องเข้าใจวิธีรวมวิตามินน้ำมันปลามีผลต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นศึกษาตรวจสอบผลของการเสริมน้ำมันปลา มี และไม่ มีการเพิ่มวิตามิน LC n-3 PUFA และ LC n-6 PUFA รวมตัวกันในเซลล์เม็ดเลือดแดง สุขภาพผู้สูงอายุ (n = 160) ถูกสุ่มเป็นกลุ่มสี่รับทุกวัน: (1) 6 กรัมของน้ำมันปลา (2) 6 กรัมของน้ำมันปลาวิตามิน (3) 3 กรัมของน้ำมันปลาและวิตามิน หรือ (4) ยาหลอกขนานตาบ กลุ่มออกแบบ ผลลัพธ์หลักของการทดลองนี้ได้ผลการรักษาองค์ความรู้ และหัวใจทำงาน ซึ่งได้รับการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ [8] กระดาษนี้เกี่ยวข้องกับจุดมุ่งหมายรองของการทดลองซึ่งจะตรวจสอบวิธีสูงต่ำและปริมาณของน้ำมันปลา รวมกับวิตามิน ได้รับผลกระทบรวมตัวกันของ LC n-3 PUFA ในเม็ดเลือดแดง ในผู้เข้าร่วมโดยเฉพาะ ปลาน้ำมัน เราคาดการณ์เพิ่มขึ้นของ EPA และ DHA ให้ที่เหล่านี้ไว้ในสัดส่วนที่สมดุลในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา และลักษณะการตอบสนองยาของ 3 g และ 6 กรัมของน้ำมันปลา นอกจากนี้ เรายังตรวจสอบว่ารวม 6 กรัมของน้ำมันปลากับที่ทุกวันวิตามินเพิ่ม LC n-3 PUFA เซลล์เม็ดเลือดแดงประสาน เหนือจากผลกระทบของน้ำมันปลาเพียงอย่างเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำ
สองของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่นิยมบริโภคมากที่สุดในโลกตะวันตกที่มีน้ำมันปลาที่มีห่วงโซ่ยาว n-3 กรดไขมันไม่อิ่มตัว (LC n-3 PUFA) และวิตามิน [1,2] ความชุกสูงในการใช้วิตามินสามารถนำมาประกอบกับความจริงที่ว่าขาดวิตามินเป็นเรื่องธรรมดาแม้ในประเทศที่ร่ำรวย [3] ความชุกสูงในการใช้น้ำมันปลาอาจจะอยู่ในการตอบสนองต่อข้อความสุขภาพล่าสุดที่ทำโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เคารพนับถือเช่นสมาคมโรคหัวใจอเมริกันเรียกร้องผลประโยชน์ของการเพิ่ม LC อาหาร n-3 PUFA บริโภค. the วิจัยมีการสำรวจผลกระทบของวิตามินและ อาหารเสริมน้ำมันปลาในการแยก แต่การตรวจสอบลงไปในผลรวมของพวกเขาต่อสุขภาพของมนุษย์ยังคงหายาก ข้อมูลจากสุขภาพและสำรวจตรวจสอบโภชนาการแห่งชาติแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยาเสริมมีแนวโน้มที่จะใช้มากกว่าหนึ่งเสริม [4] หมายความว่าคนจำนวนมากใช้ทั้งวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าวิตามินและน้ำมันปลาอาจจะมีการเสริมฤทธิ์ วิตามินและแร่ธาตุปัจจัยร่วมสามารถมีอิทธิพลต่อการสังเคราะห์ของ LC n-3 PUFA การเปลี่ยนแปลงระดับของ LC n-3 PUFA วัดในร่างกาย [5,6,7] โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาพรีคลินิกแสดงให้เห็นว่าการขาดกรดโฟลิคเหนี่ยวนำให้เกิดการทดลองได้เกี่ยวข้องกับการตกอยู่ใน LC N-3 ระดับ PUFA ที่บอกว่าอยู่ในระดับต่ำของวิตามินสารต้านอนุมูลอิสระอาจเพิ่มขึ้นเกิด lipid peroxidation [7] ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและการกระทำที่อาจเกิดการทำงานร่วมกันมีความต้องการที่ชัดเจนที่จะเข้าใจว่าวิตามินและน้ำมันปลารวมจะมีผลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น. การศึกษาในปัจจุบันการตรวจสอบผลกระทบของการเสริมน้ำมันปลาที่มีและไม่มีการเพิ่มของวิตามินที่ ใน LC n-3 PUFA และ LC n-6 PUFA รวมตัวกันที่วัดได้ในเซลล์เม็ดเลือดแดง ผู้เข้าร่วมประชุมผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี (n = 160) ได้รับการสุ่มเป็นสี่กลุ่มที่จะได้รับในชีวิตประจำวัน (1) 6 กรัมของน้ำมันปลา; (2) 6 กรัมของน้ำมันปลาวิตามินบวก; (3) 3 กรัมของน้ำมันปลาและวิตามิน; หรือ (4) ยาหลอกในแบบ double-blind, การออกแบบกลุ่มแบบคู่ขนาน ผลหลักของการทดลองนี้เป็นผลของการรักษาในการคิดและการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดซึ่งได้รับการตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ [8] กระดาษนี้เป็นกังวลกับจุดมุ่งหมายที่สองของการทดลองนี้ซึ่งจะตรวจสอบวิธีการที่สูงและต่ำปริมาณของน้ำมันปลาร่วมกับวิตามินรวมได้รับผลกระทบรวมตัวกันของ LC n-3 PUFA เข้าไปในเม็ดเลือดแดง โดยเฉพาะในผู้เข้าร่วมการน้ำมันปลาที่เราคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นทั้งใน EPA และ DHA ที่ได้รับเหล่านี้ถูกจัดให้อยู่ในสัดส่วนที่สมดุลในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา; และผลการตอบสนองต่อยาระหว่างการบริโภค 3 กรัมและ 6 กรัมของน้ำมันปลา นอกจากนี้เรายังตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นการรวม 6 กรัมของน้ำมันปลาที่มีวิตามินประจำวันเพิ่มขึ้น LC n-3 PUFA การรวมตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดงและเหนือกว่าผลกระทบของน้ำมันปลาเพียงอย่างเดียว