2.5. Data analysis planTo examine w

2.5. Data analysis plan

To examine whether fathers reported more challenging parenting behaviour than mothers (hypothesis 1), a paired-samples t-test was conducted. The relationship between parental anxiety and challenging parenting behaviour (hypothesis 2) was examined through hierarchical multiple regression analyses (MRA), whilst controlling for potential covariates (e.g. parental age). The hypothesis (3), that parents would report higher levels of challenging parenting behaviour for their male children compared to their female children, was examined via independent samples t-test.

To examine the association between challenging parenting behaviour and child anxiety (hypotheses 4 and 5), and whether child gender moderates this association, two dependent variables were examined across a series of regression analyses. Both dependent variables were measures of child anxiety: mother report of child anxiety symptoms on the PAS (a continuous measure); presence of an anxiety diagnosis based on the ADIS-IV-P (a dichotomous variable-anxiety group). For child anxiety symptoms, hierarchical MRA was used. For anxiety group, logistic regression was used. Of primary interest were the main effects of challenging parenting behaviour and child gender on child anxiety, as well as the interaction between child gender and challenging parenting behaviour.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.5 ข้อมูลวิเคราะห์วางแผนการตรวจสอบว่าพ่อรายงานพฤติกรรมการเลี้ยงดูยากมากกว่าคุณแม่ (สมมติฐาน 1), t-ทดสอบตัวอย่างคู่ที่ดำเนินการ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองความวิตกกังวลและพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทาย (สมมติฐาน 2) ได้รับการตรวจผ่านหลายลำดับชั้นถดถอยวิเคราะห์ covariates (MRA), ในขณะที่ควบคุมได้ (เช่นผู้ปกครองอายุ) สมมติฐาน (3), ที่ผู้ปกครองรายงานระดับสูงท้าทายพฤติกรรมการเลี้ยงดูลูกชายเมื่อเทียบกับเด็กผู้หญิง ถูกตรวจสอบผ่านอย่างอิสระ t-ทดสอบการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทายเด็กวิตกกังวล (hypotheses 4 และ 5), และว่าเด็กเพศ moderates สมาคมนี้ สองตัวแปรขึ้นอยู่กับถูกตรวจสอบผ่านชุดของการวิเคราะห์การถดถอย ถูกทั้งสองตัวแปรขึ้นอยู่กับมาตรการของความวิตกกังวลของเด็ก: แม่รายงานอาการความวิตกกังวลของเด็ก PAS (ต่อเนื่องวัด); สถานะของการวินิจฉัยโรควิตกกังวลที่อิงการ ADIS-IV-P (กลุ่มตัวแปรความวิตกกังวล dichotomous) ใช้ลำดับ MRA สำหรับอาการวิตกกังวลของเด็ก สำหรับความวิตกกังวลกลุ่ม ใช้การถดถอยโลจิสติก น่าสนใจหลักถูกผลกระทบหลักของพฤติกรรมการเลี้ยงดูท้าทาย และเพศเด็กลูกความวิตกกังวล เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศของเด็กและพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.5 แผนในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าบรรพบุรุษรายงานพฤติกรรมการเลี้ยงดูท้าทายมากขึ้นกว่าแม่ (สมมติฐานที่ 1) ที่จับคู่ตัวอย่าง-t-test ได้ดำเนินการ ความสัมพันธ์ระหว่างความวิตกกังวลของผู้ปกครองและพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทาย (สมมติฐาน 2) ได้ตรวจสอบผ่านการวิเคราะห์การถดถอยหลายลำดับชั้น (MRA) ในขณะที่การควบคุมตัวแปรที่อาจเกิดขึ้น (เช่นผู้ปกครองอายุ) สมมติฐาน (3) ว่าพ่อแม่จะรายงานระดับที่สูงขึ้นของพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทายสำหรับเด็กชายของพวกเขาเมื่อเทียบกับเด็กเพศหญิงของพวกเขาได้รับการตรวจสอบผ่านทางกลุ่มที่เป็นอิสระ t-test. เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทายและความวิตกกังวลเด็ก (สมมติฐานที่ 4 และ 5) และไม่ว่าฝ่ายกลางเด็กเพศสัมพันธ์นี้สองตัวแปรมีการตรวจสอบผ่านชุดของการวิเคราะห์การถดถอย ทั้งสองตัวแปรตามมาตรการของความวิตกกังวลสำหรับเด็ก: รายงานแม่ของอาการวิตกกังวลเด็กใน PAS (กวัดอย่างต่อเนื่อง); การปรากฏตัวของการวินิจฉัยความวิตกกังวลขึ้นอยู่กับ ADIS-IV-P (ก dichotomous กลุ่มตัวแปรความวิตกกังวล) สำหรับอาการวิตกกังวลเด็ก MRA ลำดับชั้นถูกนำมาใช้ สำหรับกลุ่มความวิตกกังวลการถดถอยโลจิสติกถูกนำมาใช้ ที่น่าสนใจเป็นหลักเป็นผลกระทบหลักของพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทายและเพศของเด็กต่อความวิตกกังวลของเด็กเช่นเดียวกับการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศเด็กและพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ท้าทาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.5 การวางแผนการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมที่ท้าทายมากขึ้นกว่าเลี้ยงดูบิดามารดา ( สมมติฐาน 1 ) , Paired Samples t-test และการทดลอง ความสัมพันธ์ระหว่างความวิตกกังวลของพ่อแม่และการเลี้ยงดู ( พฤติกรรมท้าทายสมมติฐานที่ 2 ) คือการตรวจสอบโดยการวิเคราะห์ถดถอยพหุการวิเคราะห์ ( MRA ) ในขณะที่การควบคุมสำหรับความรู้ที่อาจเกิดขึ้น ( เช่นผู้ปกครองอายุ ) สมมติฐาน ( 3 ) พ่อแม่จะรายงานระดับที่สูงขึ้นของพฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูที่เด็กชายของพวกเขาเมื่อเทียบกับเด็กหญิงของพวกเขาถูกตรวจสอบผ่านตัวอย่างอิสระ )ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูเด็กที่ท้าทายและความวิตกกังวล ( ข้อ 4 , 5 ) และไม่ว่าเพศเด็กปานกลาง สมาคมนี้ สองตัวแปรตามคือการตรวจสอบในชุดของการวิเคราะห์การถดถอย ตัวแปรตาม คือ ทั้งมาตรการของความวิตกกังวลในเด็ก : รายงานแม่ของอาการวิตกกังวลเมื่อเด็ก PAS ( วัดอย่างต่อเนื่อง ) ; การปรากฏตัวของความกังวล การวินิจฉัยขึ้นอยู่กับ adis-iv-p ( dichotomous ตัวแปรความกังวลกลุ่ม ) สำหรับอาการวิตกกังวลเล็ก ลดหลั่นประกอบด้วยใช้ สำหรับกลุ่มความวิตกกังวล , logistic regression พบว่า ความสนใจหลักคือผลหลักของความท้าทายเลี้ยงดูเด็กพฤติกรรมและเพศต่อเด็ก รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศและพฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กที่ท้าทาย .