The results also show, that co-dige

The results also show, that co-digestion of corn silage with cattle manure (Base SS), will improve the overall environmental performance of single feedstock digestion of corn by over 100% (2.9 pt)
(Figs. 3 and 4). Also, the co-digestion of cattle manure with corn silage, grass silage and whole wheat plant silage significantly enhanced the environmental performance for small (Base SS-1) and large-scale (Base LS-1) biogas plants, respectively, compared to single feedstock digestion of grass silage and whole wheat plant silage. With respect to energy balance (Pöschl et al., 2010), the results indicated that co-digestion of cattle manure with corn silage (Base SS), and MSW with food residues (Base LS) represented the most energy efficient co-digestion scenarios, for small and largescale plants, respectively. Evidence from this study indicates that the environmental performance is the key impedance on feedstocks that could be sustainably used in the mix.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการแสดง การย่อยอาหารร่วมของไซเลจต่อข้าวโพดกับมูลวัว (ฐาน SS), จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานสิ่งแวดล้อมโดยรวมของยัง เดียวย่อยอาหารวัตถุดิบของข้าวโพดกว่า 100% (2.9 pt)
(Figs. 3 และ 4) ยัง ย่อยอาหารร่วมของมูลวัวกับไซเลจต่อข้าวโพด หญ้าไซเลจต่อและไซเลจต่อพืชข้าวสาลีทั้งหมดอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ (ฐาน LS-1) ก๊าซชีวภาพ และขนาดเล็ก (ฐาน SS-1) ตามลำดับ เปรียบเทียบกับวัตถุดิบที่เดียวการย่อยอาหารของหญ้าไซเลจต่อและไซเลจต่อพืชข้าวสาลีทั้งหมด เกี่ยวกับสมดุลพลังงาน (Pöschl et al., 2010), ผลลัพธ์แสดงการย่อยอาหารร่วมของมูลวัวด้วยข้าวโพดไซเลจต่อ (ฐาน SS), และมูลฝอย มีอาหารตกค้าง (Base LS) แทนที่สุดพลังงานมีประสิทธิภาพย่อยอาหารร่วมสถานการณ์ สำหรับโรงงานขนาดเล็กและ largescale ตามลำดับ หลักฐานจากการศึกษานี้บ่งชี้ว่า ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมความต้านทานหลักบนวมวลที่สามารถนำมาฟื้นฟูใช้ผสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลที่ได้ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ร่วมการย่อยอาหารของข้าวโพดหมักกับปุ๋ยคอก (ฐานเอสเอส) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมโดยรวมของการย่อยอาหารวัตถุดิบเดียวของข้าวโพดกว่า 100% (? 2.9 คะแนน)
(ภาพ 3. และ 4) นอกจากนี้ผู้ร่วมการย่อยอาหารของมูลวัวกับข้าวโพดหมักหญ้าหมักและทั้งหมักพืชข้าวสาลีอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (ฐาน SS-1) และขนาดใหญ่ (ฐาน LS-1) โรงงานก๊าซชีวภาพตามลำดับเมื่อเทียบกับ การย่อยอาหารวัตถุดิบเดียวของหญ้าหมักหญ้าและทั้งหมักพืชข้าวสาลี ที่เกี่ยวกับความสมดุลของพลังงาน (Pöschl et al., 2010) ผลการชี้ให้เห็นว่าผู้ร่วมการย่อยอาหารของมูลวัวกับข้าวโพดหมัก (ฐานเอสเอส) และขยะที่มีเศษอาหาร (ฐาน LS) เป็นตัวแทนสถานการณ์ร่วมการย่อยอาหารที่มีประสิทธิภาพพลังงานมากที่สุด สำหรับโรงงานขนาดเล็กและ largescale ตามลำดับ หลักฐานจากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมเป็นความต้านทานที่สำคัญในวัตถุดิบที่สามารถนำมาใช้อย่างยั่งยืนในการผสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการวิจัยพบว่า บริษัท ย่อยของข้าวโพดหมักกับปุ๋ยคอก ( ฐาน SS ) จะปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมโดยรวมของการย่อยวัตถุดิบเดี่ยวของข้าวโพดกว่า 100% (  2.9 PT )
( Figs 3 และ 4 ) นอกจากนี้ บริษัท ย่อยของปุ๋ยคอกกับหมักข้าวโพดหญ้าอาหารสัตว์และพืชทั้งข้าวสาลีหมักอย่างมีนัยสำคัญปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับขนาดเล็ก ( ฐาน ss-1 ) และขนาดใหญ่ ( ฐาน ls-1 ) พืชก๊าซชีวภาพ ตามลำดับ เมื่อเทียบกับการย่อยวัตถุดิบเดียวของหมักหญ้าข้าวสาลีทั้งพืชอาหารสัตว์ ด้วยความเคารพเพื่อความสมดุลของพลังงาน ( P ö International et al . , 2010 ) พบว่า บริษัท ย่อยปุ๋ยคอกกับต้นข้าวโพดหมัก ( ฐาน SS )ขยะแห้งและอาหาร ( มีฐาน ) เป็นตัวแทนของพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด CO การย่อยอาหารสถานการณ์พืชขนาดเล็กและมากกว่า ตามลำดับ หลักฐานจากการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมเป็นค่าคีย์ที่สามารถใช้วัตถุดิบอย่างยั่งยืนในการผสม