Technology enables people to bypass

Technology enables people to bypass this barrier. Consider a fascinating study in which over 200 participants talked with a virtual human—that is, an artificially intelligent avatar who asked questions like a therapist would during an initial clinical interview and developed rapport through compassion (such as saying, “I’m sorry to hear that,”) and nonverbal behaviors (such as nodding). Half of the participants were led to believe that the virtual human was being operated by a real person in another room, whereas half thought it was an automated computer program.
Those in the first group felt more apprehensive about sharing personal details and remained more guarded. In contrast, participants who thought they were interacting with an automated program engaged in less impression management. In other words, they were more comfortable divulging secrets and being vulnerable to technology than to another person. This finding suggests that the technology-user relationship provides protection, at least ostensibly, that the therapist-client relationship does not. Without the anxiety of possible judgment or the threat to one’s self-esteem, and with the added security of anonymity, some people may feel more at ease to speak freely about their troubles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคโนโลยีทำให้คนสามารถข้ามอุปสรรคนี้ พิจารณาการศึกษาที่น่าสนใจในมากกว่าซึ่งผู้เข้าประชุมได้พูดคุยกับมนุษย์เสมือน — นั่นคือ avatar เทียมอัจฉริยะคนถามคำถามเช่นการบำบัดโรคจะต้นทางคลินิกระหว่างสัมภาษณ์ และพัฒนาสายสัมพันธ์ผ่านเมตตา (เช่นเป็นคำพูด ฉันเสียใจที่ได้ยินว่า"), และพฤติกรรมกริยา (เช่น nodding) ครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมที่นำให้เชื่อว่า มนุษย์เสมือนถูกดำเนินการ โดยบุคคลจริงในห้องอื่น ในขณะที่ครึ่งหนึ่งคิดว่า มันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัตโนมัติผู้ที่อยู่ในกลุ่มแรกรู้สึกวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว และยังคงรักษามากขึ้น ในความคมชัด ผู้ที่คิดว่า พวกเขากำลังมีปฏิสัมพันธ์กับโปรแกรมอัตโนมัติในการจัดการน้อยประทับใจ ในคำอื่น ๆ พวกเขาเป็นความลับ divulging เพิ่มความสะดวกสบายและการเสี่ยงต่อการเทคโนโลยีกว่าไปยังบุคคลอื่น ค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของผู้ใช้เทคโนโลยีช่วยป้องกัน น้อยอย่างเห็นได้ชัด การบำบัดโรคร่วมไม่ได้ ไม่ มีความวิตกกังวลของการพิพากษาไปได้หรือการคุกคามของความนับถือตนเอง และ กับการเพิ่มความปลอดภัยของตัวตน บางคนอาจรู้สึกใจพูดเกี่ยวกับปัญหาของตนได้อย่างอิสระมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคโนโลยีช่วยให้คนที่จะหลีกเลี่ยงอุปสรรคนี้ พิจารณาผลการศึกษาที่น่าสนใจในการที่ผู้เข้าร่วมกว่า 200 พูดคุยกับเสมือนมนุษย์ที่เป็นอวตารฉลาดเทียมที่ถามคำถามเช่นบำบัดโรคจะในระหว่างการสัมภาษณ์ทางคลินิกเริ่มต้นและพัฒนาความสามัคคีผ่านความเห็นอกเห็นใจ (เช่นพูดว่า "ฉันขอโทษที่ ได้ยินว่า ") และพฤติกรรมอวัจนภาษา (เช่นพยักหน้า) ครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมถูกนำไปสู่การเชื่อว่ามนุษย์เสมือนถูกดำเนินการโดยคนจริงในอีกห้องหนึ่งในขณะที่ครึ่งหนึ่งคิดว่ามันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติ.
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มแรกรู้สึกวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการแบ่งปันรายละเอียดส่วนบุคคลและยังคงรักษามากขึ้น ในทางตรงกันข้ามผู้เข้าร่วมที่คิดว่าพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับโปรแกรมอัตโนมัติมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการแสดงผลน้อย ในคำอื่น ๆ ที่พวกเขาสะดวกสบายมากขึ้นเปิดเผยความลับและความเสี่ยงต่อการเทคโนโลยีกว่าไปยังบุคคลอื่น การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีที่ผู้ใช้ให้ความคุ้มครองอย่างน้อยอย่างเห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์บำบัดโรค-ลูกค้าไม่ได้ ไม่ต้องวิตกกังวลของการตัดสินเป็นไปได้หรือเป็นภัยคุกคามต่อหนึ่งของภาคภูมิใจในตนเองและมีการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของตนบางคนอาจรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะพูดได้อย่างอิสระเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคโนโลยีที่ช่วยให้คนที่จะข้ามอุปสรรคนี้ พิจารณาการศึกษาที่น่าสนใจซึ่งกว่า 200 เข้าร่วมพูดคุยกับมนุษย์เสมือนว่าเป็นฉลาดเทียม Avatar ใครถามคำถามเหมือนนักบำบัดจะเริ่มต้นขึ้นในระหว่างการสัมภาษณ์ทางคลินิกและความสามัคคีผ่านความเห็นอกเห็นใจ ( เช่นบอกว่า " เสียใจด้วย " ) และมีพฤติกรรมแบบ ( เช่นพยักหน้า ) ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ถูกทำให้เชื่อว่ามนุษย์เสมือนถูกดำเนินการโดยคนห้องอื่น ในขณะที่ครึ่งคิดว่ามันเป็นคอมพิวเตอร์โปรแกรมกลุ่มแรกรู้สึกวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการแบ่งปันรายละเอียดส่วนบุคคลมากขึ้นและยังคงรักษา ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่คิดว่าพวกเขามีการโต้ตอบกับโปรแกรมอัตโนมัติมีส่วนร่วมในการจัดการความประทับใจน้อยลง ในคำอื่น ๆพวกเขาสะดวกสบายมากขึ้นเปิดเผยความลับและการเสี่ยงกับเทคโนโลยีมากกว่าบุคคลอื่น การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้เทคโนโลยีความสัมพันธ์ให้ความคุ้มครอง อย่างน้อยก็เห็นได้ชัดว่าพนักงานลูกค้าสัมพันธ์ไม่ได้ โดยไม่ต้องวิตกกังวลของการตัดสินที่เป็นไปได้หรือภัยคุกคามของการเห็นคุณค่าในตนเอง และเพิ่มความปลอดภัยของตน บางคนอาจจะรู้สึกสบายใจที่จะพูดได้อย่างอิสระเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา